หัวข้อ: สัญญาเปล่ากับลายเซ็นต์..."คนเซ็นต์รับผิดสถานเดียว" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 28, 2013, 09:17:56 am (http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/199973.jpg) สัญญาเปล่ากับลายเซ็นต์ ก่อนที่ท่านจะเซ็นต์ชื่อในเอกสารสัญญาใดๆ ต้องรับรู้ข้อความในสัญญาและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อน ท่านอาจเคยได้ยินหลายคนพูดกันว่า “การเซ็นต์ชื่อในแบบฟอร์มสัญญาเปล่าอาจจะเซ็นต์ให้ด้วยความไว้ใจ หรือจะเพราะเหตุใดก็แล้วแต่ แล้ววันหนึ่งมีเจ้าหนี้เรียกร้องให้ท่านชำระหนี้ เหตุใดจึงต้องรับผิดชอบตามแบบฟอร์มสัญญาแผ่นนั้น ซึ่งไม่เคยเห็นข้อความมาก่อน” หากคิดตามความเข้าใจของคนโดยทั่วไปอาจไม่ต้องรับผิดในสิ่งที่เขาไม่เคยรับรู้มาก่อน แต่หลักกฎหมายกำหนดขึ้นเพื่อสร้างความสงบสุขให้กับสังคม และคนทุกคนต้องรับผิดชอบทุกการกระทำของตน มิฉะนั้น สังคมจะมีความวุ่นวายโดยการปฏิเสธทุกการกระทำซึ่งเป็นผลร้ายต่อตนเองเสียทั้งหมด กฎหมายจึงกำหนดข้อยกเว้นความรับผิดชอบไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง นอกเหนือจากนั้นเขาจำต้องรับผิดชอบความเสียหายหรือหนี้ที่เกิดขึ้น ข้อเท็จจริงที่พบบ่อยในชีวิตประจำวันในปัจจุบันนี้ซึ่งสร้างความสงสัยแก่หลาย ๆ คนว่าเหตุใดเขาเซ็นต์ชื่อในสัญญาค้ำประกันที่ยังไม่มีการกรอกข้อความมาก่อน จึงต้องรับผิดชอบในหนี้ของลูกหนี้ด้วย ผู้เขียนขอยกตัวอย่างขึ้นเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น มีข้อพิพาทขึ้นสู่การพิจารณาของศาลจนกระทั่งมีผลการตัดสินออกมากรณีที่ นายกรณ์ (นามสมมุติ) ลงชื่อในสัญญาค้ำประกันซึ่งยังไม่มีการกรอกข้อความใดๆ พร้อมมอบสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชน ต่อมาวันหนึ่งเขาถูกฟ้องเรียกหนี้ค้ำประกันแทน นายกิตติ (นามสมมุติ) ลูกหนี้ตามสัญญาดังกล่าว พฤติกรรมเช่นนี้ถือเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อซึ่งเป็นการเสี่ยงภัยในการกระทำของตนเองอย่างร้ายแรง เมื่อมีการนำสัญญาค้ำประกันที่กรอกข้อความผิดไปจากเจตนาของตน อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง นายกรณ์ ไม่อาจอ้างความสำคัญผิดนั้นมาใช้ประโยชน์แก่ตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ซึ่งบัญญัติว่า ความสำคัญผิดในสาระสำคัญ หรือความสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคลหรือทรัพย์สิน ซึ่งเกิดขึ้นโดยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของบุคคลผู้แสดงเจตนา บุคคลนั้นจะถือเอาความสำคัญผิดนั้นมาใช้ประโยชน์แก่ตนไม่ได้ จึงทำให้นายกรณ์ต้องร่วมรับผิดกับนายกิตติลูกหนี้ต่อเจ้าหนี้ตามสัญญาค้ำประกันฉบับนั้น (คำพิพากษาฎีกาที่ 357/2548) กรณีตัวอย่างคำพิพากษาฎีกาข้างต้นเป็นตัวอย่างเตือนใจให้พึงระวังการเซ็นต์ชื่อในแบบฟอร์มสัญญาเปล่า แล้วไว้วางใจคนอื่นไปกรอกข้อความตามใจชอบ จนกระทั่งกลายเป็นลูกหนี้ในท้ายที่สุด ข้อวินิจฉัยของศาลในคดีดังกล่าวถือว่า พฤติกรรมแบบนี้เป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง และนำมาอ้างเพื่อยกเว้นความรับผิดชอบของตนมิได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายจากการกระทำที่เรียกว่า “ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง” ก่อนที่ท่านจะเซ็นต์ชื่อในเอกสารสัญญาใด ๆ ต้องรับรู้ข้อความในสัญญาและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อน ไม่ควรดำเนินการใด ๆ อย่างเร่งร้อนหรือขาดความรอบคอบ เนื่องจากหากเกิดเหตุใดผู้กระทำต้องรับผิดชอบตามสัญญาดังกล่าวโดยไม่อาจอ้างความสำคัญผิด ตามข้อกฎหมายเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนเองได้. นายพุฒิพงศ์ นิลสุ่ม สำนักกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง https://www.facebook.com/สำนักกฎหมาย-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (https://www.facebook.com/สำนักกฎหมาย-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/article/188732/199973 (http://www.dailynews.co.th/article/188732/199973) วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2556 เวลา 00:00 น. หัวข้อ: Re: สัญญาเปล่ากับลายเซ็นต์..."คนเซ็นต์รับผิดสถานเดียว" เริ่มหัวข้อโดย: Akira ที่ พฤษภาคม 01, 2013, 11:18:41 am ต้นเหตุ ของการโกง ก็อยู่ที่สัญญาเปล่า นี่แหละ ที่หมดเนื้อหมดตัว ก็เพราะสัญญาเปล่า ที่มีลายเซ็นต์เป็นต้นเหตุของหนัง หลาย ๆ เรื่อง จนชาวนา ชาวไร่ ต้องยอมส่งลูกเรียนเพื่อ มาทำให้ฉลาดขึ้น
แต่ปัจจุบัน ชาวรากหญ้า ก็ยังไม่ฉลาด ยังถูกฟอกซื้อได้ด้วยเงิน ก็มีอยู่เ้ป็นจำนวนมาก :67: :67: :67: :67: |