หัวข้อ: ชาวสีคิ้วต้านทุบโบสถ์มหาอุตถ์ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 09, 2013, 09:50:12 am (http://www.posttoday.com/media/content/2013/05/08/519C2121B95A449A83D70B5CC065A8B4.jpg) ชาวสีคิ้วต้านทุบโบสถ์มหาอุตถ์ ชาวสีคิ้วเปิดศึกหนุนและต้านทุบโบสถ์มหาอุตม์เก่าอายุเกือบ 100 ปี นายบัญชา ยินดี ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายรวินทร์ จิตสุทธิผล นายช่างเทคนิคอาวุโส สำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา ลงพื้นที่ไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้งของชาวบ้านต.บัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ทั้งฝ่ายคัดค้านและสนับสนุนพระครูวิสุทธิปทุมากร เจ้าอาวาสวัดลาดบัวขาว และรองเจ้าคณะอำเภอสีคิ้ว ที่จะทุบอุโบสถหลังเก่าที่มีอายุเกือบ 100 ปี เพื่อสร้างวิหารหลังใหม่แทนจนสร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรง นายมนตรี ศาสตร์คำวงค์ แกนนำชาวบ้านที่คัดค้านการทุบอุโบสถหลังเก่า กล่าวว่า ชาวบ้านหลายคนไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะมีการทุบทำลายอุโบสถหลังเก่า เนื่องจากทางวัดไม่เคยทำประชาคมก่อน และได้ทุบทำลายใบเสมารอบอุโบสถไปแล้วถึง 7 ใบ ซึ่งอุโบสถหลังนี้ถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวลาดบัวขาว ที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ถึงแม้ว่าจะไม่มีประติมากรรมสวยงาม แต่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับคนรุ่นหลัง ดังนั้นเมื่อตนและชาวบ้านหลายคนทราบข่าว จึงได้มาร้องคัดค้านไม่ให้วัดทำการทุบทิ้งครั้งนี้ ด้านพระครูวิสุทธิปทุมากร กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องทุบอุโบสถหลังเก่า เนื่องจากปัจจุบันมีความทรุดโทรมเป็นอย่างมาก โดยหลังคาก็ผุพัง ปูนผนังอุโบสถก็เสื่อมสภาพ กลัวว่าจะมีการพังถล่มลงมาในไม่ช้า จึงไม่ได้ใช้ทำสังฆกรรมมาเกือบ 10 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็ได้ใช้อุโบสถหลังใหม่ที่มีความสวยงาม ใหญ่โต และกว้างขวางกว่า ขณะที่พระพุทธรูปเก่าแก่ปางมารวิชัย อายุประมาณ 70 ปี ที่อยู่ภายในอุโบสถหลังเก่า ทางวัดก็ได้เตรียมที่จะสร้างวิหารหลังใหม่ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าวัด เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามากราบไหว้อย่างสะดวกสบาย โดยจะมีพิธีวางศิลาฤกษ์วิหารหลังใหม่ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ขณะที่นายรวินทร์ กล่าวว่า อุโบสถหลังนี้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานกับกรมศิลปากร เพราะสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี 2486 มีอายุเพียง 70 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ประติมากรรมของตัวอุโบสถก็ไม่ได้มีความพิเศษใดๆ รวมทั้งไม่มีความเกี่ยวโยงกับประวัติศาสตร์ยุคโบราณด้วย จึงไม่เข้าลักษณะที่จะขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานได้ ดังนั้นอำนาจการรื้อถอน หรือการบูรณปฏิสังขรณ์ จึงเป็นของวัดลาดบัวขาว และชาวชุมชนโดยรอบ ซึ่งทางออกที่ดีก็คือต้องให้มีการจัดหารือกันเอง เพื่อหาข้อสรุปว่าจะเรื้อถอน หรือทำการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ สำหรับอุโบสถเก่าของวัดลาดบัวขาวแห่งนี้ เป็นอุโบสถที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี 2486 มีลักษณะก่อด้วยอิฐแบบโบราณ พื้นปูน หลังคามุงกระเบื้อง ขนาดความกว้างประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 12 เมตร มีประตูเข้า – ออกได้ทางเดียว ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าโบสถ์มหาอุตม์ ภายในมีพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชื่อพระพุทธมิ่งเมืองชนะมาร อายุ 70 ปีเท่าอายุอุโบสถ เคยมีการบูรณปฏิสังขรณ์มาแล้วหลายครั้ง แต่ช่วงหลังๆ ไม่ได้ใช้งานประกอบพิธีสังฆกรรมมาแล้วเกือบ 10 ปี เพราะมีอุโบสถหลังใหม่ใช้งานแทนแล้ว จึงถูกทิ้งให้ทรุดโทรม จะกระทั่งมีการเตรียมที่จะทุบทิ้งในครั้งนี้ ขอบคุณภาพข่าวจาก www.posttoday.com/กทม.-ภูมิภาค/ภาคอิสาน/220849/ชาวสีคิ้วต้านทุบโบสถ์มหาอุตถ์ (http://www.posttoday.com/กทม.-ภูมิภาค/ภาคอิสาน/220849/ชาวสีคิ้วต้านทุบโบสถ์มหาอุตถ์) หัวข้อ: Re: ชาวสีคิ้วต้านทุบโบสถ์มหาอุตถ์ เริ่มหัวข้อโดย: rainmain ที่ พฤษภาคม 09, 2013, 09:55:22 am บางอย่างก็ต้อง อนุรักษ์ ไว้ให้ลูกหลาน ไว้ชม ไว้ดูกันด้วยนะครับ
thk56 หัวข้อ: Re: ชาวสีคิ้วต้านทุบโบสถ์มหาอุตถ์ เริ่มหัวข้อโดย: DANAPOL ที่ พฤษภาคม 09, 2013, 09:56:44 am เ็ห้นด้วยครับ ถ้า ลอง ที่อยุธยา สุโขทัย สร้างทุบ สร้างรื้อ ก็ไม่ได้เป็น มรดกโลก ใช่้หรือไม่ครับ
บางอย่างแสดงถึงวัฒนธรรม ของ ปู่ย่า ตายาย ทวด แล้ว ก็เหลือ ไว้บ้าง :s_hi: |