หัวข้อ: แค่นิ้วแตะก็อาจ ‘ติด’ ‘กฎโลกไซเบอร์’ ‘คุก!’ ง่ายๆถ้าละเมิด เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 11, 2013, 08:17:01 am (http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/203179.jpg) แค่นิ้วแตะก็อาจ ‘ติด’ ‘กฎโลกไซเบอร์’ ‘คุก!’ ง่ายๆถ้าละเมิด ระยะนี้ในประเทศไทยมีคำว่า ’พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์“ ปรากฏในข่าวบ่อยครั้ง ซึ่งก็ใช่เพียงข่าวด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ แม้แต่ข่าวทางการเมือง ข่าววงการบันเทิง ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ’กฎหมายคอมพิวเตอร์“ หรือแบบเต็ม ๆ คือ ’พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์“ นั้น เป็นหนึ่งในกฎหมายของประเทศไทยที่มีการตราขึ้นเพื่อให้สอดรับกับยุคสมัยไฮเทค-ไอที โลกไซเบอร์ฟีเวอร์ โดยได้มีการประกาศและมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่กลางปี 2550 แล้ว เหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ก็คือ เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นส่วนสำคัญของการประกอบกิจการและการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย พ.ร.บ.นี้เกี่ยวข้องทั้งกับระบบคอมพิวเตอร์ รวมถึง “การใช้คอมพิวเตอร์ของประชาชน” ทั้งนี้ แม้ พ.ร.บ.ฉบับนี้จะว่าด้วยคอมพิวเตอร์ แต่ก็ใช่ว่าจะครอบคลุมเพียงการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รูปแบบเดิม ๆ เท่านั้น กับการใช้อุปกรณ์อื่น ๆ อย่างเครื่องโทรศัพท์มือถือแบบ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ที่สามารถเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต โซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็อยู่ภายใต้ขอบข่ายการควบคุม และคนไทยก็ไม่อาจปฏิเสธกฎหมายนี้ :s_good: :s_good: :s_good: กับเนื้อหาของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็สามารถหาดูในอินเทอร์เน็ตได้ไม่ยาก และในเว็บไซต์กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารก็มีข้อมูล ซึ่งเนื้อหาส่วนที่ประชาชน ผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์-อินเทอร์เน็ตทั่ว ๆ ไป ’ควรจะต้องใส่ใจ“ ก็คือ หมวด 1 ’ความผิด“ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมาตราและเนื้อหา ก็มีอาทิ... มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 8 ผู้ใดกระทำการเพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น และข้อมูลนั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 9 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 10 ผู้ใดกระทำการให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 11 ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูล อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่น มีโทษ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท :49: :49: :49: หากจะยกตัวอย่างโดยเน้นที่รูปแบบการใช้งานทั่ว ๆ ไปมากขึ้นอีก ก็เช่น... การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต่อความมั่นคงของประเทศ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน หรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่มีลักษณะอันลามก และประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลโดยรู้อยู่แล้วว่า เป็นข้อมูลตามที่ว่ามา เหล่านี้มีความผิดตามมาตรา 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอีกตัวอย่างคือ... ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลง โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย นี่ผิดตามมาตรา 16 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้เสียหายในความผิดได้ตายเสียก่อนจะได้ร้องทุกข์ บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหาย ก็ร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย ทั้งนี้ กับการใช้งานคอมพิวเตอร์-อินเทอร์เน็ตของประชาชนทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะโดยอุปกรณ์รูปแบบใด ที่มักจะละเมิดจนมีความผิด ก็คือมาตราหลัง ๆ ที่ยกตัวอย่าง ซึ่งก็มีทั้งที่ทำโดยที่รู้ว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ทำ ซึ่งจะด้วยเหตุผลอะไรนั่นก็สุดแท้แต่ และที่ทำโดยไม่รู้ว่าผิด ไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะอย่างไร ถ้าผู้ที่ทำไม่ใช่ระดับเซียนไอที แฮกเกอร์ การทำผิดผ่านโลกไซเบอร์นั้น การตามหาผู้ที่ทำผิดทำได้ไม่ยาก ขณะที่การหนีความผิดทำได้ยาก สมัยก่อนจะเข้าโลกไซเบอร์ต้องใช้นิ้วพิมพ์หรือคลิก มาถึงสมัยนี้แค่ใช้นิ้วแตะ ๆ ก็สามารถจะเข้าได้แล้ว แต่ ’แค่แตะก็อาจติดคุก“ ก็ต้องระวังให้จงดี!!!!!. ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/article/223/203179 (http://www.dailynews.co.th/article/223/203179) วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2556 เวลา 00:00 น. |