สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 14, 2013, 07:22:13 am



หัวข้อ: 101 ปี..ชาตกาลหลวงพ่อพูลไหว้ครู-ครอบเศียรพระพรหมฯ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 14, 2013, 07:22:13 am

(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/05/11/344175/hr1667/630.jpg)
หลวงพี่น้ำฝนประพรมน้ำมนต์แก่เหล่าร่างทรง.

101 ปี..ชาตกาลหลวงพ่อพูลไหว้ครู-ครอบเศียรพระพรหมฯ

พระมงคลสิทธิการ.....หรือ “หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข” อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นครปฐม ถือว่าเป็นอมตะเถราจารย์รูปหนึ่ง ซึ่งได้รับความศรัทธาเลื่อมใสและยกย่องว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี” แม้ว่าจะละสังขารไปแล้วนานถึง 8 ปี

หลวงพ่อพูลเป็นชาวนครปฐม โดยกำเนิด เกิดเมื่อปี 2455 ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ ทุกวันวิสาขบูชาจะพาศิษยานุศิษย์จัดพิธีกรรม “ไหว้ครู” มาอย่างต่อเนื่อง และถึงแก่มรณภาพในวันวิสาขบูชาปี 2548

หลังละสังขาร...สรีระไม่เน่าเปื่อย ยังคงสภาพเดิมทุกประการ กระทั่ง ณ วันนี้..!!!


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/05/11/344175/o3/420.jpg)
หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข

ด้วยการปลูกฝังอารยธรรมที่ดี เหล่า ศิษยานุศิษย์จึงสืบสานกิจกรรมมาโดยตลอด  เน้นถึงความกตัญญูต่อครูอาจารย์ ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทศาสตร์ให้ หัวเรือใหญ่คือ “พระครูปลัดสิทธิวัฒน์” (หลวงพี่น้ำฝน กิตติจิตโต)  ศิษย์ก้นกุฏิผู้เป็น ทายาทธรรมที่ก้าวย่างตามรอยขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต่อจากหลวงพ่อพูล

ปีนี้เป็น “101 ปีชาตกาลหลวงพ่อพูล” คือเกินศตวรรษและย่างสู่คาบ “2nd Century” จึงจัดงานให้เต็มสัปดาห์ มีพิธีกรรมหลายหลากกว่าทุกๆครั้ง  แต่ก็มิทิ้งกิจประจำที่ถือปฏิบัติ ยังให้ความสำคัญทุกขั้นตอน

ประเด็นแรก....มุ่งถึงสรีระของหลวงพ่อพูล โดยเริ่มวันที่ 19 พฤษภาคม นำร่างมา ทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าครองสังขารใหม่ตามพิธีกรรมที่ถือปฏิบัติกันทุกๆปีคือสรงน้ำหลวงพ่อ ณ ศาลาการเปรียญ ในช่วงย่ำค่ำ คาบเวลาเดียวกันนั้นก็จัดถวายเครื่องสักการะสังเวยเทพยดาผู้ครองสรีระ  ต่อด้วยคณะสงฆ์ไผ่ลอมทั้งวัดสวดพระพุทธมนต์ธรรมนิยมสูต

21 พฤษภาคม....ประกอบพิธีกรรมปลุกเสกรูปหล่อองค์ลอยและเหรียญพระพรหมประกาศิต เพื่อจ่ายแจกศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสในวันไหว้ครู โดยตั้งแต่ 17.59 น. เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมจะทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณหลวงพ่อพูลร่วมพลังปลุกเสกแผ่เมตตา พร้อมด้วยพระเถราจารย์ร่วมพิธีกรรมนั่งปรกอธิษฐานจิตเพื่อความเข้มขลัง

มงคลอันเป็นอนุสรณ์ “101 ปีชาตกาลหลวงพ่อพูล”นี้ มาจากคติความคิดทุกครั้งที่หลวงพ่อพูลจะเทศนา สั่งสอนหรือเผยแผ่พระธรรม จะต้องท่อง บทคาถาด้วย “พรหมาจะโลกา....” อันเน้นถึง พระ พรหมผู้เป็นเทพเจ้าสูงสุด ผู้สร้างโลก ผู้ให้สิ่งกำเนิดสิ่งต่างๆในจักรวาล และให้กำเนิดคัมภีร์พระเวท

จึงได้สร้างพระพรหมขึ้นพร้อม บันทึกยันต์คาถาหัวใจพระพรหม เม กะ มุ อุ (เม-เมตตา กะ-กรุณา มุ-มุทิตา อุ-อุเบกขา) ให้เป็นคติ เตือนใจศิษยานุศิษย์หลวงพ่อพูล หลังได้รับจ่ายแจกมงคลวัตถุ


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/05/11/344175/o4/420.jpg)
พีธีครอบครูให้ศิษยานุศิษย์.

22 พฤษภาคม....วันนี้เมื่อปี 2548 เป็นวันวิสาขบูชาและวันละสังขารของหลวงพ่อพูลอย่างสงบ ขณะที่ทางวัดประกอบพิธีไหว้ครู จึงนำ เอาเมตตาบารมีอันเปี่ยมล้นในจิตของหลวงพ่อพูล...เป็นประเด็นในงาน

ด้วย...หลวงพ่อพูลจะไม่ขัดขวางเส้นทางศรัทธาใดๆของใคร ในทางตรงกัน ข้าม กลับให้ความสนับสนุนเพื่อให้บรรลุและเกิดความสุขต่อสิ่งที่เลื่อมใส โดยเฉพาะในช่วงขณะนั้น ศิษยานุศิษย์บางกลุ่มมีความเชื่อต่อเทพเจ้า จึงจัด ชุมนุมเทพ (ร่างทรงเทพเจ้าต่างๆ)ให้เป็นกิจกรรมในวันนี้

เพื่อให้พวกเขา ได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อองค์เทพ ทั้งหลาย โดยมอบหมายให้ เสด็จพี่กุมารเพชรน้อย สามตานารายณ์ทอง เป็นผู้ดำเนินงานฝ่ายเทพ แต่อยู่ ภายใต้ความดูแลของหลวงพี่น้ำฝน

“มีตำนานว่า......ก่อนพระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพาน ได้ตรัสถามพระอานนท์ถึง 5,000 ปีแห่งอายุของพุทธกาล ใครจะมาทำหน้าที่อะไรบ้าง ก็ได้รับคำตอบคือ...


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/05/11/344175/o6/420.jpg)
เศียรพระพรหมที่จะนำครอบครูในปีนี้.

ขอให้....พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ภิกษุณี ชีพรามหณ์ อุบาสก อุบาสิกา เป็นผู้ดูแลบำรุงพระศาสนากึ่งหนึ่ง (2,500 ปี) พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตแล้ว ปวงเทพ โดยมี พระพรหม พระอินทร์ พระยม พระกาฬ กับเหล่าเทวดาอารักษ์ทั้งหลาย เสริมต่อขอดูแลต่ออีกกึ่ง ไป จนถึงยุคเสื่อมและหมดสิ้น

.....เป็นไปตามพุทธฎีกากำหนด จากปี 2500 เป็นต้นมา ปวงเทพทั้งหลายรับหน้าที่เข้ามาดูแลบำรุงรักษาศาสนา จะเห็นได้ว่าวัดวาอารามต่างๆได้สร้างเทพขึ้นบูชากราบไหว้กัน

รูปธรรมที่สอดคล้อง...ปัจจุบันมีร่างทรงผุดขึ้น มาอย่างมากมาย ด้วยองค์เทพเป็นเพียงอากาศธาตุ จึงต้องอาศัยมนุษย์ซึ่งมีครบทั้ง 4 ธาตุคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาประทับร่างเพื่อติดต่อกับมนุษย์ จุดประสงค์เพื่อจะมาดูแลบำรุงพระพุทธศาสนา

การชุมนุมเทพจะเริ่มตอนเช้าด้วยการเปิดศาลเพียงตา ตกเย็นหัวค่ำ หลวงพี่น้ำฝนนำทีมกวนน้ำอมฤต (น้ำทิพย์) แล้วเหล่าร่างทรงเทพ ร่วมเติมพลังมนต์ขลังด้วยเสียงสวดบูชา เคล้าเสียงดนตรีคละกลิ่นธูปควันเทียนท่ามกลางฝูงผู้ศรัทธา และตกแต่งสถานที่ด้วยดอกไม้ รังสรรค์บรรยากาศรอบๆให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในการบูชาครูบาอาจารย์ ตามประเพณีของความเชื่อ....


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/05/11/344175/o5/420.jpg)
พระพรหมองค์ลอย.

24 พฤษภาคม...วิสาขบูชาแห่งปี 2556 หลวงพี่น้ำฝนจัดพิธีไหว้ครูครอบครูบูรพาจารย์ เพื่อประกาศคุณงามความดี ถวายความกตัญญูกตเวทีแด่ครูบาอาจารย์ ที่ทรงคุณอันประเสริฐ

ปีนี้จัดครอบเศียรพระพุทธพรหมประกาศิต ตามนิมิตบัญชาของหลวงพ่อพูลผู้เป็นอาจารย์ ตามตำรับ โบราณอันเป็นเทพเจ้าสูงสุด ผู้สร้างความเจริญ เบิกบาน ทรงอานุภาพในการลิขิตชะตาชีวิต โดยควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎแห่งกรรม

หลังเสร็จพิธี....จึงจะจ่ายแจกวัตถุมงคลอันเป็นอนุสรณ์ “101ปีชาตกาลหลวงพ่อพูล”รูปหล่อองค์ลอยและเหรียญพระพรหมประกาศิต แก่ศิษยานุศิษย์ผู้มีจิตเลื่อมใสศรัทธา....

....เสริมความสุขและ พลังบารมีแห่งปี 2556 ด้วยกตัญญูกตเวที..!!

ก้อง กังฟู


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.thairath.co.th/column/life/badal/344175 (http://www.thairath.co.th/column/life/badal/344175)