หัวข้อ: คำถามต่อกองทัพ “พระเจ้าตาก” เอาตัวรอด-เลยตามเลย หรือกู้ชาติ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 18, 2013, 07:58:44 am (http://www.matichon.co.th/online/2013/05/13686932821368693316l.jpg) คำถามต่อกองทัพ “พระเจ้าตาก” เอาตัวรอด-เลยตามเลย หรือกู้ชาติ วันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 231 ปี การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือพระนามที่รู้จักกันแพร่หลายว่า “พระเจ้าตากสิน” แม้พระองค์จะเสด็จสวรรคตไปสองร้อยกว่าปี แต่ด้วยคุณูปการสำคัญ “กู้อิสรภาพของสยาม” เรื่องราวของพระองค์จึงยังกล่าวขานกันต่อๆ มา บางประเด็นเป็นตำนานบอกเล่า เช่น คำทำนายว่าพระองค์และนายทองด้วงจะได้เป็นกษัตริย์ทั้งคู่, พระเจ้าตาก “บ้า”, พระเจ้าตากหนีรอดการประหารที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ ฯลฯ หรือบางประเด็นที่มีการค้นคว้าจากเอกสารหลักฐาน เช่น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงปฏิเสธให้สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีพระสหายพบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสำเร็จโทษ, การพระราชทานเพลิงพระบรมศพของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีในปี พ.ศ. 2537 ฯลฯ โดยมี “ปรามินทร์ เครือทอง” เป็นหนึ่งในผู้ที่ตามติดค้นคว้าเรื่องของพระเจ้าจากอย่างต่อเนื่องในหลายประเด็น ล่าสุดนิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับเดือนพฤษภาคม นำเสนอบทความของเขาชื่อ “เส้นทางกู้ชาติพระเจ้าตาก : ทำไมต้องหัวเมืองตะวันออก?” (http://www.matichon.co.th/online/2013/05/13686932821368693325l.jpg) บทความนี้เริ่มจากการถกเถียงเรื่องเจตนาที่แท้จริงของพระเจ้าตากสิน ระหว่าง “หนีเอาตัวรอด” กับ “กู้ชาติ” เอกสารเก่าพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา และหนังสือไทยรบพม่าของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เห็นตรงกันเช่นนั้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตั้งสมมติฐานว่า การกู้ชาติของพระเจ้าตากเป็นลักษณะ “เลยตามเลย” โดยพระองค์กล่าวว่า “ขณะเมื่อพระยาตากยกไปจากกรุงศรีอยุธยานั้น ความมุ่งหมายเห็นจะมีเพียงที่จะหนีให้พ้นภัยจากข้าศึก ไปคิดหาภูมิลำเนาตั้งรักษาตัวเท่านั้น ยังหาได้คิดจะตั้งตัวเป็นใหญ่ในเมืองไทยไม่ การที่ได้รบพุ่งปราบปรามในตอนนี้ก็เพียงแต่รบพวกพม่าข้าศึก กับพวกนายซ่องซึ่งตั้งตนเป็นอิสระนอกกฎหมายเหมือนกับโจร พระยาตากพึ่งไปพบปะเกี่ยวข้องกับข้าราชการอันเป็นเจ้าหน้าที่รักษาการตามกฎหมาย ต่อเมื่อลงไปถึงเมืองระยอง แต่การที่พระยาตากไปตั้งรวบรวมรี้พลเป็นอิสระอยู่ที่เมืองระยองนั้น ชั้นแรกผู้ว่าราชการเมืองเป็นผู้มาเชื้อเชิญไปในเวลาบ้านเมืองเกิดยุคเข็ญ และพระยาตากก็หาได้ประพฤติร้ายต่อเจ้าหน้าที่อย่างหนึ่งอย่างใดไม่ เพราะฉะนั้นในชั้นต้นฐานะของพระยาตากยังไม่ถึงเป็นผู้คิดประทุษร้ายต่อรัฐบาลเดิม แต่การที่พระยาตากตีเอาเมืองระยองเป็นของตน ทำให้ฐานะเปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้ละเมิดกฎหมาย ชะรอยพระยาตากก็จะคิดเห็นเช่นว่านี้จึงตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่ตามเลย” ขณะที่เอกสารเก่าอย่างพระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) บันทึกถึงพระราชปณิธานพระเจ้าตากในการ “กู้ชาติ” ซึ่งน่าจะมีตั้งแต่แรกว่า “ครั้นพระองค์ได้ทอดทัศนาเห็นก็สังเวชสลดพระทัย ด้วยอาลัยถึงสมณพราหมณาจารย์ขัตติยวงศานุวงศ์ แลเสนาพฤฒามาตย์ราษฎรแลพระบวรพุทธศาสนา มิใคร่จะไปได้ ดุจมีใจย่อหย่อนจากอุตสาหะ ซึ่งตั้งปณิธานปรารถนาว่าจะแก้กรุงเทพมหานคร ทั้งพระบวรพุทธศาสนาเทพดาเจ้าจึงบรรดาลให้สมฤดีมีกำลังกรุณาอุตสาหะ” พระเจ้าตากสินมีพระปณิธานเช่นใด ผู้เขียน(ปรามินทร์) ไม่ได้ฟันธง แต่เลือกที่จะพิสูจน์จากเส้นทางที่พระองค์ทรงเลือกใช้ในการเดินทาง โดยอ้างอิงจากเอกสารเก่าแก่หลายฉบับ เช่น ประชุมพงศาวดารภาคที่ 65, พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา, จดหมายความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี, ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา ฯลฯ (http://www.matichon.co.th/online/2013/05/13686932821368693331l.jpg) รายละเอียดเส้นทางที่พระเจ้าตากทรงเลือกใช้มีดังนี้ วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2309 : พระเจ้าตากสินและไพร่พลประมาณ 1,000 นาย เดินทางออกจากพระนครศรีอยุธยา ประมาณเที่ยงวันเดินทางถึงวัดพิชัยที่ฝั่งตะวันออกของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ตอนค่ำเดินทางถึงบ้านหารตรา ปะทะกับกองทัพพม่าที่ไล่ติดตามและได้ชัยชนะ ประมาณเที่ยงคืนเดินทางถึงบ้านสัมบัณฑิต วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2309 : เดินมุ่งหน้าไปทางตะวันออกผ่านบ้านโพสังหาร และบ้านพรานนก ปะทะกับพม่าและได้ชัยชนะเช่นเดิม วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2309 : เข้าเขตเมืองนครนายก วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2309 : ถึงตำบลหนองไม้ซุ้ม พักแรมที่นี้ 2 วัน แล้วเดินทางต่อไปที่บ้านนาเริ่ง พักอีก 1 คืน ก่อนจะเดินทางต่อไปด่านกบแจะ เมืองปราจีนบุรี ฯลฯ เส้นทางที่กล่าวมานั้น เป็นเส้นทางเดินทัพที่ใช้เดินทัพไปกัมพูชาตั้งแต่ต้นกรุงศรีอยุธยา หรือวกขึ้นเหนือไปหนีเข้าโคราช แต่พระเจ้าตากสินเลือกเดินทางลงใต้มาที่ศรีมหาโพธิ์เพื่อเดินทางไปหัวเมืองชายทะเล เช่น บางปลาสร้อย, นาจอมเทียน, สัตหีบ, บ้านนาเกลือ ฯลฯ ทำไมพระเจ้าตากทรงเลือกเส้นทางสายนี้ มหาราชวงศ์พงศาวดารพม่าบันทึกเหตุปัจจัยไว้อย่างน่าสนใจ ชัยชนะของกองทัพพระเจ้าตากที่ค่ายโพธิ์สามต้นไม่ใช่โชคช่วย หากทุกอย่างมีการวางแผนและคาดการณ์ไว้แล้ว เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างที่ดีในหลายประเด็น ภาวะผู้นำในยามคับขันก็ดี การบันทึกเหตุการณ์ในอดีตทั้งในแต่ละยุคขึ้น เป็นไปตามทัศนะของบุคคลและสภาพแวดล้อมขณะนั้น แต่ที่น่าดีใจมากคือเรื่องราวผ่านมา 200 กว่าปี มีการบันทึกค่อนข้างละเอียดทั้งมีหลายสำเนาให้เทียบเคียงความถูกต้อง เหตุการณ์ของบ้านเมืองสมัยเราๆ ที่ยังรางๆ เลือนๆ วันหนึ่งก็คงค่อยๆ ชัดขึ้นจากหลักฐานต่างๆ เช่นกัน ถ้าคนในอนาคตคิดจะหาคำตอบ วิภา จิรภาไพศาล wipha_ch@yahoo.com ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1368693282&grpid=01&catid=&subcatid= (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1368693282&grpid=01&catid=&subcatid=) วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15:50:40 น. |