สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง แถวบริเวณตะเข็บชายแดนไทย-ลาว ว่ามีผู้ค้นพบพระพุทธรูปโบราณโผล่อยู่กลางแม่น้ำโขง บริเวณตรงข้ามบ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย  จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายนพคุณ สุวรรณ์ ผู้ใหญ่บ้านสบกก พร้อมชาวบ้านกลุ่มยืนอยู่เต็มตลิ่ง ขณะที่มีชาวบ้านบางส่วนได้พากันนั่งเรือหางยาวข้ามไปยังฝั่งประเทศลาวกันอย่างคึกคัก

นายนพคุณ กล่าวว่า ชาวบ้านพากันตื่นเต้นที่มีชาวลาวในบ้านร่มเย็น เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามค้นพบพระพุทธรูป ในแม่น้ำโขงซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่แต่ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้
    เพราะบริเวณแถวนี้เป็นนครสุวรรณโคมคำที่เคยรุ่งเรืองในอดีตมาก่อน
    ซึ่งชาวบ้านแซวเองก็เคยพบวัตถุหรือเครื่องใช้โบราณในพื้นที่มาแล้วหลายชิ้น
    แต่ยังไม่เคยพบพระพุทธรูปขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าน่าจะกว้างกว่า 4 เมตรเช่นนี้มาก่อน
    หากมีการขุดค้นขึ้นมาได้ก็จะเป็นพุทธบูชาและอาจทำให้มีผู้คนมาท่องเที่ยวยังพื้นที่ อ.เชียงแสน และเดินทางข้ามไปกราบไหว้พระโบราณกันมากขึ้น

ด้านท้าวปิงชัย อินต๊ะพรหม ผู้อาวุโสหรือชาวลาวเรียกกันว่าพ่อใหญ่ของบ้านร่มเย็นเล่าให้ฟังว่าในอดีตบริเวณหมู่บ้านเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณชื่อว่าสุวรรณโคมคำ แต่ด้วยเป็นหมู่บ้านเป็นบ้านเล็กไม่มีพระจำศีลกระทั่งปัจจุบันหมู่บ้านขยายมีวัดมีพระถึง 11 รูปแต่ขาดพระประธาน จนมีชาวประมงมาพบจึงช่วยกันออกมาค้นหาอย่างจริงจัง

    ซึ่งเบื้องต้นได้วัตถุมงคลมาแล้วหลายชิ้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้โบราณ
    แผ่นศิลาที่มีการเคลือบทองเอาไว้ด้วย รวมทั้งคัมภีร์ภาษาบาหลี
    ส่วนตัวพระนั้น เป็นพระปูนผสมดินกี่ ซึ่งตามความเชื่อและให้พระอาจารย์ประจำหมู่บ้านเข้าทางในดู
    เชื่อกันว่าเป็นพระที่มีชื่อว่า น้ำใจเทพ ซึ่งเป็นหนึ่งในพระดังสมัยสุวรรณโคมคำที่มีอายุกว่า 480 ปี
    ซึ่งยังเห็นแต่หัวไหล่อยู่ในลักษณะตะแคงคว่ำ ส่วนเศียรพระคาดว่าอาจถูกเรือหรือกระแสน้ำพัดจมลงไปใต้ดิน แต่ทางหมู่บ้านจะพยายามนำขึ้นมาให้ได้เพื่อนำไปเป็นพระประธานประจำหมู่บ้านและใช้ศึกษาทางประวัติศาสตร์ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่าตามตำนานนครสุวรรณโคมคำเป็นอารยธรรมโบราณ เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ ที่ชาวลาวขนานนามว่า "พระเจ้าองค์โมง" หรือ "พ่อใหญ่" หน้าตักกว้าง 6.50 เมตร สูง 7 เมตร     
    โดยรอบเมืองจะมีสถูปเจดีย์อยู่จำนวนมาก รวมถึงโบราณสถานหลายแห่งที่อายุกว่า 1,000 ปี
    เป็นอาณาจักรของชาวล้านนาในอดีตช่วงที่ล้านนาเรืองอำนาจ
    แต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนน้ำแม่น้ำโขงเปลี่ยนทิศทาง ทำให้นครสุวรรณโคมคำถูกแบ่งออกจากกัน
    ส่วนหนึ่งอยู่ฝั่งเมืองต้นผึ้งของลาว อีกส่วนอยู่ฝั่งไทยที่ ต.บ้านแซว 

    อย่างไรก็ตามแม้หลายคนเชื่อว่าพระที่ค้นพบจะเป็นพระน้ำใจเทพ แต่ก็มีชาวลาวและชาวไทยจำนวนมากเชื่ออาจเป็นพระสิงห์หนึ่ง ซึ่งจะมีอยู่อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี เนื่องจากบริเวณแห่งนี้ก็เคยเป็นนครเชียงแสนที่เคยรุ่งเรืองในอดีตเช่นกัน

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370316336&grpid=02&catid=&subcatid= (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370316336&grpid=02&catid=&subcatid=)
วันที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 10:25:25 น.

พบพระพุทธรูปโบราณโผล่กลางน้ำโขง ชายแดนไทย-ลาว คาดอายุกว่า 1,000 ปี ในนครสุวรรณโคมคำที่เคยรุ่งเรืองในอดีต

4 มิ.ย.56 ที่ ส.ป.ป.ลาว ชายฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณตรงข้ามบ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้มีชาวบ้านพบพระพุธรูปโผล่กลางแม่น้ำโขง ซึ่งนายนพคุณ สุวรรณ์ ผู้ใหญ่บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พร้อมชาวบ้านได้กางเต็นท์อยู่ที่บริเวณดังกล่าว และมีประชาชนจาก ส.ป.ป.ลาว นั่งเรือหางยาวข้ามไปยังฝั่งประเทศลาวกันอย่างคึกคัก

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130604/160172/ฮือฮา!พระพุทธรูปโผล่กลางน้ำโขง.html#.Ua6gt9j0YXF (http://www.komchadluek.net/detail/20130604/160172/ฮือฮา!พระพุทธรูปโผล่กลางน้ำโขง.html#.Ua6gt9j0YXF)