สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 16, 2013, 06:33:38 am



หัวข้อ: ตะลึง!ภาพถ่าย'โมเลกุล'ครั้งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 16, 2013, 06:33:38 am


(http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2013/06/tec02140656p1.jpg&width=360&height=360)

ตะลึง!ภาพถ่าย'โมเลกุล'ครั้งแรก

โครงสร้างสสารในระดับ "โมเลกุล" ถือเป็นระดับที่นักเคมีเมื่อหลายร้อยปีก่อนยังไม่เคยเห็นจวบจนกระทั่งปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์และนักศึกษาด้านเคมี ยังคงใช้ความรู้และหลักเกณฑ์การวาดโครงสร้างโมเลกุลเหล่านี้จากประสบการณ์และความรู้ของนักเคมีที่สืบทอดบ่มเพาะกันมา ซึ่งผ่านการทดลองและลองผิดลองถูกมานานนับร้อยปี

คณะนักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการแห่งชาติ "เบิร์กเลย์" ของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ประสบความสำเร็จในการถ่ายภาพ "โมเลกุล" ของสาร oligo-(phenylene-1,2-ethynylenes) ขณะทำปฏิกิริยาและเปลี่ยน แปลงกลายเป็นสารชนิดใหม่ที่มีรูปร่างโมเลกุลแตกต่างจากเดิมในไม่กี่วินาทีต่อมา ซึ่งนับความสำเร็จของการถ่ายภาพในระดับ "โมเลกุลของสารขณะทำปฏิกิริยา" ครั้งแรกของโลก!

ที่น่าตกใจกว่านั้น คือรูปร่างโครงสร้างของสารเหล่านี้มีลักษณะเหมือนกันกับโครงร่างที่นักเคมีในปัจจุบันและในอดีตเมื่อนับร้อยปีก่อนที่เป็นผู้คิดค้นทฤษฎีและกฎการเขียนโครงสร้างโมเลกุลไว้แบบเป๊ะๆ อีกด้วย!

นายเฟลิกซ์ ฟิสเชอร์ หนึ่งในคณะนักวิจัย กล่าวว่า ทางคณะใช้เทคนิคที่เรียกว่า nc-AFM ซึ่งอาศัยหลักการของพลังงานระดับอนุภาค (Atomic force) ที่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการไหลของอนุภาคอิเล็ก ตรอน (คลื่นไฟฟ้า) ขณะเข็มตรวจวัดวิ่งผ่านเหนือสารเป้าหมายไป จากนั้นเครื่องจะประมวลภาพที่ได้ออกมา ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่ง เนื่องจากภาพมีความละเอียดสูง จนสามารถแยกประเภทของพันธะ (Bond) ได้ออกเป็น พันธะเดี่ยว พันธะคู่ และพันธะสาม ได้ด้วยตาเปล่า

"ภาพที่เราได้เห็นขณะนี้ คือ สิ่งยืนยันถึงความถูกต้องแม่นยำของทฤษฎีทางด้านเคมีของมนุษยชาติ"
เอ็กซตรีมเทคระบุ

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROMFpXTXdNakUwTURZMU5nPT0=&sectionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBeE15MHdOaTB4TkE9PQ== (http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROMFpXTXdNakUwTURZMU5nPT0=&sectionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBeE15MHdOaTB4TkE9PQ==)