สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 24, 2013, 07:55:08 am



หัวข้อ: เขาอ้อ มหาวิทยาลัยสุวรรณภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 24, 2013, 07:55:08 am
(http://3.bp.blogspot.com/_jqZ_3cC7k2c/TJio_M7MZTI/AAAAAAAACDY/CtUqiwgFlJI/s1600/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD00.JPG)

เขาอ้อ มหาวิทยาลัยสุวรรณภูมิ

ชุดความรู้ เรื่อง “เขาอ้อ มหาวิทยาลัย พราหมณ์ แห่งสุวรรณภูมิ” คุณชาลี ศิลปรัศมี บรรยายทางวิทยุ คลื่น 107.75 และคลื่น 95.0 เมื่อ 24–25 พ.ค.2550 มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า เขาอ้อ เป็นภูเขาเล็กลูกโดดๆมีรูปพรรณคล้ายศิวลึงค์ ตั้งอยู่กลางทุ่งนา พื้นที่อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

ราว พ.ศ.400 พราหมณ์จากอินเดียนำศาสนา พราหมณ์เข้ามาเผยแพร่ และตั้งรกรากชุมชนพราหมณ์ แห่งแรกในแถบสุวรรณภูมิ แห่งที่หนึ่ง บริเวณแม่น้ำสุไหงปาฮัต ในมาเลเซีย แห่งที่สอง เขาอ้อ พัทลุง แห่งที่สาม ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา หรือเขาพระทอง

พราหมณ์อพยพหลังศาสนาพุทธรุ่งเรืองในอินเดีย คำสอนไม่แบ่งชั้นวรรณะ สอนให้เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่ต้องไปพึ่งพราหมณ์หรือพึ่งพาพระเจ้า...มีผลให้ประชาชนไม่เลี้ยงดูพราหมณ์

พราหมณ์พวกหนึ่งปักหลักสู้อยู่ในอินเดีย แปลง คำสอนว่าพระพุทธเจ้า คือ พุทธาวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์ กลายเป็นพุทธมหายาน หรือฮินดูพุทธ

พราหมณ์พวกสองอพยพมาสุวรรณภูมิ ตั้งศาสนาพราหมณ์ตามเส้นทางเดินเรือโบราณ แต่งงานกันเอง ทั้งแต่งกับหญิงพื้นเมือง ลูกชายที่เกิดมาต้องทำพิธีเกิดเป็นพราหมณ์ เรียกว่า พิธีเข้าพรตสืบทอดความเป็นนักบวชแบบพราหมณ์ต่อ ขณะเดียวกันก็ประกอบอาชีพตามสภาพท้องถิ่น


(http://prakrueng.muanglung.com/khaoor3.JPG)

คุณชาลีบอกว่า สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงส่งพระโสณะ พระอุตระ เป็นคณะพระธรรมทูต จากอินเดียมาสู่นครศรีธรรมราช พ.ศ.245 (ไปถึงศรีสุวรรณะ (นครปฐม) ราว พ.ศ.274)

ช่วงเวลานั้นมีเส้นทางน้ำทะลุจากทะเลอันดามันมาอ่าวไทยฝั่งตะวันออก 6 สาย การเดินทางไปสู่ขอมและจีนจึงง่าย ไม่ต้องอ้อมไปทางช่องแคบมะละกา...แต่ต่อมาเกิดการทับถม ทางน้ำ 6 สายจึงลีบเล็กลงไป โดยเส้นทางนี้ ชุมชนพราหมณ์เกิดขึ้นที่เขาอ้อ พัทลุง ราว พ.ศ.400 ชุมชนพราหมณ์ที่ตะกั่วป่า เกิดราว พ.ศ.500

ช่วงเวลาเหล่านี้ มีเมืองสำคัญๆเกิดขึ้นหลายเมือง เมืองสุวรรณปุระ (นครปฐม) อาณาจักรพนม กระบี่ สุราษฎร์ เมืองมลราช ที่ลานสะกา ราว พ.ศ.700 ชุมชนเผ่าชวากะ มีเมืองชายทะเลหลายเมือง ปากพญา ที่ อ.ปากพนัง เมืองสิงหนคร ที่สงขลา เมืองสะทิงพระ หรือเมืองสะทิงพาราณสี ที่พราหมณ์จากเมืองพาราณสี อพยพมาอยู่พัทลุง


(http://phram.net/images/stories/brahma-in-thailandphram%20khao%20o10.jpg)

ราว พ.ศ.700 คลอเดียดปโตเลมี นักภูมิ-ศาสตร์กรีก ได้ทำแผนที่การคมนาคมระหว่างอินเดียกับจีนเอาไว้ ปโตเลมีใช้คำเรียกบริเวณภาคใต้ที่มีลักษณะเป็นเกาะแก่ง เกาะตัวกันเป็นแนวยาวคล้ายแหลมของแผ่นดินว่า “Golden Khersonese” คำนี้สมเด็จกรมพระยา ดำรงราชานุภาพทรงแปลว่า แหลมทอง หรือสุวรรณภูมิ

    สมัยโบราณ การแพทย์สมัยใหม่ คลินิก โรงพยาบาลยังไม่มี จึงเป็นหน้าที่ของนักบวช ฤาษี ชีไพร หรือพระภิกษุ สำนักเขาอ้อได้ชื่อมหาวิทยาลัยแห่งสุวรรณภูมิ มีสองสาขาวิชาหลัก คือ
    วิชาการแพทย์ และวิชาพระเวทชั้นสูงของพราหมณ์
รวมทั้งศิลปศาสตร์ 18 ประการ
    จากทิสาปาโมกข์ จากการเป็นพราหมณ์ต้นแบบจากเมืองพาราณสี คนชั้นสูงระดับองค์ชาย และประชาชนในบ้านเมืองใกล้เคียงจึงส่งลูกหลานมาร่ำเรียนมากมาย ไม่แพ้มหาวิทยาลัยนาลันทา ในอินเดียใต้ มหาวิทยาลัยตักสิลา ในอินเดียเหนือ


(http://4.bp.blogspot.com/_jqZ_3cC7k2c/TDRdcr0TV_I/AAAAAAAABgs/jwdbEqr6MdQ/s320/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD01.jpg)

     คุณชาลีบอกว่า ยังมีการบวชพราหมณ์อีกชั้นเมื่ออายุ 48 ปี เป็นการบวชเพื่อสละการครองเรือน
     ไปปลีกวิเวกในป่า เรียกว่า พราหมณ์ฤาษีมุ่ง “พรหมนิพพาน” หาความหลุดพ้นจากสภาวะเป็นมนุษย์
     มีความเชื่อกันว่า พราหมณ์ฤาษีมีอายุนับพันนับหมื่นปี เพราะสะกดกาลเวลา หรือ “กาลจักร” ในตัวตนเอาไว้ได้

     พราหมณ์จะไม่กินเนื้อวัว เพราะเชื่อว่าเป็นลูกหลานโคนนทิ พาหนะทรงของพระศิวะ
     และไม่กินปลาไหล เพราะเชื่อว่าเป็นอวัยวะเพศที่พระศิวะตัดทิ้งหลังทรงละอายที่ไปสมสู่กับนางกวาง...

    เมื่อถึงเวลาตาย...พราหมณ์ที่เก่งจริงจะต้องนั่งตายในขณะสวดพระเวท
    การตายแบบนี้จะได้รับการเคารพสักการะจากคนรุ่นหลัง จึงมีการหุ้มศพเอาไว้...ไม่เผา
    วิชานั่งตาย ขึ้นชื่ออยู่ในอาณาจักรศรีโพธิไชยา ราว พ.ศ.926 มีพระภิกษุระดับปรมาจารย์จากอินเดียเดินทางมาเรียนรู้ แล้วนำกลับไปอินเดีย แพร่หลายไปสู่ทิเบต จึงมีผลให้ลามะผู้ใหญ่นั่งตายกันหลายรูป.

บาราย


ที่มา http://www.thairath.co.th/column/pol/kumpee/352816 (http://www.thairath.co.th/column/pol/kumpee/352816)
ขอบคุณภาพจาก http://3.bp.blogspot.com/ (http://3.bp.blogspot.com/) , http://phram.net/ (http://phram.net/) , http://4.bp.blogspot.com/ (http://4.bp.blogspot.com/)


หัวข้อ: Re: เขาอ้อ มหาวิทยาลัยสุวรรณภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: patra ที่ มิถุนายน 24, 2013, 09:19:19 am
วิชานั่งตาย น่าสนใจ แต่ทีไปที่มา ยังไม่ชัดเจน ว่ามีวิชานี้ จริง หรือไม่ หรือเป็นเพียงกล่าวอ้าง เท่านั้น

  :s_hi: thk56