หัวข้อ: ละกิเลสได้ แต่ละวาสนาไม่ได้ ไม่ทราบว่ามีความหมายว่าอย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: waterman ที่ มิถุนายน 24, 2013, 12:46:42 pm ask1
ละกิเลสได้ แต่ละวาสนาไม่ได้ ไม่ทราบว่ามีความหมายว่าอย่างไร ฟังในรายการ แต่ฟังไม่ทัน ไม่ค่อยจะเข้าใจ ขอผู้รู้ช่วยอธิบายด้วย คะ thk56 หัวข้อ: Re: ละกิเลสได้ แต่ละวาสนาไม่ได้ ไม่ทราบว่ามีความหมายว่าอย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 24, 2013, 08:07:59 pm (http://i.ytimg.com/vi/VQ6st-NDTO4/0.jpg) เรื่องพระปิลินทวัจฉเถระ ข้อความเบื้องต้น พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภพระปิลินทวัจฉเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อกกฺกสํ" เป็นต้น. พระปิลินทวัจฉะใช้วาทะว่าคนถ่อยจนติดปาก ได้ยินว่า ท่านปิลินทวัจฉะนั้นกล่าวคำเป็นต้นว่า "คนถ่อยจงมา, คนถ่อยจงไป" ย่อมร้องเรียกทั้งคฤหัสถ์ทั้งบรรพชิต ด้วยวาทะว่าคนถ่อยทั้งนั้น. ภายหลังวันหนึ่ง ภิกษุเป็นอันมากกราบทูลแด่พระศาสดาว่า "พระเจ้าข้า ท่านปิลินทวัจฉะย่อมร้องเรียกภิกษุทั้งหลาย ด้วยวาทะว่าคนถ่อย." พระศาสดารับสั่งให้หาท่านมาแล้ว ตรัสถามว่า "ปิลินทวัจฉะ ได้ยินว่า เธอร้องเรียกภิกษุทั้งหลาย ด้วยวาทะว่าคนถ่อยจริงหรือ?" เมื่อท่านกราบทูลว่า "อย่างนั้น พระเจ้าข้า" จึงทรงกระทำบุพเพนิวาสของท่านปิลินทวัจฉะนั้นไว้ในพระหฤทัย แล้วตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่ายกโทษแก่ภิกษุชื่อปิลินทวัจฉะเลย, ภิกษุทั้งหลาย วัจฉะหามีโทสะในภายใน ร้องเรียกภิกษุทั้งหลายด้วยวาทะว่า คนถ่อยไม่, ans1 ans1 ans1 ภิกษุทั้งหลาย ๕๐๐ ชาติของภิกษุชื่อวัจฉะไม่สับสนกันทั้งหมดนั้นเกิดแล้วในตระกูลพราหมณ์ ในภายหลัง, วาทะคนถ่อยนั้น เธอร้องเรียกมาแล้วตลอดกาลนาน, ถ้อยคำกระทบกระทั่งชนเหล่าอื่น อันเป็นคำระคายหู คำหยาบคายนั่นเทียว ชื่อว่าย่อมไม่มีแก่พระขีณาสพ, เพราะว่าบุตรของเรากล่าวอย่างนั้น ด้วยอำนาจแห่งความเคยชิน" :25: :25: :25: เมื่อจะทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :- อกกฺกสํ วิญฺญาปนึ คิรํ สจฺจํ อุทีรเย ยาย นาภิสเช กญฺจิ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ. ผู้ใด พึงกล่าวถ้อยคำอันไม่ระคายหู อันให้รู้กันได้ เป็นคำจริง อันเป็นเหตุไม่ยังใครๆ ให้ขัดใจ, เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นพราหมณ์. ________________________________________ อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พราหมณวรรคที่ ๒๖ http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=36&p=25 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=36&p=25) :49: :49: :49: วาสนา อาการกายวาจา ที่เป็นลักษณะพิเศษของบุคคล ซึ่งเกิดจากกิเลสบางอย่าง และได้สั่งสมอบรมมาเป็นเวลานานจนเคยชินติดเป็นพื้นประจำตัว แม้จะละกิเลสนั้นได้แล้ว แต่ก็อาจจะละอาการกายวาจาที่เคยชินไม่ได้ เช่น คำพูดติดปาก อาการเดินที่เร็ว หรือเดินต้วมเตี้ยม เป็นต้น ท่านขยายความว่า วาสนา ที่เป็นกุศล ก็มี เป็นอกุศล ก็มี เป็นอัพยากฤต คือ เป็นกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่ว ก็มี ที่เป็นกุศลกับอัพยากฤตนั้นไม่ต้องละ แต่ที่เป็นอกุศลซึ่งควรจะละนั้น แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ - ส่วนที่จะเป็นเหตุให้เข้าถึงอบาย - กับส่วนที่เป็นเหตุให้เกิดอาการแสดงออกทางกายวาจาแปลกๆ ต่างๆ ส่วนแรก พระอรหันต์ทุกองค์ละได้ แต่ส่วนหลัง พระพุทธเจ้าเท่านั้นละได้ พระอรหันต์อื่นละไม่ได้ จึงมีคำกล่าวว่า พระพุทธเจ้าเท่านั้นละกิเลสทั้งหมดได้ พร้อมทั้งวาสนา ; ในภาษาไทย คำว่า วาสนา มีความหมายเพี้ยนไป กลายเป็นอำนาจบุญเก่า หรือกุศลที่ทำให้ได้รับลาภยศ ________________________________________________ พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ans1 ans1 ans1 พระปิลินทวัจฉะใช้วาทะว่า "คนถ่อย" จนติดปาก เพราะด้วยอำนาจแห่งความเคยชิน ท่านกล่าวคำนี้มาตลอด ๕๐๐ ชาติ วาทะคนถ่อยนี้ เป็นวาสนาของท่านที่ละไม่ได้ ดังอรรถกถาจารย์กล่าวไว้ อรหันตสาวกละกิเลสได้ แต่ละวาสนาไม่ได้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ละกิเลสทั้งหมดได้ พร้อมทั้งวาสนา พระปิลินทวัจฉเถระ เป็นเอตทัคคะในทางผู้เป็นที่รักใคร่ของเทพยดา อ่านประวัติได้ที่ http://www.84000.org/one/1/41.html (http://www.84000.org/one/1/41.html) :25: :25: :25: หัวข้อ: Re: ละกิเลสได้ แต่ละวาสนาไม่ได้ ไม่ทราบว่ามีความหมายว่าอย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ มิถุนายน 25, 2013, 08:39:14 am thk56 thk56 thk56 st12 st12 st12
|