สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 25, 2013, 09:43:21 am



หัวข้อ: ปฏิรูปศาสนา วาระแห่งชาติ เพื่อพลิกฟื้นคืนความสุขให้แก่คนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 25, 2013, 09:43:21 am


(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/213942.jpg)

ปฏิรูปศาสนา วาระแห่งชาติ เพื่อพลิกฟื้นคืนความสุขให้แก่คนไทย

ตามที่พวกเรามักจะเห็นข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมทางวินัยของพระสงฆ์  ตลอดจนการจัดมหรสพเพื่อหาเงินเข้าวัด  มีการเต้นระบำด้วยท่าทางและการแต่งกายล่อแหลมภายในวัด  แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่เคร่งครัดเอาจริงเอาจังในการป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น  ผมในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งมีความรู้สึกเป็นห่วงต่อสังคมไทยซึ่งคนด้วยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ  โดยส่วนตัวผมทำงานที่ต้องพบพูดคุยและให้คำปรึกษาผู้กระทำความผิดอาญาและนักโทษจำนวนมากซึ่งการกระทำผิดส่วนหนึ่ง นั้นคือ การทำผิดศีลห้าซึ่งถือเป็นหลักปฏิบัติหนึ่งในคำสอนของศาสนาพุทธ 

ผมรู้สึกเฉลียวใจว่าความจริงแล้วคนไทยจำนวนมากมีชื่อทางทะเบียนว่านับถือศาสนาพุทธ แต่คนเหล่านั้นกลับไม่ได้ปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนแต่อย่างใด  หากเปรียบเทียบกับบุคคลที่นับถือศาสนาอื่นๆ บางศาสนาก็จะพบว่า พวกเขามีการประพฤติปฏิบัติต่อคำสอนหรือความเชื่อของศาสนาและสังคมของตนได้ดีพอสมควร 
    หากศาสนาสอนไม่ให้ดื่มสุรา  พวกเขาก็จะไม่ดื่มสุรา  หากสังคมนั้นตั้งข้อรังเกียจการมีชู้ แต่สอนให้มีผัวเดียวเมียเดียว (หรือมีเมียได้  ๔  คน  โดยเปิดเผย  แต่ห้ามมีชู้)  พวกเขาก็จะปฏิบัติตาม  เป็นต้น 
    แต่หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกสังคมนั้นเองตำหนิติเตียนหรืออาจได้รับโทษทัณฑ์ 

    นอกจากคำสอนแล้วการร่วมพิธีกรรมทางศาสนานั้นๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมและจรรโลงจิตใจจนนับได้ว่าซึมแทรกเข้ากับกิจวัตรประจำวันของพวกเขา  เช่นการเข้าโบสถ์วันอาทิตย์  การทำละหมาดวันละหลายๆ ครั้ง  ทุกๆ วัน

 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

หากย้อนมาดูศาสนาพุทธก็จะพบว่ามีคำสอนหลักสำหหรับฆราวาสคือการให้ทาน  รักษาศีล  เจริญภาวนา  ประกอบกับกิจวัตรประจำวันคือการตักบาตร  สวดมนต์  เข้าวัดในวันพระ  อย่างไรก็ตามด้วยสังคมไทยพัฒนาด้านวัตถุมากขึ้น  คนไทยจำนวนมากจึงต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบเพื่อทำการงาน  ดูแลตนเองและครอบครัว  จนไม่มีเวลาให้กับศาสนา  ผลที่เกิดขึ้นก็คือ  จะหาคนไทยที่สวดมนต์เพียงวันละครั้งก็ยากเต็มที  และจำนวนมากไม่รู้จักศีลห้าดีเพียงพอว่าสอนอะไรบ้าง  ท่องได้ไม่ครบ  ๕  ข้อ  และโดยส่วนใหญ่ทำผิดศีลครบทั้ง  ๕  ข้อ  ขอย้ำว่าคนไทยส่วนใหญ่ทำผิดศีลห้าเป็นประจำทุกวัน 

ซึ่งหากจะเรียกได้ว่าคนเหล่านั้นไม่ใช่พุทธศาสนิกชนอีกต่อไปก็ไม่ผิดนัก  ข้อเท็จจริงเหล่านี้สามารถอ้างอิงข้อมูลได้จากสถิติทั่วโลกเกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรม  การดื่มสุรา  การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร  การทุจริตคอรัปชั่น  ฯลฯ  ซึ่งประเทศไทยมักติดอันดับต้นๆ แทบจะไม่แพ้ชาติใดในโลก  ทั้งๆ ที่โลกนี้มีประเทศต่างๆ ทั้งสิ้นกว่า  ๑๒๐  ประเทศก็ตาม 

เรื่องบางเรื่องเป็นสิ่งที่คนไทยเห็นกันจนชินตาตั้งแต่ภายในครอบครัวของตนเองจนกระทั่งระดับผู้นำประเทศ  ไม่ว่าจะเป็นการดื่มสุรา  เสพยาเสพติด  การนอกใจสามีหรือภรรยา  การพูดจาโกหกหลอกลวง  การโกงในทุกระดับ  ฯลฯ  และแน่นอนสิ่งต่างๆ เหล่านี้ท้ายที่สุดได้นำมาซึ่งปัญหาของสังคมและอาชญากรรม

 :49: :49: :49:

สิ่งที่ผมจะสื่อมิได้ประสงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนไทยโดยฉับพลัน  แต่หากมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ  การที่ผมต้องรับฟังปัญหาจากนักโทษจำนวนมากและประสบพบเห็นความเสื่อมทรามของสังคมแล้วจึงมั่นใจว่าปัญหาที่สำคัญนั้นเกิดจากคนไทยห่างไกลจากศาสนามากขึ้น 

สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะคนไทยเบื่อหน่ายพระสงฆ์จำพวกที่มีความประพฤติไม่เหมาะสมกับวินัย  ใช้ชีวิตหรูหรายึดติดในวัตถุ  ทำคุณไสย  ปลุกเสกดินและหิน  หาได้ศึกษาพระธรรมวินัยแต่อย่างใดไม่  หากจะเดินเข้าวัดก็เห็นวัดจำนวนมากมีการดำเนินการเชิงพุทธพาณิชย์  ไม่มีความสมถะ  ไม่น่าเลื่อมใส 

แต่สาเหตุที่สำคัญมากก็คือ  คนไทยสมัยใหม่แทบจะไม่เคยเข้าวัดเพื่อฟังธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเลย  พวกเขาเข้าวัดตามเทศกาลเพื่อจะได้ออกจากบ้านมาพบปะผู้คนเท่านั้น  บางส่วนเอาเงินมาทำบุญทำทาน  แต่ก็ไม่รู้ว่าผลบุญของการทำทานเป็นอย่างไร  มีผลมากน้อยเพียงใด  ส่วนใหญ่กลายเป็นสนับสนุนให้พระและวัดยึดติดกับการพัฒนาวัตถุ  มิใช่พัฒนาจิตใจคนแต่อย่างใด

 :25: :25: :25:

ข้อเสนอของผมนั้นเรียบง่ายแต่หากผู้มีอำนาจนำไปใช้อย่างจริงจังก็จะเกิดผลดีแก่สังคมไทยอย่างทันตา  มีเพียง  ๒  ข้อ ได้แก่ 
     ๑. จัดให้มี “วันฆราวาส” เป็นวันที่ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาและพากันไปเข้าวัดฟังธรรมทุกวันอาทิตย์ (เพราะวันพระไม่ตรงกับวันอาทิตย์  ยุคปัจจุบันนั้นไม่ใช่สมัยพุทธกาล  ฆราวาสจึงต้องทำงานหรือเรียนวันจันทร์ถึงวันศุกร์)  โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลศาสนามีการโฆษณาปลุกกระแสโดยใช้ดารานักแสดงเชิญชวนให้ทุกคนไปเข้าวัดเพื่อฟังธรรมทุกวันอาทิตย์ 
     ๒. ยกเลิกกฎหมายที่อนุญาตให้วัดจัดงานมหรสพหรือจัดงานเรี่ยไร  (การทำบุญทำทานเป็นเรื่องการสมัครใจของฆราวาส  ไม่ใช่หน้าที่ของวัดที่จะมอบความบันเทิงเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงิน  หากวัดใดไม่มีเงินสร้างโบสถ์  สร้างวิหาร  ก็ไม่ต้องสร้าง  หากไม่ครบองค์ประกอบก่อตั้งเป็นวัด  ก็ให้ยุบตัวลงเป็นเพียงสำนักสงฆ์หรือสำนักปฏิบัติธรรม)

 :03: :03: :03:

ผลที่เกิดขึ้นก็คือ  ครอบครัวจะมีความผูกพันกันมากขึ้น  มีคำสอนของศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้ทำชั่ว  (ปัจจุบันคนจำนวนมากมีเงินเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ  และทำชั่วด้วยการผิดศีลห้าเพื่อให้ได้เงินมา)  ส่วนพระสงฆ์และวัดเองก็จะไม่หลงผิดทาง  แต่จะรู้จุดประสงค์ของตนเองว่ามีหน้าที่อบรมธรรมะขัดเกลาจิตใจคนในสังคมตามแนวคำสอนของพระพุทธเจ้า 
     มิฉะนั้นแล้วคนดีๆ ในสังคมก็คงจะท้อแท้ใจพากันไม่ศรัทธาในศาสนา 
     แม้กระทั่งพระสงฆ์ดีๆ ก็อาจจะลาสิกขาออกไปดังที่เป็นข่าวไม่นานมานี้ 
     ผมเห็นว่าปัจจุบันประชาชนจำนวนมากออกมาต่อสู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยเพื่อรักษาสถาบันชาติ  สถาบันพระมหากษัตริย์  แต่ถ้าไม่ออกมาพัฒนาสถาบันศาสนาแล้วธงชาติไทยจะมีสีขาวไว้เพื่ออะไร

     สุมิตร  โปตระนันทน์


ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/article/358/213942 (http://www.dailynews.co.th/article/358/213942)


หัวข้อ: Re: ปฏิรูปศาสนา วาระแห่งชาติ เพื่อพลิกฟื้นคืนความสุขให้แก่คนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: KIDSADA ที่ มิถุนายน 25, 2013, 12:40:30 pm
คนเขียน ควรไปทำโพลล์ มาก่อน ว่าความเข้าใจของศาสนา การเป็นพุทธศาสนิก ที่เรียกว่า พุทธศาสนิก นั้นเป็นอย่างไร ทุกศาสนา มีผู้ปฏิบัติ ดี และ ปฏิบัติ ไม่ดี ทั้งนั้น

   ศาสนา ที่ยกมาอ้างมา ว่าดี กว่าชาวพุทธ ให้ไปศึกษาให้ดีเสียก่อน ว่า ศาสนา นี้เป็น ศาสนา เป็น ศาสนา แห่งการทำลายล้างมวลมนุษยชาต หลายครั้งที่มีการเข่นฆ่า ก็ คือ ศาสนา ที่คนเขียน ยกขึ้นมาอ้างว่า ศาสนิก เขาดี อย่างนั้น อย่างนี้

   หากพุทธศาสนา ไม่มีคนปฏิบัติ แล้ว ศูนย์ ปฏิบัติธรรม ทั่วประเทศคงไม่มี ดูวัดธรรมกาย เป็นตัวอย่างเลย จำนวน ผู้ปฏิบัติ และ ศรัทธา เคารพ มีจำนวนมาก ในสายอื่น ๆ ก็เช่นกัน สังคมที่สงบสุขได้ เป็น เพราะพุทธบริษัท ที่ดี ยังมีจำนวนมาก

   เหมือนดำรัสในหลวง ให้ส่งเสริมคนดี อย่าส่งเสริมคนไม่ดี

   มองตามมุม คือ ผู้เขียนมองมุมเดียว เอาอะไรมาวัด ว่าเป็นศาสนิก ดี หรือ ไม่ดี คนเขียน ดีหรือ ยัง รักษาศีล 8 บ้างหรือ ยั้ง เคยบวชพระปฏิบัติดี ขนาดไหน

   เคยสร้างวิหารทาน ธรรมทาน ด้วยตนเองหรือยัง

    :s_hi: :49:


หัวข้อ: Re: ปฏิรูปศาสนา วาระแห่งชาติ เพื่อพลิกฟื้นคืนความสุขให้แก่คนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: DANAPOL ที่ มิถุนายน 25, 2013, 12:52:43 pm
เอาเวลาที่จะทำ มาช่วยกัน สอดส่อง บริหารบ้านเมืองกันเถอะ เรื่องไม่เป็นเรื่องไปจัดระเบียบพระสงฆ์ ให้ มส. ทำงานก็พอแล้ว อย่าเสือกเข้าไปยุ่งจะดีกว่า นะครับ ( ขออภัยใช้คำแรงหน่อย )

   ตอนนี้วัดร้าง มีจำนวนมาก
   พระสงฆ มีจำนวนน้อยลงทุกวันแล้ว ดู สถิติ สงฆ์ในเว็บเสีย แทบจะหาพระกันไม่ได้แล้ว
   พวกที่บั่นทอน โดยการอ้างนั่นอ้างนี่ เคยไปใช้สถานที่วัดทำอะไรกันบ้าง
   อีกพวก(ระยำ) ที่ออกมาต่อต้านการรับปัจจัยสงฆ์ คิดแต่จะให้มี พระอริยะ หรืองไง ในสังคม
   สงฆ์ มี สองแบบ แบบ อริยสงฆ์ และ สมมุติสงฆ์ ที่นี้ที่ต่ออายุพระพุทธศาสนานั้น ไม่ใช่เพียงอริยะสงฆ์เท่านั้นหากแต่ สมมุตสงฆ์ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการต่ออายุพระพุทธศาสนา

   เอาเวลาไปช่วยบ้าน ช่วยเมือง ส่วนอื่น เถอะ ตรงนี้เขามีองค์กรจัดการอยู่แล้ว

   :49: :smiley_confused1: :welcome:


หัวข้อ: Re: ปฏิรูปศาสนา วาระแห่งชาติ เพื่อพลิกฟื้นคืนความสุขให้แก่คนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ปัญญสโก ภิกขุ ที่ มิถุนายน 26, 2013, 07:49:54 am
คิดได้ยังไง ปฏิรูปศาสนา  ศาสนาที่เรามีอยู่กันมากว่า 2500 กว่าปีนี้ยังดีไม่พอหรือ ยังคงต้องปฏิรูปศาสนาอีกอยู่หรือ (แรงไปหน่อย เล่นคำ)

ศาสนานะดีอยู่แล้ว  คงไม่ต้องไปบัญญัติอะไรเพื่อมเติม อย่างที่พระพุทธองค์ทรงบอก คงจะมีแต่ให้ทำตาม ทำตามให้ได้ ไม่ใช่ว่าทำตามไม่ได้เอง แล้วบอกใหม่ให้ทำตามอย่าง นี้ นี้

ถ้าจะปฏิรูป ก็ปฏิรูปพวกเราเนี้ยแหละ ที่ไม่ค่อยได้ประพฤติปฏิบัติตามแนวพุทธกัน ศาสนาพุทธ ไม่ให้กินเหล้า แต่ประเทศไทย ซึ้งนับถือพุทธ มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งชาติ แต่ให้มีการขายเหล้าได้ กินเหล้าได้ เออ แปลกดี แค่นี้พอ เดียวจะยาว พอให้ได้คิดกัน  :96:


หัวข้อ: Re: ปฏิรูปศาสนา วาระแห่งชาติ เพื่อพลิกฟื้นคืนความสุขให้แก่คนไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ มิถุนายน 26, 2013, 08:59:23 am
ปฏิรูป คือ การเปลี่ยแปลง ระบบ แปลงร่างใหม่

 ไม่เห็นด้วย กับ การปฏิรูป เพราะว่า พระพุทธศาสนาสถิตย์ ในไทยตอนนี้เหมาะสมแล้วกับคนไทย ถึงแม้จะมีคนทำผิดศีลบ้าง แต่ คนมีศีล ก็ยังมีอยู่มาก คนกินเหล้าวันนี้ไม่ดี แต่ก็ใช่ว่า คนกินเหล้าวันนี้ จะเลิกกินเหล้าไม่ได้

  :49: