หัวข้อ: ไหว้หลวงพ่อพระใส ดูทะเลหมอกหนองคาย เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 01, 2013, 06:57:38 am (http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2013/06/tra03290656p1.jpg) ไหว้หลวงพ่อพระใส ดูทะเลหมอกหนองคาย คอลัมน์ เที่ยวกันมะ โดย travel@matichon.co.th การยกระดับอำเภอบึงกาฬ ขึ้นเป็นจังหวัดที่ 77 ของไทย มีผลต่อแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดหนองคายอยู่ไม่น้อย เพราะการแยกหลายอำเภอในบริเวณดังกล่าวยกระดับขึ้นรวมกันเป็นจังหวัดบึงกาฬ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นกับหนองคายเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง ทำให้หน่วยงานต่างๆ ต้องเร่งค้นหาและเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่ที่แน่ๆ ใครมาถึงหนองคาย ต้องไม่พลาดสักการะ หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองหนองคาย ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย ซึ่งมีฐานะเป็นวัดอารามหลวง :49: :49: :49: หลวงพ่อพระใสเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก ตามตำนานเล่าว่า เป็นพระพุทธรูปหล่อในสมัยล้านช้าง โดยพระธิดา 3 องค์แห่งกษัตริย์ล้านช้างเป็นผู้สร้าง บ้างก็ว่า พระราชธิดาของพระไชยเชษฐาธิราช ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ และขนานนามพระพุทธรูปตามนามของตนเองว่า พระเสริมประจำพี่ใหญ่ พระสุกประจำคนกลาง พระใสประจำน้องสุดท้อง มีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ เดิมหลวงพ่อพระใสประดิษฐาน ณ เมืองเวียงจันทน์ ต่อมาในรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ เมืองเวียงจันทน์เป็นกบฏ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ เป็นจอมทัพยกพลมาปราบ จึงได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม และพระใส ลงมาด้วย โดยอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ ล่องมาตามลำน้ำงึมจนมาถึงปากน้ำโขง เฉียงกับบ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เกิดพายุใหญ่ จนพระสุกได้แหกแพจมลงไปในน้ำ บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า ?เวินสุก? และพระสุกก็จมอยู่ในน้ำตรงนั้นมาจนถึงปัจจุบัน เหลือแค่พระเสริมและพระใส ซึ่งเมื่อมาถึงหนองคาย ได้อัญเชิญพระเสริมขึ้นประดิษฐานที่วัดโพธิชัย ส่วนพระใสอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง (ปัจจุบันคือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ) ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าให้อัญเชิญพระเสริมและพระใสมากรุงเทพฯ แต่หลวงพ่อพระใสได้แสดงปาฏิหาริย์จนเกวียนหัก จึงอัญเชิญลงไปไม่ได้ ได้แต่พระเสริมมาประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม ส่วนหลวงพ่อพระใสได้อัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จนถึงปัจจุบัน ความอัศจรรย์ของหลวงพ่อพระใสจนได้สมญาว่า "หลวงพ่อเกวียนหัก" :sign0144: :sign0144: :sign0144: ส่วนแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของหนองคาย เพิ่งเปิดตัวไปกับ ทะเลหมอก แห่งเดียวของหนองคาย ที่หลังภูอีสัน ตำบลบ้านม่วง ห่างจากตัวอำเภอตามเส้นทาง อ.สังคม-อ.ปากชม จ.เลย ประมาณ 17 กิโลเมตร ซึ่งภูอีสันเป็นภูเขาเตี้ยๆ ที่มีถนนที่สามารถใช้รถเพื่อการเกษตรขึ้นไปได้ โดยใช้เวลาเดินทางไปถึงยอดเขาไม่ถึง 10 นาที และต้องเดินเท้าอีกเล็กน้อยเพื่อหาจุดชมวิว ก็จะพบทะเลหมอกที่ขาวโพลน เป็นทางยาวสุดลูกหูลูกตา ที่โอบล้อมภูเขาจนเห็นเพียงยอดภูเขาเท่านั้น ซึ่งทะเลหมอกจะมีการเคลื่อนไหวตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้บางครั้งมีลักษณะเป็นชั้นๆ ม้วนตัวคล้ายคลื่นทะเล บางขณะก็เหมือนน้ำตก สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ ทะเลหมอกที่เกิดขึ้น เป็นหมอกที่อยู่ตอนบนของแม่น้ำโขง คือ ฝั่งขวาจะเป็นฝั่งไทย และฝั่งซ้ายเป็นฝั่ง สปป.ลาว สำหรับช่วงเหมาะชมทะเลหมอกเป็นช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เวลาเช้ามืดประมาณตีห้าครึ่ง ไปจนถึงประมาณ 9 โมงเช้า :25: :25: :25: นอกจากนี้ ยังมีเหมืองแร่ทองแดงและเหมืองทองคำเก่า ที่วัดเขาคีรีวงกต บ้านภูเขาทอง ต.บ้านม่วง ห่างจากตัวอำเภอไปตามเส้นทาง อ.สังคม ไป อ.ปากชม จังหวัดเลย ประมาณ 20 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชม เมื่อไปเที่ยวในเขตอำเภอสังคม เหมืองทองแดงและเมืองทองคำเก่าแห่งนี้ เป็นแหล่งโบราณคดีภูโล้น ได้เคยมีการสำรวจและดำเนินการขุดค้นแล้ว ที่อำเภอสังคม มีสถานที่มากมายหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกธารทอง น้ำตกธารทิพย์ จุดชมวิววัดผาตากเสื้อ หรือวัดถ้ำเพียงดิน เลือกเที่ยวกันตามอัธยาศัย!! ขอบคุณภาพข่าวจาก หน้า 14,มติชนรายวัน ฉบับวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2556 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1372496653&grpid=&catid=09&subcatid=0901 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1372496653&grpid=&catid=09&subcatid=0901) หัวข้อ: Re: ไหว้หลวงพ่อพระใส ดูทะเลหมอกหนองคาย เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กรกฎาคม 01, 2013, 10:12:18 am st11 st12
หัวข้อ: Re: ไหว้หลวงพ่อพระใส ดูทะเลหมอกหนองคาย เริ่มหัวข้อโดย: suchin_tum ที่ กรกฎาคม 01, 2013, 08:55:00 pm อนุโมทนาสาธุ st12 st11
|