หัวข้อ: มหาเจดีย์ที่ร้อยเอ็ด เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 02, 2013, 07:52:17 am (http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/215475.jpg) มหาเจดีย์ที่ร้อยเอ็ด - สบายๆ สไตล์ ไมตรี ขณะพักอยู่ที่โรงแรมกลางเมืองร้อย เอ็ด ฝนตกเกือบทั้งคืน ตื่นเช้าขึ้นมาฝนได้จากไปแล้ว ทิ้งแต่อากาศสดชื่นแจ่มใสไว้ให้ โดยเฉพาะที่บึงพลาญชัย บึงใหญ่กลางตัวเมืองที่มีบริเวณรอบบึงเป็นสนามหญ้าและต้นไม้ร่มรื่น ผมและคณะเดินทางไปร้อยเอ็ดครั้งนี้กับ ปัญญา ไกรทัศน์ จากกรมการท่องเที่ยว เพื่อไปชมแหล่งท่องเที่ยวที่กระทรวงรับรองมาตรฐาน จุดแรกที่เราแวะเป็นวัดบุรพาภิราม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระใหญ่ ที่มีความสูงเกือบหกสิบเมตร เท่ากับตึกสูงยี่สิบชั้น บางคนว่าเป็นพระที่สูงที่สุดในโลก พระใหญ่เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองร้อยเอ็ดที่เราควรไปกราบนมัสการเพื่อเป็นสิริมงคลก่อนไปเที่ยวที่อื่นต่อ จากวัดพระใหญ่เราได้ไปชมและนมัสการพระเจดีย์หินทราย บุโรพุทโธเมืองไทย เพียงแค่ได้เห็นองค์เจดีย์ต่างก็ตะลึงในความสวยงาม บรรยายยากมากว่าสวยงามอย่างไร เป็นเจดีย์ที่ลอกเลียนแบบมาจากเจดีย์ บุโรพุทโธของประเทศอินโดนีเซีย ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หลวงปู่ศรี มหาจิโร นำศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๕ โดยใช้หินทรายจากธรรมชาติทั้งหลัง ประดับตกแต่งด้วยภาพแกะสลักพุทธประวัติโดยรอบที่มีค่ายิ่ง (http://www.roiet.go.th/visit101/kasing_1.jpg) ปราสาทกู่กาสิงห์ จากเจดีย์ทรายแห่งนี้ เราได้เดินทางไปชมกู่กาสิงห์ เป็นปราสาทสามหลังเรียงกัน ร้อยเอ็ดมีปราสาทหลายแห่ง แต่ที่นักท่องเที่ยวไปชมนั้นจะเป็นกู่กาสิงห์ ซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นมาค่อนข้างสมบูรณ์ที่สุด น่าเสียดายที่หินที่ประกอบเป็นปราสาทส่วนหนึ่งได้หายไป จึงทำให้กรมศิลปากรไม่สามารถนำมาเรียงต่อกันให้เป็นปราสาทที่สมบูรณ์ได้ ต้องนำหินที่เป็นส่วนประกอบที่เหลือ เช่น ทับหลัง ยอดปราสาทและเสา ต้องเก็บไว้ในห้อง โดยใส่กุญแจขังชิ้นส่วนเหล่านี้ไว้อย่างดี เพราะเป็นสมบัติที่ล้ำค่า ตำบลกู่กาสิงห์ครอบคลุมห้าหมู่บ้าน มีพันกว่าครอบครัว ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่มีภาชนะดินเผาที่ใช้เก็บศพ รู้ได้ว่า เป็นบริเวณที่มีคนอาศัยอยู่มานานแล้ว คือตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ การเดินทางออกจากปราสาทกู่กาสิงห์หลายช่วงตอน ผ่านทุ่งกุลาร้องไห้ ได้เห็นทุ่งนากว้างไกลสุดสายตากำลังมีข้าวปลูกใหม่งอกงามเห็นแล้วสบายใจที่ทุ่งนาที่เคยแห้งแล้งกันดารกลายมาเป็นแหล่งเงินแหล่งทองทำให้ชาวนาอยู่ดีกินดีด้วยการปลูกข้าวหอมมะลิ (http://www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G2634984/G2634984-0.jpg) พระมหาเจดีย์ชัยมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม บ้านโคกกลาง ต.ผาน้ำย้อย อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด แล้วเราก็ไปถึงพระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดผาน้ำทิพย์ประสิทธิวราราม ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในวันนี้ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่หนึ่งร้อยเอ็ดไร่ บนยอดเขาเขียว แนวเทือกเขาภูพาน เราไปถึงวัดในขณะที่ท้องฟ้าแจ่มใส ปุยเมฆสีขาวลอยเต็มท้องฟ้า จึงทำให้ได้เห็นเจดีย์เด่น สวยงามตระการตา องค์เจดีย์ใหญ่ถูกสร้างในรูปแบบ ผสมผสานระหว่างเจดีย์พระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม มียอดฉัตรเป็นทองคำ องค์เจดีย์ใหญ่มีความสูง ๑๐๙ เมตร จึงสามารถมองเห็นแต่ไกล ภายในองค์เจดีย์ใหญ่ได้แบ่งเป็นชั้น ๆ รวมห้าชั้น ชั้นสูงสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รอบเจดีย์องค์ใหญ่มีเจดีย์องค์เล็กอีกแปดองค์ ส่งให้พระมหาเจดีย์โดดเด่นและสวย งามยิ่งขึ้น ผู้นำชมบอกว่า ยอดเจดีย์ใช้ทองคำแท้หุ้มไว้มีน้ำหนักรวมกัน ๖๐ กิโลกรัม คิดราคาทองคำออกมาเป็นเงินเท่าไรไม่รู้ แต่เท่าที่ได้รับทราบจากผู้นำชมว่า ได้ใช้เงินจากผู้มีจิตศรัทธาไปแล้วกว่าสามพันล้านบาท จากการได้เข้าไปชมพระมหาเจดีย์ชัยมงคลอย่างใกล้ชิด ยอมรับว่า เป็นเจดีย์ที่สวยงามและยิ่งใหญ่มากกว่าเจดีย์แห่งอื่น ๆ ในยุคนี้ แสดงให้เห็นว่าคนร้อยเอ็ดนั้นทำของเล็กไม่เป็น จะทำอะไรก็ต้องใหญ่ไว้ก่อน เช่น พระใหญ่ เจดีย์ใหญ่ แม้แต่การปลูกข้าวก็เป็นข้าวหอมมะลิที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลก. ไมตรี ลิมปิชาติ www.facebook.com/maitree.limpichart.writer (http://www.facebook.com/maitree.limpichart.writer) ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.dailynews.co.th/article/1547/215475 (http://www.dailynews.co.th/article/1547/215475) หัวข้อ: Re: มหาเจดีย์ที่ร้อยเอ็ด เริ่มหัวข้อโดย: MICRONE ที่ กรกฎาคม 02, 2013, 07:53:24 am st11 st12
|