สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: DANAPOL ที่ กรกฎาคม 06, 2013, 10:11:00 pm



หัวข้อ: นั่งภาวนา แล้ว ขาชา ควรทำอย่างไร ครับ เลิก หรือ ปฏิบัติ ต่อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: DANAPOL ที่ กรกฎาคม 06, 2013, 10:11:00 pm
 ask1

นั่งภาวนา แล้ว ขาชา ควรทำอย่างไร ครับ เลิก หรือ ปฏิบัติ ต่อครับ

  คำถามอาจจะธรรมดาครับ แต่ ความเป็นจริง ทุกครั้ง ผมเอง ก็จะทนสักพัก และก็ต้องเลิกครับ เพราะเวทนา มันกล้ามาก ปวดมาก จนไม่มีอารมณ์ จะนั่งต่อครับ

   ควรแก้ไขอย่างไร ครับ

  thk56


หัวข้อ: Re: นั่งภาวนา แล้ว ขาชา ควรทำอย่างไร ครับ เลิก หรือ ปฏิบัติ ต่อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กรกฎาคม 07, 2013, 02:41:24 pm
หากจะกล่าวถึงการนั่งบริกรรมภาวนาปฏิบัติศาสนธรรม ในขณะที่จิตที่ใจปัคคหะอยู่ ณ ฐานจิตจะมีความเพลินอยู่รู้เหน็บแต่ไม่รู้เจ็บ เมื่อผละกิจจิตเผิกถอนแล้วนั้นต้องร้อง โอ้ว! เหน็บรับประทานขนาดยืดขาวางเท้าไม่ไหวเอาเลย ผมเป็นประจำอาจจะด้วยอายุที่มากขึ้นสังขารเริ่มล้าถอย สติ สมาธิ ปัญญา ดีมีมากขึ้นรู้ทุกข์รู้ที่จะหนี กำหนดรู้วิถีตนแห่งตนที่จะก้าวเดิน เอาเป็นว่าอย่าคิดท้าสู้กับเวลามากไปนักเอาสติรู้ทุกข์ ณ ขณะนั้นคงสู้ไม่ไหว จุดไขสำคัญของกรรมฐานมัชฌิมาคือ ตามขั้นตอนลำดับฐานตามคำบอกกล่าวของครูอาจารย์เพียงนี้เท่านี้ก็ 30 นาที ได้ง่ายๆแล้ว ครับ!


หัวข้อ: Re: นั่งภาวนา แล้ว ขาชา ควรทำอย่างไร ครับ เลิก หรือ ปฏิบัติ ต่อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กรกฎาคม 08, 2013, 09:04:34 am
จำได้ว่า พระอาจารย์ เคยกล่าวว่า ให้ อดทน
แต่ ถ้าฟังและปฏิบัติ ตามเสียงในรายการ คำว่า อดทน ไม่ต้องใช้คะ เพราะสามารถปฏิบัติตามเสียง จนจบรายการได้ ก็ไม่ต่ำกว่า 50 นาทีแล้วคะ เข้าใจว่า พระอาจารย์ ถ่ายทอด กำลังไว้ในขณะ สอนด้วยคะ

  ไม่เชื่อหลายท่าน ลองติดตามการสอนฝึกกรรมฐาน ช่วง ค่ำ ๆ ดูสิคะ

  st11 st12


หัวข้อ: Re: นั่งภาวนา แล้ว ขาชา ควรทำอย่างไร ครับ เลิก หรือ ปฏิบัติ ต่อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 10, 2013, 10:00:47 am
ask1

นั่งภาวนา แล้ว ขาชา ควรทำอย่างไร ครับ เลิก หรือ ปฏิบัติ ต่อครับ

  คำถามอาจจะธรรมดาครับ แต่ ความเป็นจริง ทุกครั้ง ผมเอง ก็จะทนสักพัก และก็ต้องเลิกครับ เพราะเวทนา มันกล้ามาก ปวดมาก จนไม่มีอารมณ์ จะนั่งต่อครับ

   ควรแก้ไขอย่างไร ครับ

  thk56


     ans1 ans1 ans1
   
    ในการปฏิบัติกรรมฐานมัชฌิมาฯ มีการลำดับกรรมฐาน โดยการกล่าวคำอธิษฐานและอาราธนากรรมฐาน
    ขอให้ไปดูใน "คำปริยายขึ้นธรรม" อยู่ในกระทู้
    "เทศน์ขึ้นลำดับธรรม ในวันขึ้นพระกรรมฐานใหญ่"
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=11566.msg41565;topicseen#msg41565 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=11566.msg41565;topicseen#msg41565)

    ขอยกบางส่วนมาแสดงดังนี้
    "อุกาสะในที่นี้เล่า ข้าฯจะขอปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    ข้าฯจะขอเอายังพระลักษณะ พระขุทฺทกาปีติ ท่อนต้น ในห้องพระพุทธคุณพระสัพพัญญูพุทธเจ้า จงมาบังเกิดอยู่ในจักขุทวาร มโนทวาร และ กายทวาร แห่งข้าฯในขณะเมื่อข้านั่งภาวนานี้
     แดนใดแล ข้าฯยังไปบ่มิได้ในพระลักษณะพระขุทฺทกาปีติเจ้านี้หนา
     แม้นว่าเนื้อข้าปอก เลือดข้าแห้ง เอ็นข้าด้าน หลังข้าปอก กระดูกอยู่เท่าดังนั้นก็ดี

     ส่วนว่าชีวิตข้านี้ยังค่อยเป็นไป ข้าฯจะค่อยกระทำเพียรขอเอายังพระลักษณะ พระขุทฺทกาปีติเจ้านี้จงได้ ในขณะเมื่อข้าฯนั่งภาวนา ด้วยคำสัตย์อันมีแห่งข้าแน่แท้ดีหลี"


    ขอให้สังเกตว่า กรรมฐานมัชฌิมาฯสอนให้ตัดกายทิ้งไปเลย โดยการใช้อธิษฐานบารมี
    หลักการสอนที่สำคัญของกรรมฐานมัชฌิมาฯ คือ การใช้คำอธิษฐาน(สร้างอธิษฐานบารมี)

    ขอดูตัวอย่างก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ หลังจากลอยถาด ท่านมานั่งที่ใต้ต้นโพธิ์แล้วอธิษฐานว่า
    "ถ้าเรายังไม่ได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณตราบใด เราจักไม่ยอมลุกขึ้นตราบนั้น แม้ว่าเนื้อและเลือดจะเหือดแห้งไปเหลือแต่หนัง เอ็น และกระดูกก็ตามที"
     พระพุทธองค์ยังต้องกล่าวคำอธิษฐาน แล้วเราล่ะ ควรเอาอย่างหรือไม่

     อีกอย่าง การได้รับทุกขเวทนาต่างๆในขณะปฏิบัติกรรมฐาน ขอให้ถือว่าเป็นการชดใช้กรรมเก่า
     หากเราไม่อดทนชดใช้กรรมให้มันหมดๆไปแล้ว กรรมนี้มันก็จะอยู่กับเราต่อไป
     ดังนั้นเราต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่งยวด รับเอาทุกขเวทนาต่างๆไว้ เพื่อใช้หนี้กรรมให้สิ้นไป
     ดูอย่าง "การบำเพ็ญทุกรกิริยาของพระพุทธองค์ตลอด ๖ ปี" นั้น
     เพราะท่านไปปรามาส "พระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ" เอาไว้
     ทำให้ต้องชดใช้กรรมอยู่ถึง ๖ ปี

     การจะรับมือกับทุกขเวทนานั้น ต้องใช้สมาธิเข้าข่ม
     ผู้มาใหม่อาจรับมือได้ยาก เพราะเวทนาจะเกิดก่อนได้สมาธิ
     เมื่อมีทุกขเวทนามากๆจนอดทนไม่ไหว ทำให้เลิกกลางคัน

     แต่ในกรณีของผู้มีวสีระดับหนึ่ง สมาธิจะเกิดเร็วกว่าทุกขเวทนา
     อาการปวดชาต่างๆ ถึงแม้จะรู้สึก แต่จะไม่ทุกข์กับมัน
     ทุกขเวทนาจะดับต่อเมื่อเราอยู่ในญาน อย่างน้อยก็ปฐมฌาน
     
     สุดท้ายขอจบด้วยพุทธพจน์ที่ว่า
     "ขันติเป็นประธานเป็นเหตุแห่งคุณ คือ ศีลและสมาธิ
      กุศลธรรมทั้งปวงย่อมเจริญ เพราะขันติเท่านั้น"

      จากกระทู้ "ความสำเร็จของศีลและสมาธิ มีเหตุมาจากขันติ(อดทน)"
       http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5098.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5098.0)

       :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: นั่งภาวนา แล้ว ขาชา ควรทำอย่างไร ครับ เลิก หรือ ปฏิบัติ ต่อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rainmain ที่ กรกฎาคม 10, 2013, 12:32:19 pm
 st11 st12 thk56


หัวข้อ: Re: นั่งภาวนา แล้ว ขาชา ควรทำอย่างไร ครับ เลิก หรือ ปฏิบัติ ต่อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นักเดินทาง ที่ กรกฎาคม 12, 2013, 01:14:25 am
อ ด ท น


 :49: :49: :49:


หัวข้อ: Re: นั่งภาวนา แล้ว ขาชา ควรทำอย่างไร ครับ เลิก หรือ ปฏิบัติ ต่อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กรกฎาคม 13, 2013, 09:37:16 am
 st11 st12

   นอกจาก ความอดทน แล้ว น่าจะต้องใช้ปัญญาด้วยนะคะ คือ ลองเปลี่ยนไปนั่งเก้าอี้ ดูดีหรือไม่คะ

 :58: