หัวข้อ: ถามหา "กิจของสงฆ์" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 25, 2013, 09:31:48 am (http://www.matichon.co.th/online/2013/07/13744060111374406048l.jpg) ถามหา "กิจของสงฆ์" คอลัมน์ ที่เห็นและเป็นไป (มติชนรายวัน 21 ก.ค.2556) โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ เพราะเป็นสถาบันที่มีหน้าที่เป็นตัวอย่างของความดีงาม เพราะพุทธศาสนามีพระธรรมที่ชัดเจนในเรื่องความดี ความไม่ดี เป็นคู่มือการบริหารจัดการในทุกเรื่องได้เป็นอย่างดี เพราะคนในสถาบันมีความรู้แตกฉานในพระธรรมอยู่มากมาย สามารถหยิบมาใช้ได้อย่างตรงกับเหตุไม่ยาก ดังนั้น สถาบันสงฆ์ ควรจะทำหน้าที่ของตัวเอง เป็นตัวอย่างของการจัดการเรื่องเลวร้ายให้จบลง และวางแนวทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนั้นขึ้นอีก กรณี เณรคำ ถือว่าสร้างความเสียหายมากมายต่อศรัทธาพุทธศาสนิกชน ที่บอกว่า ศาสนาไม่เสื่อม แต่ที่เสื่อมคือ คนที่มาห่มผ้าเหลืองบางคน นั้น ไม่จริง!!! จริงอยู่พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์นั้นไม่เสื่อม แต่ศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับ ศรัทธาประชาชน ประชาชนไม่ศรัทธาย่อมมีความหมายเดียวกับคำว่า เสื่อม กรณี เณรคำ นั้นสั่นคลอนศรัทธาประชาชน ทำให้ประชาชนเกิดความลังเลสงสัยในพระสงฆ์องค์เจ้าอย่างกว้างขวาง เรื่องนี้จะต้องมีการเยียวยา :welcome: :welcome: :welcome: การที่การปกครองของคณะสงฆ์ออกประกาศให้ เณรคำ สิ้นจากความเป็นพระ ให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินคดีไปตามหลักฐานนั้น ถูกต้องแน่นอน เพียงแต่ถูกต้องเพียงส่วนเดียว คือการจัดการกับ เณรคำ การจะเรียกศรัทธาคืน ซึ่งเป็นการทำนุบำรุงให้พระศาสนารุ่งเรืองนั้น คณะผู้ปกครองสงฆ์จะต้องถือเป็นภาระที่จะต้องหาทางป้องกันไม่ให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นมาทำลายศรัทธาประชาชนที่มีต่อศาสนาอีก จะแก้ไขอย่างไร ดำเนินการอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นอะไร เพราะอย่างที่เสนอไว้ข้างต้นว่า พระธรรมคำสอนนั้นมีวิธีการอยู่แล้ว และผู้แตกฉานในพระธรรมก็มีอยู่มากมาย เอาง่ายๆ ในหลักผลมาจากเหตุ เหตุที่เณรคำบิดเบือนพระธรรมเพื่อใช้ศรัทธาประชาชนก่อพฤติกรรมวิปริตพิสดารมาอย่างยาวนานได้ เพราะคณะปกครองสงฆ์ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เอาใจใส่ที่จะดูแลให้พระผู้อยู่ใต้ปกครองอยู่ในศีล ในธรรม ในวัตรปฏิบัติที่ดีงาม :25: :25: :25: เรื่องราวของเณรคำที่วิปริตพิสดารไปไกลเช่นนี้ ถ้าคณะปกครองสงฆ์ซึ่งมีลำดับขั้นครอบคลุมไปถึงระดับตำบลหมู่บ้าน เอาใจใส่สอดส่อง คงไม่มีวัตรปฏิบัติที่เหลวไหลได้ยาวนานขนาดนี้ เมื่อเหตุหนึ่งเพราะคณะปกครองสงฆ์ขาดความใส่ใจ การจัดการเพื่อแก้ไขเหตุควรจะเกิดขึ้น คณะปกครองสงฆ์ควรจะมีการปรึกษาหารือ จัดการวางระบบระเบียบ หรืออย่างน้อยประกาศบังคับบัญชากันให้เข้มงวดในเรื่องให้ผู้มีตำแหน่งในทางปกครองเอาใจใส่ในการปกครองดูแล แต่ที่เป็นไปคือ หลังจากประกาศ สึกเณรคำ แล้ว เหมือนภาระต่อการทำนุบำรุงเพื่อเรียกคืนศรัทธาจบสิ้นลงแค่นั้นไม่ต้องทำอะไรกันอีกแล้ว เหตุการณ์ทำนองเดียวกับเณรคำเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในบวรพุทธศาสนา เกิดขึ้นแต่ละครั้งสร้างความเสื่อมศรัทธาสะเทือนทุกคราว มากมายตามชื่อเสียงของพระรูปที่วัตรปฏิบัติวิปริต การจัดการเพื่อหาทางป้องกัน เพื่อให้เห็นว่า คณะปกครองสงฆ์มีความห่วงใยในศรัทธาประชาชนเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าผู้มีหน้าที่จะถือเป็นธุระหรือไม่ :91: :91: :91: ในความขัดแย้งของคนในชาติ ที่แตกแยกกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งหากจะเกิดความเสื่อมศรัทธาในศาสนาเข้ามาซ้ำเติม หลักยึดทางจิตใจร่วมกันมีความจำเป็นอย่างยิ่งของคนไทยยุคที่ต้องหาหนทางให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข "ศรัทธาในพระพุทธศาสนา" เป็นหลักยึดที่จะต้องช่วยกันรักษาไว้ ผู้ที่มีหน้าที่นี้โดยตรง คือ คณะปกครองสงฆ์ ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1374406011&grpid=&catid=02&subcatid=0207 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1374406011&grpid=&catid=02&subcatid=0207) |