หัวข้อ: ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 25, 2013, 09:57:46 am (http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2013/07/23/gb8bgjiag6ffd8g68h68h.jpg) ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์ บทบรรณาธิการประจำวันที่23ก.ค.2556 เห็นภาพข่าวในโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ รวมทั้งการรายงานข่าวทางวิทยุเกี่ยวกับประชาชนที่เดินทางไปร่วมทำบุญและปฏิบัติศาสนกิจกันทั่วประเทศแล้ว ก็น่าเชื่อว่า ศรัทธาของประชาชนคนไทยต่อพระพุทธศาสนานั้น คงไม่เสื่อมคลายลงไปง่ายๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีผู้กล่าวถึงคำว่า "กึ่งพุทธกาล" หรือแม้ว่าจะมีกระแสข่าวเกี่ยวกับพระหรืออดีตพระที่ใช้ความเชื่อมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนามาเป็นเครื่องมือประกอบกับการพูดจาน่าเชื่อถือของตน จนทำให้ร่ำรวยมีเงินฝากที่นั่นที่นี่ รวมทั้งในต่างแดนเป็นจำนวนมากก็ตามที ที่ผ่านมาความศรัทธาของศาสนิกชนคนไทยได้ถูกแปรสภาพให้มี "ราคา" ด้วยการคิดค้นรูปแบบให้ผู้คนเข้าใจไปว่า การบริจาค หรือการทำบุญนั้น ต้องมีจำนวนเท่านั้นเท่านี้ ต้องไปให้ได้กี่วัด หรือจำเพาะเจาะจงว่าจะต้องไปวัดไหนบ้าง จนทำให้คิดไปว่า จำนวนวัด หรือมูลค่าของเงินหรือสิ่งของที่นำไปบริจาคนั้น จะหมายถึงคุณความดีที่แต่ละคนได้แสดงออกไป หรือเมื่อทำแล้วครบแล้ว (ไม่ว่าจะเป็นจำนวนวัด หรือมูลค่าที่ควักจากกระเป๋า) นั่นคือ การบรรลุเป้าหมายของคำว่าการทำบุญ และจะนำพาให้เรานั้นได้ขึ้นสวรรค์ในยามแสงสุดท้ายของชีวิตมอดดับลง โดยไม่คิดว่า หากเป็นเช่นนั้น สรวงสวรรค์ก็คงจะเต็มไปด้วยคนรวย ยาจกคงจะมีแต่เพียงนรกเท่านั้นที่เป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา :41: :41: :41: ก็เพราะการคิดเช่นนั้น เชื่อแบบนั้น เข้าใจว่าความศรัทธาต้องประพฤติปฏิบัติเช่นนั้น ทำให้ พระ หรือวัด หลายต่อหลายแห่งกลับกลายเป็นพุทธพาณิชย์โดยไม่รู้ตัว เจตนาแต่แรกที่จะใช้พัทธสีมาเป็นกำแพงกางกั้นกิเลส ใช้ผ้าเหลืองเป็นเกราะป้องกันกาย ใช้พระธรรมขัดเกลากิเลส เมื่อพบกับศรัทธารูปแบบใหม่ก็มีโอกาสที่จะเคลื่อนคล้อยไปตามสิ่งเร้าที่ทุกคนรับรู้กันว่า เป็นสิ่งเร้าที่มีมูลค่าและจะนำมาซึ่งการยอมรับนับถือจากผู้คนทั้งแผ่นดิน ปลายทางของอลัชชี ผู้ที่ไม่ละอายต่อบาป หรือ "สมี" ผู้ที่ต้องอธิกรณ์ ปาราชิก จึงมีให้เห็นอยู่เนืองๆ เมื่อผู้ที่ยินยอมสละความสุขทางโลกไปหาความสงบทางธรรมแล้วมีปลายทางเยี่ยงนี้ ผู้คนทั้งหลายก็ไม่ลังเลที่จะก่นด่าสาปแช่ง เพราะคนเหล่านั้นไม่สามารถก้าวข้ามอุปสรรค หรือกิเลสตัณหา ด่านสำคัญก่อนที่จะไปถึงความสงบที่แท้ได้ ทั้งที่ความจริงแล้วต่อให้ปฏิบัติธรรมมายาวนานแค่ไหน ก็มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องเช่นนั้นได้กับสาวกของพระพุทธเจ้าทุกรูปทุกนาม ไม่เว้นแม้กระทั่งอดีตพระที่ตัดสินใจบวชมาแล้วกว่า 30 พรรษา สุดท้ายก็ไม่ผ่านด่านหญิงงามอย่างที่เรารับรู้กันทั่วไป :96: :96: :96: เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ ความจริงแล้วเราทุกคนล้วนแต่มีส่วนในการจรรโลงพุทธศาสนา มากพอกับการพอกพูนความเสื่อมถอย โดยผ่านความศรัทธาโดยไม่รู้ตัว ยังเชื่อว่า เมื่อบริจาคมาก (อ้างเพราะเหลือมาก) จะทำให้ได้บุญอันยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่ย้อนคิดไปว่า ความที่เกินพอดีนั้น เป็นการไปบังคับให้วัด-พระสงฆ์ต้องแบกรับส่วนเกินนั้นไว้ และนำมาซึ่งการสะสมที่นานวันเข้าก็จะกลายเป็นเงื่อนไข หรือข้อเรียกร้องให้มีการบริจาค ซึ่งบางแห่งการบริจาคนั้นเกินเลยไปจาก "ส่วนเกิน" ที่ตนมีอยู่ด้วยซ้ำไป และท้ายสุดก็ตกเป็นข่าวอื้อฉาวอย่างที่เห็น โดยที่เราทั้งหลายก็มีส่วนให้เกิดเหตุเช่นนั้น ขอบคุณภาพและบทความจาก www.komchadluek.net/detail/20130723/164064/ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์.html#.UfCSoKxYxGp (http://www.komchadluek.net/detail/20130723/164064/ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์.html#.UfCSoKxYxGp) |