สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => IT สาระประโยชน์ชาวธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 28, 2013, 10:23:32 am



หัวข้อ: ปัญหาที่เลือกเอง...ของชีวิตยุคอินเทอร์เน็ต
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 28, 2013, 10:23:32 am

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/221484.jpg)

ปัญหาที่เลือกเอง...ของชีวิตยุคอินเทอร์เน็ต - 1001

ผมนึกย้อนเวลากลับไปเมื่อ 18 ปีที่แล้วตอนลูกชายคนโตเกิด ความตื่นเต้นและยินดีของพ่อแม่ต่อลูกคนแรกทำให้ต้องถ่ายรูปลูกแทบทุกอิริยาบถ สมัยนั้นกล้องถ่ายรูปยังใช้ฟิล์ม จึงแทบหมดตัวกับค่าฟิล์มและล้างอัดรูปถ่าย วันหนึ่ง ๆ ต้องถ่ายรูปราว 2 ม้วน ม้วนละ 36 รูป เสียค่าอัลบั้มใส่รูปอีกต่างหาก พอลูกชายโตขึ้นหน่อยก็เริ่มถ่ายวีดิทัศน์เป็นหนังสีสวยพร้อมเสียง เวลาผ่านไปทยอยสะสมรูปถ่ายและวิดีโอไว้ไม่ใช่น้อย แต่ปัจจุบันผมสามารถบันทึกเก็บหลักฐานแห่งความภูมิใจเหล่านั้นไว้ได้ในแฟลชไดร์ฟเพียงอันเดียว

โลกเราเปลี่ยนแปลงเร็วมากครับ เทคโนโลยีเอื้อให้เราสะสมข้อมูลอย่างต้องการ ภายใต้งบประมาณที่รับได้ ปัจจุบันเราสามารถซื้อหาฮาร์ดดิสก์พกพาที่มีความจุ 1,000 GB ในราคาถูกราว 2,500 บาทเท่านั้น ลองคำนวณคร่าว ๆ ว่า ถ้าผมถ่ายวีดิทัศน์ลูกชายตั้งแต่วันแรกที่เกิดเก็บสะสมทุกวัน วันละ 10 นาที จนเขามีอายุครบ 18 ปี ซึ่งคุณภาพของวิดีทัศน์ระดับดีพอใช้จะต้องใช้เนื้อที่ราว 8 MB สำหรับหนัง 1 นาที ผมแค่ใช้งานฮาร์ดดิสก์พกพาดังกล่าวแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นครับ



(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/221484/0.jpg)


อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามีเนื้อที่เก็บข้อมูลมากเท่าไร เราก็ใช้หมดในที่สุดครับ ท่านผู้อ่านลองดูเนื้อที่ในฮาร์ดดิสก์ของเครื่องโน้ตบุ๊กที่ได้มาใหม่สิครับ ใช้งานไม่เท่าไรเนื้อที่ก็เกือบเต็มทุกที ต้องตามลบออกเสมอ ตอนลบก็รู้สึกเสียดายทุกครั้งไป จะดีไหมครับถ้าเราพบว่า
    บนก้อนเมฆรอบ ๆ ตัวเราสามารถนำข้อมูลไปฝากเก็บไว้ได้ เทคโนโลยีของ Cloud Storage ปัจจุบันเอื้อให้เราทำเช่นนั้นได้ดั่งใจ และไม่เพียงเท่านั้นท่านยังสามารถแบ่งปันให้เพื่อนหรือคนรู้จักเข้าไปใช้ข้อมูลบนก้อนเมฆได้เป็นครั้งคราวถ้าต้องการ แนวคิดนี้ขยายผลต่อเข้าสู่องค์กรโดยมี Enterprise Cloud Service ที่พนักงานและทีมงานในองค์กรสามารถเข้าถึง

ทั้งใช้บริการโปรแกรมที่มีขีดความสามารถในการประมวลผลอีกด้วยแบบเบ็ดเสร็จเพียงแค่ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนสั่งการเท่านั้น แนวคิดนี้นำไปสู่ขั้นต่อไปคือการฝากข้อมูลและใช้บริการทุกอย่างในสำนักงานบนก้อนเมฆ ซึ่งเรียกกันว่า
    ระบบ Cloud Office จินตนาการได้ว่าเราไปทำงานในสำนักงานที่มีโปรแกรมใช้งานที่เหมือนเดิม เพียงแต่ไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ ทุกคนมีเพียงเครื่องส่วนตัวที่ต่อเข้าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเท่านั้นก็สามารถทำงานเอกสารและธุรกรรมต่าง ๆ ได้ เครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ โปรแกรมหลัก ๆ และข้อมูลทั้งหมดถูกซ่อนอยู่เบื้องหลังก้อนเมฆ เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเกิด Virtualization ระหว่างผู้ใช้และระบบคอมพิวเตอร์หลัก



(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/221484/1.jpg)


บริษัทวิจัยตลาดชื่อดังอย่าง Gartner คาดการณ์ไว้ว่าภายในปี พ.ศ. 2558 ร้อยละ 8 ของระบบสำนักงานเดิมเกือบทั่วโลกจะได้รับการเปลี่ยนเป็นระบบ Cloud Office (ยกเว้นจีนและอินเดีย) และภายในสองปีหลังจากนั้นตัวเลขจะเพิ่มเป็นร้อยละ 33 การใช้งานจะเพิ่มเป็นร้อยละ 60 ในปี พ.ศ. 2556

เมื่อย้อนมองดูตัวเองพบว่าปัจจุบันผมมีพื้นที่เก็บข้อมูลผลงานวิจัย ผลงานวิทยานิพนธ์ และต้นฉบับโครงการต่าง ๆ รวมข้อมูลส่วนตัวอยู่ราวไม่น้อยกว่า 3,000 GB และพื้นที่บนก้อนเมฆ อีกราว 35 GB ที่ใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และขนาดข้อมูลที่มีกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปีครับ
     อย่างไรก็ดีตามกฎ 80-20 ของ Pareto พบว่ามีเพียงแค่ร้อยละ 20 ของข้อมูลอันมากมายที่จัดเก็บเป็นประโยชน์มาก ที่เหลือเพียงเก็บไว้อ้างอิงเมื่อต้องการเท่านั้นครับ

 :96: :96: :96:

โปรแกรมที่ใช้ประจำเป็นบริการบนเว็บเกือบทั้งหมดของกูเกิลเริ่มจากปฏิทิน อีเมล เขียนเอกสาร คำนวณตาราง ค้นหาข้อความและรูปภาพ
   ติดต่อกับนิสิตในชั้นเรียนผ่านเครือข่ายสังคมเผยแพร่ผลงานผ่านเว็บส่วนตัว
   เขียนบล็อกเล่าเรื่องต่าง ๆ คุยกับเพื่อนเก่าผ่านเฟซบุ๊ก
   หัวหน้าภาคของผมสั่งงานผ่านไลน์ ติดต่อกับลูกชายผ่านเฟซบุ๊กกับอินสตาแกรม
   และดูวีดิทัศน์บทสัมภาษณ์นักวิเคราะห์และนักวิจัยผ่าน TED Talk และ ยูทูบ
   สุดท้ายลงทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่าน Settrade Streaming
   ที่ผมไม่ทราบว่าโปรแกรมเหล่านี้ติดตั้งอยู่ที่ใด ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่าถ้าวันใดเครือข่ายอินเทอร์เน็ตล่ม วันนั้นผมคงไม่สามารถทำอะไรได้เลย
   แล้วท่านล่ะครับ มีปัญหาเหมือนผมไหมครับ.

รศ.ดร.วิวัฒน์ วัฒนาวุฒิ
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
http://www.dailynews.co.th/technology/221484 (http://www.dailynews.co.th/technology/221484)