หัวข้อ: พระอินเดียในวัดไทย เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 04, 2013, 12:08:38 pm (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/613/13613/images/Upasakaindia2.jpg) พระอินเดียในวัดไทย สังเวชนียสถาน 4 แห่งในประเทศอินเดีย มีวัดไทยสารนาถวัดเดียวเท่านั้นที่มีชาวอินเดียมาบวชอยู่มากที่สุด ปัจจุบันนี้ก็มีประจำวัดอยู่ถึง 4 รูป และก็มีความรู้ระดับปริญญาโท ปริญญาเอกกันทั้งนั้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว จะถามว่า ทำไมต้องเป็นพระแขก แล้วพระพุทธเจ้าเป็นแขกไหม เพราะรักพระพุทธเจ้ากันจนลืม นึกว่าพระองค์เป็นคนไทยไปแล้วซิ! ท่านพระครูสรวิชัย (ศาสนรัศมี) หลวงพ่อองค์แรกของวัดไทยสารนาถ ท่านเป็นชาวอินเดีย เกิดที่รัฐมหาราช ท่านได้เอาเด็กจากรัฐต่าง ๆ มาบวชเรียนที่วัด เพื่อสืบทอดศาสนาพุทธให้มั่นคงถาวรต่อไป ผมสนใจเด็กน้อยอินเดียคนหนึ่งซึ่งมาจากรัฐอรุณาจัลประเทศ (ARUNACHAL PRADESH) ปัจจุบันท่านเป็นพระภิกษุอายุ 47 ปีแล้ว เรียนจบปริญญาเอกของภาษาบาลีจากมหาวิทยาลัยพาราณสี ท่านคือ พระ ดร.สุมังคะลิโก เหตุที่สนใจ เนื่องจากท่านเป็นพระแขกรูปเดียวที่มีรูปร่างผิวพรรณคล้ายคนไทยมาก อีกทั้งพูดภาษาไทยได้คล่องแคล่วกว่าพระรูปอื่น :welcome: :welcome: :welcome: ท่านเล่าว่า ท่านเป็นคนเกิดในเผ่าไตคัมตี (TAI KHAMTI) รัฐอัสสัมกับรัฐอรุณาจัลประเทศมีคนไต (ไทย) อยู่ 5 เผ่าด้วยกัน 1.TAI AHOM (ไทอาหม) 2.TAI AITON (ไทไอต้อน) 3.TAI KHAMTI (ไทคัมตี) 4.TAI PHAKIA (ไทพาเกีย) 5.TAI TARUNG (ไทตะรุง) พูดภาษาแต่ละเผ่าใกล้เคียงกัน ต่อมารัฐอัสสัมเป็นรัฐใหญ่จึงแยกออกเป็น 7 รัฐ ตัวอย่างคำ เช่น น้ำ (ไทย) = นั้ม (เผ่า) ข้าว = เขา กิน = กืน หู = ฮู้ มือ = มื้อ นิ้ว = นิ่ว หนัง = นั้ง ฝ่ามือ = ผ่ามือ "จะกินข้าวก็กินด้วยมือ มีวัด มีพระ มีคนใส่บาตรให้พระ ก็เหมือนคนไทยเราทุกอย่าง" ท่านสุมังคะสิโกเล่า "จากที่นี่ไปพาราณสี-อัสสัม-อรุณาจัลฯ นั่งรถไฟ 2 วัน 2 คืน ระยะทางประมาณ 1,900 กม." "หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ วัดสังฆทานธรรม จ.นนทบุรี ท่านก็ไปทอดกฐินมาแล้ว มีญาติโยมไปกว่าร้อย "ท่านจะไปสร้างวัด สร้างสำนักสงฆ์ไว้แล้วด้วย ท่านมาพักที่วัดเรานี่ อยู่ที่หลังโบสถ์" (http://www.watthailumbini-th.org/images/column_1281785536/IMG_9983.jpg) หลวงพ่อท่านพระครูสรวิชัย (ศาสนรัศมี) บวชที่อัสสัมตอนอายุ 27 ปี เดิมท่านเป็นเด็กวัดอัสสัม เป็นเพื่อนกับเจ้าคำมูน CHOW KHAMMON อดีต ส.ส. 2 สมัย เคยเป็นเด็กวัดด้วยกัน ท่านเป็น ส.ส.คนแรกของรัฐอรุณาจัลฯ สมัยอินทิราฯ เป็นนายกรัฐมนตรีอินเดีย อดีตหัวหน้าเผ่าไทคำตี "ครั้งหนึ่ง ท่านหลวงพ่อเราได้เจอกับ ดร.เอ็มเบ็ดกา ที่ประเทศศรีลังกา และได้บอกกับหลวงพ่อว่าอีกไม่นานคนอินเดียจำนวนมากจะปวารณาตนเองเป็นพุทธมามกะ เป็นคนนับถือพุทธศาสนาแล้ว" หลวงพ่อไปประชุมที่พม่า ได้เจอกับพระพิมลธรรม ตอนทำสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 6 ท่านพิมลธรรมให้ความสนใจในตัวหลวงพ่อ บอกให้ไปสอนหนังสือที่มหาจุฬาลงกรณ์ฯ มาอยู่กรุงเทพฯ สอนหนังสือ ได้สนิทชิดชอบกับพระครูประกาศฯ ตอนที่พระครูประกาศฯ มาประเทศอินเดียที่สารนาถ เห็นสิ่งปรักหักพัง โบราณวัตถุทางพระพุทธศาสนา ก็อยากจะสร้างวัดไทยขึ้นมา เพื่อจัดให้พระพุทธศาสนาเกิดความมั่นคงขึ้น จึงคิดหาซื้อที่ดินได้ 32 ไร่เพื่อสร้างวัดไทยสารนาถ แต่ทางการประเทศอินเดียไม่อนุญาตให้เอกชนคนต่างชาติซื้อที่ดินของรัฐได้ ท่านพระครูประกาศเลยให้ซื้อในนามหลวงพ่อ แล้วจัดตั้งเป็นมูลนิธิมฤคทายวันมหาวิหารวัดไทยมาจนทุกวันนี้ :25: :25: :25: เมื่อตั้งเป็นวัดไทยสารนาถขึ้นแล้ว จึงได้แต่งตั้งพระศาสนรัศมีเป็นหลวงพ่อองค์แรกของวัดไทยเรา และพระครูประกาศฯ บอกให้ท่านช่วยหาทายาทซึ่งเป็นคนในอินเดียเอามาสัก 5 คนที่นับถือพุทธเพื่อมาบวชที่นี่ ท่าน ดร.สุมังคะลิโกเล่าต่อไปว่า ตอนนั้นผมก็ยังอายุได้ 15 ปี ยังเป็นเด็กอยู่ หลวงพ่อก็เอามาอีก 4 คนจากหมู่บ้าน รวมเป็น 5 คน รุ่นแรกที่มาอยู่ที่วัดไทยสารนาถ ผมอายุมากกว่าเพื่อน เป็นเด็กวัดอยู่หลายปี พออายุได้ 19 ปีก็บวชเณร บวชเพียง 3 คนตอนนั้นอายุ 25 ปี ไปบวชพระที่เมืองไทย วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา และอยู่ที่วัดนั้น 2 ปีเต็มๆ เพื่อนไปด้วย 1 คน เพื่อน 3 คนกลับบ้าน อีกคนอยู่เมืองไทย เป็นคนธรรมดา ปัจจุบันก็ยังอยู่ "อยากถามท่านว่า หลวงพ่อท่านมีดีอะไร" ผมถาม "ท่านหลวงพ่อเป็นนักภาษาศาสตร์ เป็นที่รู้ๆ กันว่าท่านพูดและเขียนได้ถึง 12 ภาษา เป็นคนสนใจในภาษามาก วันๆ หนึ่งจะอยู่แต่ในห้องเพื่อศึกษาค้นคว้าเป็นประจำ" "เป็นพระอารมณ์ดี แต่ไม่ประจบใคร" ans1 ans1 ans1 หลวงพ่อท่าน พระครูสรวิชัย (ศาสนรัศมี) ท่านสร้างผลงานชิ้นสำคัญขึ้นมา คือ พระพุทธรูปและสลักหินทรงยืนประทานพร สูง 80 ฟุต 9 นิ้ว เพื่อความเคารพบูชาแก่ชาวพุทธ ได้เข้ามากราบไหว้ได้อย่างภาคภูมิใจในวัดไทยสารนาถ พระพุทธรูปหินสลักชื่อ "พระพุทธศาสนานุภาพ ลาภมงคลสมาธิรังษิธร" ทุกอย่างเกิดขึ้นมาได้ก็ดับลงได้เป็นธรรมดา ท่านหลวงพ่อมรณภาพเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553 รวมอายุได้ 88 ปี. ประวิทย์ จำปาทอง ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/280713/77002 (http://www.thaipost.net/tabloid/280713/77002) ภาพจาก http://www.watthailumbini-th.org/ (http://www.watthailumbini-th.org/) , http://www.watthailumbini-th.org/ (http://www.watthailumbini-th.org/) หัวข้อ: Re: พระอินเดียในวัดไทย เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ สิงหาคม 05, 2013, 11:16:07 am การผ้าแถบนั้นเป็นธรรมเนียม ของ ชาวธิเบต ที่ต้อนรับผู้มาเยือน
st11 st12 |