สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 06, 2013, 08:40:03 am



หัวข้อ: รัชกาลที่ 5 เคยทอดพระเนตรเห็น "พระพุทธรูปยิ้มได้"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 06, 2013, 08:40:03 am

(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/02/360914/hr1667/630.jpg)

พระพุทธรูปยิ้มได้

ใครเคยเห็นพระพุทธรูปยิ้มได้บ้างครับ คิดว่าคงแทบจะไม่มีเลยนะครับ ถึงจะมีก็คงมีน้อยมากเหลือเกิน  เพราะแสนจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ยิ่งในยุคสมัยไอทีแบบนี้เเล้ว พูดไปก็เหมือนเล่านิทานหลอกเด็ก แต่ใครจะเชื่อบ้างหรือไม่ครับว่า รัชกาลที่ 5 หรือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านเคยทอดพระเนตรเห็นพระพุทธรูปยิ้มได้มาแล้ว และไม่ใช่เห็นหนเดียวด้วยนะครับ แต่เห็นหลายครั้งหลายหนด้วย จนถึงกับมีพระราชกระแสรับสั่งเอาไว้เป็นหลักฐานเลยทีเดียว

เรื่องมีอยู่ว่ารัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปที่วัดระฆังโฆสิตารามหลายครั้ง ในรัชกาลของพระองค์ และได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ดูแลเป็นพระธุระเอาพระทัยใส่ในวัดนี้เสมอมา ด้วยเป็นวัดที่เก่าแก่ มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี ราว พ.ศ.2312 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ได้ทรงบูรณะขึ้นใหม่ทั้งหมด และยกเป็นวัดหลวง

จากนั้นจึงได้ถวายให้เป็นวัดที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชสี ซึ่งถือว่าเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกของกรุงธนบุรี ทั้งยังเคยทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ อาจารย์ของทั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมาก่อนแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และจัดการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้นใหม่ เนื่องจากเมื่อครั้งกรุงแตกนั้นตำรับตำรา พระไตรปิฎกต่างๆ กระจัดกระจายหายสูญไปหมดสิ้น

 :welcome: :welcome: :welcome:

ในครั้งต้นแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรีนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งยังทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ก็ได้ทรงยกบ้านของตนเอง อันประกอบด้วยเรือนนอนและหอนั่ง รื้อออกไปปลูกถวายเป็นพุทธบูชาแก่วัดนี้  ซึ่งในครั้งกระนั้นยังเรียกนามตามเดิมว่า วัดบางหว้าใหญ่

ครั้นเมื่อขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ สถาปนาพระบรมราชวงศ์จักรีและกรุงรัตนโกสินทร์ในปีพ.ศ.2325 แล้ว  ก็ได้เอาพระทัยใส่ทอดพระเนตรดูแล และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้บูรณปฏิสังขรณ์เป็นการใหญ่ โปรดฯให้ย้ายเรือนที่รื้อไปปลูกถวายเป็นพุทธบูชา มาปลูกเป็นหอพระไตรปิฎกกลางสระน้ำที่ทรงโปรดฯให้ขุดขึ้นใหม่

จากนั้นก็ได้ทรงบูรณะหรืออาจเรียกว่าสร้างใหม่เลยก็ได้สำหรับพระอุโบสถ ได้ทรงบูรณะพระพุทธรูปประธานอันเป็นของโบราณดั้งเดิมด้วย และทรงโปรดปรานพระพุทธรูปองค์นี้มาก จนถึงกับทรงมีพระบรมราชโองการไว้ว่า หากเสด็จสวรรคตและถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว ขอให้อัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรที่กางกั้นเหนือยอดพระเมรุมาศกลางท้องสนามหลวงมากางกั้นถวายเหนือพระเศียรของพระพุทธรูปประธานองค์นี้ด้วย

 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

อาศัยเหตุดังกล่าว จึงเป็นปัจจัยให้พระมหากษัตริย์ทุกรัชกาล ทรงทำนุบำรุงพระอารามแห่งนี้อย่างต่อเนื่องเสมอมา และในครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จไปถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดระฆังโฆสิตาราม เมื่อได้เสด็จพระราชดำเนินเข้าในพระอุโบสถแล้ว ก็ได้ทรงหันไปมีพระราชดำรัสแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิดว่า

   "......ไปวัดไหนไม่เหมือนมาวัดระฆัง พอเข้าประตูโบสถ์มาทีไร พระประธานก็ยิ้มรับฟ้าทุกที...."

ด้วยเหตุนี้จึงทรงถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราชวราภรณ์ และมหาปรมาภรณ์ ช้างเผือกแด่พระประธานองค์นี้เป็นพิเศษ และพระประธานองค์นี้ก็ได้นามว่า "พระประธานยิ้มรับฟ้า" ตั้งแต่นั้นมา

ถือได้ว่าพระพุทธรูปประธานองค์นี้เป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวของประเทศไทยที่ได้รับถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ถึง 2 ตระกูลด้วยกัน นี่คือที่มาของพระพุทธรูปยิ้มได้ตามที่จั่วหัวเรื่องเอาไว้ครับ

เผ่าทอง ทองเจือ


ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/edu/360914 (http://www.thairath.co.th/content/edu/360914)


หัวข้อ: Re: รัชกาลที่ 5 เคยทอดพระเนตรเห็น "พระพุทธรูปยิ้มได้"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 06, 2013, 08:44:29 am

(http://photos3.hi5.com/0040/091/658/WfB2mE091658-02.jpg)
พระประธานของวัดระฆังโฆสิตาราม

พระประธานยิ้มรับฟ้า

พระประธานของวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ วัสดุเนื้อทองสำริดลงรักปิดทอง หน้าตักกว้างประมาณ 4 ศอก ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ เบื้องพระพักตร์มีรูปพระสาวก 3 องค์ นั่งประนมมือดุจรับพระพุทธโอวาท กั้นด้วยเศวตฉัตร 9 ชั้น เดิมเป็นฉัตรกั้นพระเมรุของรัชกาลที่ 1 ซึ่งพระองค์ทรงขอให้นำไปถวายพระประธานวัดระฆังฯ เมื่อ พ.ศ.2352

ต่อมารัชกาลที่ 6 ทรงเปลี่ยนเศวตฉัตรจากผ้าตาดขาว มาเป็นผ้าขาวลายฉลุปิดทอง โดยใช้โครงของเก่า และมีการเปลี่ยนผ้าอีกครั้งใน พ.ศ.2504 โดยรัชกาลปัจจุบัน

พระประธานของวัดระฆังโฆสิตาราม องค์นี้ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก มีเรื่องเล่าขานสืบมาว่า ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินบำเพ็ญกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดระฆังโฆสิตาราม ได้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า
   "ไปวัดไหนไม่เหมือนมาวัดระฆังฯ พอเข้าประตูโบสถ์ พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกที"


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
http://bangkoknoitour.blogspot.com/2011/05/blog-post.html (http://bangkoknoitour.blogspot.com/2011/05/blog-post.html)


หัวข้อ: Re: รัชกาลที่ 5 เคยทอดพระเนตรเห็น "พระพุทธรูปยิ้มได้"
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ สิงหาคม 06, 2013, 11:01:36 am
 st11 st12