หัวข้อ: หัวอก'แม่-เมีย'สุดเศร้าใจ'สามีติดพนัน-ลูกหนีเรียน ทะเลาะวิวาท' เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 10, 2013, 07:46:29 am (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/08/362298/hr1667/630.jpg) หัวอก'แม่-เมีย'สุดเศร้าใจ'สามีติดพนัน-ลูกหนีเรียน ทะเลาะวิวาท' หัวอกแม่ หัวอกเมีย เผย เศร้าใจผัวติดเหล้า ทุบตี ผีพนัน ฐานะแม่ ทุกข์ใจสุด ลูกหนีเรียน ดื่มสุรา ทะเลาะวิวาท เผย คำพูด“น่ารำคาญ”สร้างความเสียใจ อยากเห็นการให้เกียรติ รับผิดชอบครอบครัว ด้านเยาวชนก้าวพลาดสำนึกผิด ทำไปเพราะคึกคะนอง คนที่ทุกข์ที่สุด คือ แม่ วันที่ 8 ส.ค. ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์) มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก เครือข่ายละครดีดี๊ดี สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดเสวนา“เสียงสะท้อนหัวอกแม่…หัวอกเมีย” เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2556 ภายในมีการแสดงละครชุด รักบริสุทธิ์ โดยเครือข่ายละครรณรงค์ดีดี๊ดี... น.ส.มณี ขุนภักดี หัวหน้าฝ่ายรณรงค์และเผยแพร่ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยผลสำรวจ "เสียงของแม่…เสียงสะท้อนถึงลูกและสามี” โดยเก็บข้อมูลกลุ่มผู้หญิงทั้งหมด 1,151 ตัวอย่าง ในพื้นที่ 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ชุมพร อำนาจเจริญ นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ และ กทม. ระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม-2 สิงหาคม 2556 โดยกลุ่มตัวอย่าง 51.3% อาศัยอยู่กับลูกและสามี 17.8% อยู่กับสามี 17.9% แยกทางกับสามี ans1 ans1 ans1 ทั้งนี้ พฤติกรรมของสามีที่ทำให้รู้สึกเสียใจ คือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 25.8% นอกใจ 19.9% ไม่รับผิดชอบครอบครัว 16.9% เล่นการพนัน 15.8% ด่าทอ ทำร้ายจิตใจ 11.7% ทุบตี ทำร้ายร่างกาย 6.7% บังคับมีเพศสัมพันธ์ 3.2% น.ส.มณี กล่าวว่า เมื่อถามถึงพฤติกรรมลูกที่ทำให้เสียใจ กลุ่มตัวอย่างระบุว่า 22.7% หนีเรียน 18.9% ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 14.9% ทะเลาะวิวาท 14% ติดยาเสพติด 10% เล่นการพนัน 6.3% ลูกไม่ทำงาน/ไม่มีอาชีพ 5.3% ตั้งครรภ์ไม่พร้อม ส่วนคำพูดของลูกและสามีที่ทำให้รู้สึกเสียใจ พบว่า เกือบครึ่ง หรือ 48.2% ใช้คำว่า “น่ารำคาญ จู้จี้ขี้บ่น” 13.4% “เลิกยุ่งกับชีวิตซะที” 10.4% “ดูเมีย/ดูแม่คนอื่นเขาเสียบ้าง” 9.7% “เงียบไปเลย หุบปากซะ” อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมคลายเครียดเมื่อทุกข์ใจ กลุ่มตัวอย่าง 26.1% จะหาทางออกด้วยการระบายทุกข์กับเพื่อน 16.9% เก็บไว้คนเดียว 15% ฟังวิทยุดูโทรทัศน์/ภาพยนตร์ 12% ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ http://www.youtube.com/watch?v=xiAu_PqvVck# (http://www.youtube.com/watch?v=xiAu_PqvVck#) เผยแพร่เมื่อ 7 ก.ย. 2012 โดย Yee Phasouk น.ส.มณี กล่าวอีกว่า สิ่งที่กลุ่มผู้หญิงอยากเห็นเพื่อทำให้ครอบครัวดีขึ้นและมีความสุข พบว่า การให้เกียรติกัน 19.3% การรับผิดชอบครอบครัว 15.5% ลูกตั้งใจเรียนไม่เกเร 15.4% การลดละเลิกเหล้า 12.9% การช่วยทำงานบ้าน 12.4% พูดจาไพเราะ 10.3% การไม่นอกใจ 8.9% การไม่ทุบตีทำร้ายร่างกาย 5.3% นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้หญิงในบทบาทแม่และภรรยาอยากได้รับการสนับสนุน คือ มีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องครอบครัว 31.5% สนับสนุนให้สามีและลูกรับผิดชอบครอบครัว 29.5% มีเวลาดูแลตัวเอง 16.9% “ปัญหาซ้ำซ้อนที่กดทับผู้หญิงล้วนมาจากคนใกล้ชิด อีกทั้งสถานการณ์การดื่มก็ยังขยายตัว จากผลสำรวจ พบข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ภรรยาเสียใจต่อพฤติกรรมการดื่มสุรามากเป็นอันดับหนึ่ง และยังมีพฤติกรรม การนอกใจ ไม่รับผิดชอบครอบครัว ด่าทอ ทุบตี บังคับมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเรามีกฎหมายห้ามข่มขืนภรรยาแต่มีจำนวนน้อยมากที่จะดำเนินคดีกับสามี นอกจากนี้ เวลาที่ผู้หญิงเครียด แทบจะน้อยมากที่จะเข้าหาหรือระบายทุกข์กับเพื่อน จึงสะท้อนว่าผู้หญิงถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพังเมื่อเกิดปัญหา ไม่มีพื้นที่ และสังคมไม่ได้รับฟัง หากปล่อยไว้ระยะยาวจะนำมาสู่ปัญหา ดังนั้น สิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องทำร่วมกันคือ เพิ่มพื้นที่ให้ผู้หญิงได้พูดคุย เพิ่มบทบาทผู้หญิงเพื่อได้ระบายปัญหา รณรงค์สร้างความเข้าใจฐานความคิดชายเป็นใหญ่ กระตุ้นให้เพศชายเข้าใจให้เกียรติ ส่งเสริมให้ผู้หญิงมีความเข้มแข็ง นอกจากนี้ ครอบครัว ชุมชน สังคม ต้องช่วยกันลดปัจจัยกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้ชายเข้ามามีส่วนร่วมในครอบครัว” น.ส.มณี กล่าว :67: :67: :67: ด้านนายเอ (นามสมมติ) เยาวชนชายจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก หนึ่งในเยาวชนที่ก้าวพลาดในชีวิต กล่าวว่า ตนทำเรื่องผิดพลาดสำคัญในชีวิตด้วยความคึกคะนอง นั้นคือ ยิงคนตาย ขณะนี้ถูกคุมประพฤติอยู่กว่า 2 ปีแล้ว วันนี้เมื่อกลับมาทบทวนสิ่งที่ได้ทำไป รู้สึกเสียใจ ว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ตนเองควรจะมีความคิดให้รอบคอบก่อนที่จะทำเรื่องอย่างนั้น เพราะท้ายที่สุดสิ่งที่ตามมาคือเสียอนาคต ผลกระทบตกอยู่กับครอบครัว โดยเฉพาะแม่ "แม่ผมเสียใจมาก แต่ก็เป็นกำลังใจให้ผมตลอดมา แม่บอกว่า อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป ไม่เคยซ้ำเติมผม ให้ผมอยู่กับปัจจุบันทำวันนี้ให้ดีที่สุด ผมรู้ว่าแม่ต้องรับภาระเพิ่มมากขึ้น แต่แม่ก็มาหาผมทุกวันอาทิตย์ไม่เคยขาดแม้สักวันเดียว เพราะความคึกคะนองของผมแต่ผลมันตกอยู่บนความทุกข์ของแม่ อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงเยาวชนว่า ควรจะเรียนหนังสือให้เต็มที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ อย่าไปนอกกรอบ เพราะพ่อแม่ของเราเหนื่อยมามาก หากเราเดินทางผิดท่านก็ต้องเสียใจ และรับภาระเพิ่ม ขอฝากถึงพ่อแม่ทุกคนด้วยเช่นกันว่า ถ้าหากลูก ๆ เดินทางผิดพลาด ไม่ควรซ้ำเติม แต่ควรหันมาแนะนำชี้ทางให้ลูกเดินไปในทางที่ถูก" นายเอ กล่าว :sign0144: :sign0144: :sign0144: ขณะที่ นางทิชา ณ นคร ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า คนเป็นพ่อแม่ ต้องท่องจำให้ขึ้นใจว่า เด็กไม่เคยเป็นผู้ใหญ่มาก่อน เพราะฉะนั้นต้องอบรมสั่งสอนเขา ตนในฐานะที่เป็นแม่และต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง ไม่มีใครอยู่อย่างยืนยาว มีแต่เดินผ่านมาแล้วจากไป แต่คนที่เหลืออยู่จะต้องมีชีวิตต่อไป ในฐานะแม่นั้นคือ ลูก ซึ่งแม่จะต้องมีความอดทน เข้มแข็งให้เพียงพอในการทำหน้าที่ไม่ว่าจะในฐานะพ่อหรือแม่ให้ดีที่สุด “ขอฝากกำลังใจให้ผู้หญิงที่เป็นแม่หากอยู่ในภาวะทดท้อ ต้องสูญเสียสามีไม่ว่าจะเป็นเพราะการหย่าร้าง หรือ สูญเสียชีวิตความทุกข์ไม่ได้อยู่กับเรายาว แต่มันแค่แวะมาทักทาย แล้วก็จากไป ขอให้อย่าจมกับความทุกข์โศก ให้ผ่านพ้นก้าวข้ามความทุกข์ออกมาให้ได้ เพราะหากทำได้นั้นหมายถึงเราจะเป็นคนใหม่ที่เข้มแข็งกว่าเดิม ซึ่งความเข้มแข็งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเดินทางบนถนนชีวิต”นางทิชา กล่าว. ไทยรัฐออนไลน์ ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/edu/362298 (http://www.thairath.co.th/content/edu/362298) |