หัวข้อ: อึ้ง! ปอท. จะคุมการเล่น LINE นักก.ม.-นักวิชาการ สับแหลก.! เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 14, 2013, 07:34:25 am (http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/225733.jpg) อึ้ง! ปอท. จะคุมการเล่น LINE นักก.ม.-นักวิชาการ สับแหลก! เป็นเรื่องทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ เพียงชั่วพริบตา หลังจาก พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) ออกมาเปิดเผยว่า ได้ส่งทีมงานไปประเทศญี่ปุ่นและเข้าพบผู้บริหาร ของผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น ไลน์ (LINE) เพื่อขอความร่วมมือในการเข้าไปตรวจสอบข้อมูลการสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่น LINE รวมถึงข้อมูลรายชื่อของผู้ใช้รายนั้นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ซึ่งอยู่ระหว่างรอผู้ให้บริการพิจารณาว่าจะจะยอมรับคำร้องขอหรือไม่ :96: :96: :96: นักกฎหมายสับทำไม่ได้ผิดก.ม. นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีที่เป็นข่าว คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถกระทำได้แน่ เนื่องจากผู้บริหารแอพพลิเคชั่น LINE ที่ประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะเป็นการผิดสัญญาและละเมิดสิทธิ์ เพราะการที่จะนำข้อมูลของผู้ที่ใช้บริการจากบริษัทแม่ของ LINE ที่ประเทศญี่ปุ่นมาเปิดเผยหมายความว่า ผู้ใช้บริการต้องกระทำความผิดตามก.ม.ของประเทศญี่ปุ่นด้วย “การให้ข้อมูลของผู้ใช้บริการในลักษณะนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อศาลสั่ง ซึ่งข้อมูลตามที่ข่าวเสนอออกมา มองว่าเป็นเรื่องของจิตวิทยาที่ต้องการป้องปรามผู้ใช้งาน” :41: :41: :41: นายไพบูลย์ กล่าวย้ำว่า การขอข้อมูลมีได้สองทาง คือ 1.ขอข้อมูลเอกสารมาจากบริษัทแม่ของ LINE ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งต้องขอคำสั่งจากศาล และ2.ดักข้อมูลลับ ซึ่งผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 “ถ้าตำรวจนำข้อมูลที่ได้จาก LINE มาใช้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการต่างๆ ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของชื่อ LINE นั้น สามารถฟ้องกลับตำรวจและบริษัทแม่ของ LINE ที่ญี่ปุ่นได้ทันที เพื่อให้ชี้แจงการได้มาซึ่งข้อมูล” นายไพบูลย์ มองว่า การออกมาให้ข่าวเรื่องการจะคุมการใช้งานแอพพลิเคชั่น LINE เป็นเพียงความต้องการลดกระแสการต่อต้านทางการเมืองเลยมาล่วงล้ำสิทธิ์ของประชาชนในการติดต่อสื่อสาร :91: :91: :91: นักวิชาการชี้ทำยาก “ละเมิดสิทธิ์” ความเห็นจากนักวิชาการคอมพิวเตอร์ เปิดเผยว่า การใช้แอพพลิเคชั่นสนทนา "ไลน์ (LINE)" มีการใส่อีเมล์ลงทะเบียนเข้าใช้ ปัจจุบันสามารถเล่นได้ทั้งบนโทรศัพพ์มือถือสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์พีซีและโน๊ตบุ๊ค แม้จะเป็นเพจในตัว แต่เห็นว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นการสนทนาหรือแชท มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงถือว่ามีปริมาณข้อมูลมหาศาล โดยทั่วไปผู้ให้บริการมักไม่เก็บข้อมูลสนทนาเหล่านี้ไว้ ดังนั้นเรื่องการตรวจสอบจึงค่อนข้างยาก อาจทำในลักษณะตรวจแบบสืบย้อนตามหาต้นทางการเผยแพร่ข้อมูลบางอย่างเป็นการเฉพาะมากกว่า แต่ทั้งนี้การเข้าไปดูข้อมูลการสนทนาของผู้อื่น โดยที่เจ้าตัวไม่รู้และไม่ได้อนุญาตย่อมให้ความรู้สึกถูกละเมิดสิทธิพื้นฐานในการแสดงออก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน แอพพลิเคชั่น LINE ในไทยมีจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้งาน 15 ล้านคน. ขอบคุณภาพข่าวจาก ภาพประกอบบางส่วนจาก www.technolomo.com (http://www.technolomo.com) http://www.dailynews.co.th/technology/225733 (http://www.dailynews.co.th/technology/225733) |