หัวข้อ: กระทรวงวัฒนธรรมพาทูต 22 ชาติ ชมพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 18, 2013, 02:15:35 pm (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/17/364105/hr1667/630.jpg) กระทรวงวัฒนธรรมพาทูต 22 ชาติ ชมพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช วธ.พาทูต 22 ชาติ ชมพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช สร้างความเข้าใจ ก่อนเสนอเป็นมรดกโลก หวังดึงต่างชาติเที่ยวไทยเพิ่ม ขณะที่กรมศิลป์ จับมือ จ.นครศรีธรรมราช ทำแผนบริหารจัดการพื้นที่ ยันไม่สกัดขายของ แต่ขอให้จัดระเบียบผู้ค้า... เมื่อวันที่ 17 ส.ค. กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดโครงการวัฒนธรรมสัญจรแหล่งมรดกโลกสำหรับคณะทูตานุทูต ที่จ.นครศรีธรรมราช โดยนำคณะทูตานุทูตและคู่สมรส ตลอดจนผู้แทน จำนวน 22 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย กัมพูชา แคนาดา โคลัมเบีย เช็ก เดนมาร์ก อิหร่าน ญี่ปุ่น เกาหลี มอลตา เม็กชิโก มองโกเลีย โมร็อกโก เนเธอแลนด์ โรมาเนีย สโลวัก เวียดนาม ฮังการี เคนยา เนปาล ปากีสถาน และศรีลังกา เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการที่ประเทศไทยกำลังเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เป็นมรดกโลกในอนาคต ask1 ask1 ask1 นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ผู้ช่วย รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งจะทำให้คณะทูตานุทูต และผู้แทน ได้รับรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ที่ได้เข้าสู่บัญชีเบื้องต้น ก่อนเสนอให้เป็นแหล่งมรดกโลกต่อยูเนสโก ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 37 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการพาคณะทูตศึกษาแหล่งศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ พิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช กลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้านคีรีวง และบ้านหนังตะลุงสุชาติ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก รวมทั้งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ให้เป็นที่รู้จักประจักษ์สู่สายตาชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/17/364105/o2/420.jpg) “เป็นที่น่ายินดีที่คณะทูตานุทูตต่างพอใจกับการจัดงานของกระทรวงวัฒนธรรม ทั้งยังชื่นชมในการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ก็ได้รับกระแสตอบรับจากหลายประเทศว่า จะช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ประชาชนในแต่ละประเทศเข้ามาเที่ยวประเทศไทยให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เราต้องมองไปข้างหน้าในการประสานงานกับทางสถานทูตต่างๆ เพื่อให้มีส่วนช่วยผลักดันประเทศไทยในการดำเนินงานในด้านอื่นๆ ต่อไปด้วย” นายอดิศักดิ์ กล่าว ด้านนายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช กรมศิลปากร กล่าวว่า หลังจากที่พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช เข้าสู่บัญชีเบื้องต้นแล้ว กรมศิลปากรได้ร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จัดทำเอกสารการขึ้นทะเบียนมรดกโลก รวมถึงการดูแลพื้นที่ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ans1 ans1 ans1 โดยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่กันชน และพื้นที่แกนหลัก ซึ่งพื้นที่แกนหลักจะอยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร ที่ต้องแลซ่อมแซมตัวโบราณสถาน สิ่งปลูกสร้างโดยรอบ ส่วนพื้นที่กันชนจะอยู่ในความรับผิดชอบของท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้ได้จัดตั้งคณะกรรมการนำเสนอพระบรมธาตุสู่มรดกโลกเข้ามาดูและทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่บางส่วนที่ยังคัดค้านการขึ้นทะเบียน เนื่องจากต้องมีการควบคุมพื้นที่บ้านเรือน รวมถึงร้านค้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย “ในเบื้องต้น คณะกรรมการฯ ได้มีมติ ไม่เข้าไปควบคุมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่มากนัก เพียงแต่ขอให้ร้านค้า และคนในพื้นที่ช่วยรักษาความสะอาดและช่วยจัดพื้นที่หน้าร้านเป็นระเบียบ เรียบร้อย เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ นอกจากนี้ ทางจังหวัดจะมีการเพิ่มเส้นทางคมนาคมเข้าสู่พระบรมธาตุนครฯ รวมถึงจะมีการจัดระบบสายไฟฟ้าลงสู่ใต้ดินในการสร้างภูมิทัศน์ให้งดงามด้วย” ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช กล่าว. ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/edu/364105 (http://www.thairath.co.th/content/edu/364105) |