สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => IT สาระประโยชน์ชาวธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 23, 2013, 12:14:34 pm



หัวข้อ: ธุรกิจของคุณ..มีตัวตนบนโลกออนไลน์แล้วหรือยัง.?
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 23, 2013, 12:14:34 pm

(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/22/365028/hr1667/630.jpg)

ธุรกิจของคุณ..มีตัวตนบนโลกออนไลน์แล้วหรือยัง.?

วิธีการค้นหาข้อมูลของคนสมัยนี้เปลี่ยนจากเดิมไปมากนะครับ สมมติว่าแอร์หรือตู้เย็นที่บ้านผมเสีย ผมคงไม่เลือกเปิดหาร้านแอร์จากสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง แต่หันมาค้นหาร้านแอร์ในละแวกบ้านผ่านอินเทอร์เน็ตแทน

ฟังแล้วดูธรรมดา ใครๆ ก็ทำกัน แต่ถ้าลองเปลี่ยนมุมมองมาเป็นเจ้าของร้านแอร์ดูบ้าง ข้อมูลการค้นหาเหล่านี้คือ “ลูกค้า” ที่จะส่งต่อมายังธุรกิจของเรา (ที่เป็นธุรกิจแบบเดิมๆ ไม่ได้ขายของออนไลน์)

ในยุคสมัยที่ข้อมูลข่าวสารอยู่บนเน็ต คนค้นหาบริการหรือสินค้าผ่านเน็ต ต่อให้ธุรกิจเราไม่ได้ขายของออนไลน์หรือทำอีคอมเมิร์ซ เราก็จำเป็นต้องมี “ตัวตน” อยู่บนอินเทอร์เน็ตให้ลูกค้าค้นหาจนกระทั่งมาเลือกใช้บริการของเราได้ คอลัมน์ตอนนี้ผมขอแนะนำเทคนิคเบื้องต้น 4 ข้อที่ร้านค้าทุกแห่งทั่วไทยควรปฏิบัติ เพื่อให้มี “ตัวตน” อยู่บนโลกออนไลน์ครับ

 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

Google
สิ่งแรกที่ผู้ใช้เน็ตนึกถึงเวลาต้องการค้นหาข้อมูลย่อมหนีไม่พ้น “กูเกิล” ถึงแม้ในต่างประเทศจะมีคู่แข่งบ้าง แต่ในเมืองไทยกูเกิลกินตลาดเกือบ 100% ดังนั้นไม่ต้องคิดถึงกรณีอื่น ทำตัวเราให้ค้นเจอในกูเกิลก่อนเป็นพอ

วิธีการที่ง่ายและถูกที่สุด ผมแนะนำให้เปิดเว็บฟรีที่มีอยู่ทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต ไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่ต้องดูแล เขียนข้อมูลของร้านค้าหรือธุรกิจเราทิ้งไว้บนเว็บเหล่านี้ ให้ข้อมูลที่สำคัญๆ คือร้านค้าทำอะไร ขายอะไร อยู่ที่ไหน (ใส่แผนที่ละเอียดๆ ด้วย อันนี้สำคัญมาก) ใส่รูปภาพหน้าร้าน มีเบอร์ติดต่ออะไรบ้าง

ผมขอให้พยายามใส่ข้อมูลเป็น text ธรรมดาเพราะกูเกิลจะค้นเจอง่าย อย่าทำข้อความเป็นรูปภาพ ความสวยไม่สำคัญเท่าการหาเจอในกูเกิล

เว็บฟรีที่ผมแนะนำคือ “บล็อก” ยอดนิยมอย่าง WordPress.com หรือ Blogger.com ซึ่งถึงแม้ว่าชื่อจะเป็นบล็อก แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องเขียนบล็อกอัพเดตอยู่ตลอด ขอเพียงเขียนเนื้อหาสำคัญๆ 1-2 หน้าไว้บนบล็อกเหล่านี้ให้ละเอียด ตั้งชื่อให้สื่อหน่อย (เช่น ชื่อบล็อกตรงกับชื่อร้าน ระบุชื่อจังหวัดหรือย่านที่อยู่ในชื่อบล็อกด้วย) เท่านี้เราก็มีเว็บง่ายๆ ที่พร้อมจะแสดงให้ “ว่าที่ลูกค้า” ที่จะมารู้จักเว็บเราผ่านทางกูเกิลแล้ว (ในทางปฏิบัติถ้าจะให้ได้ผล อาจต้องลงทุนทำเนื้อหาให้เหมาะกับกูเกิลเป็นพิเศษ หรือที่เรียกกันว่า SEO - Search Engine Optimization แต่ผมคงไม่ลงรายละเอียดในที่นี้ครับ คอลัมน์นี้เน้นแบบง่ายจริงๆ)


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/22/365028/o5/420.jpg)

Google Maps
ธุรกิจกลุ่มร้านอาหารหรือร้านค้าที่มีหน้าร้าน พวกนี้จำเป็นต้องมีแผนที่ที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าเดินทางมายังร้านได้ ในยุคสมัยนี้ Google Maps เป็นแผนที่ออนไลน์อันแรกที่ผู้ใช้เน็ตส่วนใหญ่เลือก และจะลองค้นหาพิกัดหรือตำแหน่งของสถานที่นั้นๆ เป็นอันดับแรก

Google Maps มีข้อมูลสถานที่หรือห้างร้านในไทยเยอะพอสมควร เบื้องต้นผมแนะนำให้ลองค้นหาชื่อร้านตัวเองใน Google Maps ก่อน ถ้าเจอและตรวจสอบว่าพิกัด-ข้อมูลถูกต้อง ก็สบายแล้วครับไม่ต้องทำอะไร

แต่ถ้าค้นแล้วไม่เจอชื่อร้านของเรา อันนี้ต้องออกแรงกันสักนิดครับ กูเกิลเปิดช่องให้เราเพิ่มสถานที่หรือธุรกิจของตัวเองลงไปได้อยู่แล้ว แค่กดตรงคำว่า “วาง ธุรกิจของคุณบน Google แผนที่” (หรือ Put your business on Google Maps) จากหน้าเว็บของกูเกิลตามภาพ แล้วทำตามขั้นตอนที่กูเกิลบอกไปเรื่อยๆ ก็เรียบร้อย

 :49: :49: :49:

Facebook
ยุคนี้คนเล่น Facebook กันเยอะ เราก็สมควรมีตัวตนใน Facebook ด้วยครับ วิธีการง่ายมากคือไปเปิด Facebook Page ครับ ง่ายและฟรี มีบัญชี Facebook อยู่แล้วก็ใช้งานได้เลย

ขั้นตอนแรกให้เข้าไปที่ https://www.facebook.com/pages/create/ (https://www.facebook.com/pages/create/) เลือกธุรกิจท้องถิ่น (หรือกรณีที่เป็นบริษัท ก็เลือกแบบองค์กร) กรอกข้อมูลเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จ

ผมแนะนำเหมือนเดิมว่าชื่อ Page ต้องสื่อความหมายถึงร้านค้าของเรา พยายามเลือกคำที่ผู้ใช้น่าจะนึกถึงและพิมพ์ลงในช่องค้นหาของ Facebook (ลองเอาพฤติกรรมของตัวเองเวลาหา Page ร้านค้าอื่นๆ ใน Facebook ก็ได้) และหมั่นโพสต์ข้อมูลของร้านลงใน Page สักหน่อยให้ดูคึกคัก เป็นการแสดงว่าร้านเรายังให้บริการอยู่

Foursquare
Foursquare เป็นแอพแผนที่ออนไลน์สำหรับแนะนำที่เที่ยวหรือร้านอาหาร ที่คนยังใช้ไม่เยอะนักเมื่อเทียบกับ

Facebook/Twitter/LINE แต่ข้อมูลสถานที่ของ Foursquare กลับถูกใช้ในแอพดังๆ หลายตัว (ที่ดังที่สุดคือ Instagram ซึ่งเวลาระบุสถานที่โพสต์รูปนั้นดึงข้อมูลจาก Foursquare)

 ans1 ans1 ans1

ดังนั้น เพื่อให้ร้านค้าของเรามีข้อมูลบนแอพดังๆ เหล่านี้ ก็ควรเพิ่มข้อมูลสถานที่ของเราลงใน Foursquare ด้วย วิธีการจะยุ่งยากกว่าของ Google/Facebook หน่อยและต้องสมัครใช้ Foursquare ก่อนด้วย (แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปนะครับ) พื้นที่คอลัมน์ตอนนี้คงอธิบายได้ไม่หมด แต่เข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่ business.foursquare.com แล้วเลือกส่วนของ listing หรือ claim your venue ครับ

มาร์ค Blognone


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/content/tech/365028 (http://www.thairath.co.th/content/tech/365028)