|
หัวข้อ: ตำนาน "ด่านเจดีย์สามองค์" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 26, 2013, 06:48:56 am (http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/04/K4282454/K4282454-10.jpg) ด่านเจดีย์สามองค์ ช่องทางเดินทัพไทย มอญ พม่า ในสมัยโบราณ มีอยู่สองแห่ง ด่านแม่ละเมา แขวงจังหวัดตาก และด่านเจดีย์สามองค์ แต่ในแผนที่ทางประวัติศาสตร์ ปรากฏชื่อเจดีย์สามองค์ อยู่ถึงสามแห่ง แห่งที่ 1 ด่านพระเจดีย์สามองค์ ตำบลหนองลู ห่างที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ราว 25 กิโลเมตร ถึงวันนี้ยังมีเจดีย์สามองค์ ตั้งเรียงรายให้เห็นกันอยู่ แห่งที่ 2 ตำบลพระเจดีย์สามองค์ เขตจังหวัดกาญจนบุรีเหมือนกัน แต่องค์เจดีย์พังทลายไปนานแล้ว ไม่มีชื่อเสียงปรากฏในพงศาวดาร แห่งที่ 3 ตำบลเจดีย์สามองค์ เขตจังหวัดราชบุรี จุดที่ต่อแดนกับพม่า ณ เขาบรรทัดเคยมีพระเจดีย์ แต่พังทลายไปนาน ans1 ans1 ans1 ด่านเจดีย์สามองค์แห่งแรก ส.พลายน้อย เขียนไว้ในสารานุกรมประวัติศาสตร์ไทย (สำนักพิมพ์พิมพ์คำ) พระราชพงศาวดารออกชื่อด่านนี้ ในรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ลุศักราช 941 ปีเถาะ เอกศก (พ.ศ.2122) พระมหาอุปราชา พระเจ้าเชียงใหม่ ยกพลห้าสิบหมื่น ช้างเครื่องเจ็ดร้อย ม้าสามพันมา ข้ามเมืองเมาะตะมะ มาโดยทางแม่กษัตร์ เข้าทางพระเจดีย์สามองค์ และอีกตอนหนึ่งว่า... สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ก็แยกพระคชาธาร พร้อมด้วยทแกล้วทหารซ้ายขวาหน้าหลัง กระโจมตีฆ่าฟันทหารมอญ ล้มตายเป็นอันมาก พระเจ้าแปรเห็นเหลือกำลังจะทานมิได้ ก็รุดหนี ทหารกรุงพระนครมหาศรีอยุธยาก็ยกตามไป ฝ่ายทัพพระมหาเทพ ซึ่งไปซุ่มอยู่นั้น เห็นได้ทีก็ยกออกมาโจมตีแทงฟันข้าศึกตาย และลำบากเกลื่อนไปชายดงชายป่า จนพระเจดีย์สามองค์ เมื่อเป็นเช่นนี้ชวนให้คิดว่า น่าจะมีพระเจดีย์สามองค์มาก่อนหน้านั้นแล้ว สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า อาจจะมีมาแต่ครั้งแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (http://i1255.photobucket.com/albums/hh631/offway/page-JD3-1.jpg) ต้นเหตุที่จะมีพระเจดีย์ขึ้นนั้น มีผู้สันนิษฐานไว้(สมุดราชบุรี)ว่า ธรรมเนียมของพวกเดินป่าเมื่อผ่านที่สำคัญ เช่นสันเขา ต้นไม้ใหญ่หรือปากดง ที่มีความไข้เจ็บชุกชุม ถือกันว่ามีเทพารักษ์ศักดิ์สิทธิ์สิงสู่ จึงมีประเพณีสักการะบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียน แต่ในที่กันดารเช่นนั้น ไม่มีใครนำธูปเทียนไปด้วยนัก จึงเกิดการใช้กิ่งไม้ หรือดอกไม้ เมื่อไม่มีก็ใช้ก้อนหิน กาลนานเข้ามีผู้คนเดินผ่านมากขึ้น สิ่งสักการะก็ย่อมทวีขึ้นตาม ธรรมเนียมคนเดินทาง เมื่อได้พบเห็นมีผู้กระทำสักการะในที่ใดไว้ก่อน ก็ถือกันว่าต้องทำตาม มิฉะนั้นก็จะไม่มีความสบายใจ จนจะพาให้เกิดไข้เจ็บหรืออันตรายขึ้นได้ พระเจดีย์สามองค์ ก็คงเป็นหลักไม้ หรือหลักหินอยู่แต่เดิม โดยที่ระยะทางที่คนเดินไปมาแต่กาลดึกดำบรรพ์ ก็ได้รับเครื่องสักการะด้วยก้อนหินทับถมมากขึ้น จนกลายเป็นกองหินสามกอง ภายหลังก็กลายมาเป็นพระเจดีย์สามองค์ ลัทธินิยมสร้างเป็นพระเจดีย์ ปรากฏในพระราชพงศาวดาร ในรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรนั้นเอง คือเมื่อพ.ศ.2135 หลังสงครามยุทธหัตถี ได้มีพระราชกำหนดให้พระยาจักรี ถือพลห้าหมื่นไปตีเมืองตะนาวศรี ให้พระยาคลังไปตีเมืองทะวาย เมื่อตีเมืองทั้งสองได้ ก็ยกทัพกลับ :49: :49: :49: พงศาวดารกล่าวว่า ขณะนั้นยกกองทัพมาโดยถม่องส่วย ถึงตำบลเขาสูง ช่องแคบแดนพระนครศรีอยุธยากับเมืองทะวายต่อกัน หาที่สำคัญไม่ได้ จึงให้เอาปูนในเต้าไพร่พลทั้งปวงมาผสมกัน เข้าเป็นใบสอ ก่อพระเจดีย์ฐานสูง 6 ศอก พอหุงอาหารสุกก็เสร็จ แสดงว่า นิยมสร้างเจดีย์ตามช่องทางต่างๆมาแต่ครั้งนั้น ด่านเจดีย์สามองค์แห่งนี้ เดิมจะเป็นกองหินหรือเจดีย์รูปทรงอะไรไม่ทราบ พบหลักฐานว่า เมื่อพ.ศ.2432 พระศรีสุวรรณคีรี(ทะเจียงโปรย เสตะพันธู) นายอำเภอสังขละบุรี บอกความประสงค์ไปยัง เนียงเจอ ผู้นำกะเหรี่ยง ช่วยกันสร้างขึ้น พระเจดีย์สร้างตามศิลปะมอญระยะห่างกันองค์ละ 8 เมตร องค์กลางสูงกว่าองค์ข้างๆเล็กน้อยๆ พระเจดีย์เรียงจากทิศตะวันออกไปตะวันตก องค์ตะวันออกอยู่ในเขตไทย องค์ตะวันตกอยู่ในเขตพม่า ส่วนองค์กลางอยู่ตรงสันเขาปันแดนไทยพม่า กองทัพพม่ายกทัพเข้ามาโจมตีไทย ผ่านด่านพระเจดีย์สามองค์ ตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ รวม 11 ครั้ง เพราะการเดินทางสะดวก ทั้งยังใกล้กว่าเส้นทางอื่น แม้เมื่อครั้งมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่น ตั้งใจโจมตีพม่าก็ยังใช้เส้นทางนี้. OบารายO ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.thairath.co.th/column/pol/kumpee/365491 (http://www.thairath.co.th/column/pol/kumpee/365491) http://topicstock.pantip.com/ (http://topicstock.pantip.com/) , http://i1255.photobucket.com/ (http://i1255.photobucket.com/) |