สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 29, 2013, 08:14:46 am



หัวข้อ: ศรัทธาวัดพระมหาธาตุฯ ประวัติศาสตร์มรดกโลก
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 29, 2013, 08:14:46 am

(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/27/366077/hr1667/630.jpg)

ศรัทธาวัดพระมหาธาตุฯ ประวัติศาสตร์มรดกโลก

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าสู่บัญชีเบื้องต้นตามที่ประเทศไทยเสนอ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาเป็นมรดกโลก ซึ่งจะจัดประชุมอีกครั้งในปี 2558

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เข้ารอบพิจารณาเป็นมรดกโลกด้วยหลักเกณฑ์ 3 ข้อ...

หลักเกณฑ์ข้อที่ 1 เป็นตัวแทนผลงานที่เป็นเลิศของการสร้างจากอัจฉริยะของมนุษย์ เนื่องจากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นตัวแทนของระบบความเชื่อทางศาสนาพุทธ ผ่านทางแผนผังและการออกแบบสถาปัตยกรรม โดยการแบ่งขอบเขตพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน มีพระบรมธาตุเจดีย์เป็นประธานสถาปัตยกรรมและการประดับอาคารสื่อความหมายปรัชญาทางพุทธศาสนาและพุทธประวัติ

หลักเกณฑ์ข้อที่ 2 แสดงให้เห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงคุณค่าของมนุษย์ตามกาลเวลา หรือในวัฒนธรรมด้านใดด้านหนึ่งของโลกในการพัฒนาด้านสถาปัตยกรรมหรือทางเทคโนโลยี ศิลปะสถาปัตยกรรมโบราณ การออกแบบผังเมืองหรือการออกแบบภูมิทัศน์ โดยพระบรมธาตุเจดีย์ยังคงรักษาความครบถ้วนสมบูรณ์ของโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมในสมัยแรกสร้างราวปลายพุทธศตวรรษที่ 18 รูปแบบทางสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลจากศิลปะลังกา ตามแบบอย่างคติของพุทธศิลป์ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช

หลักเกณฑ์ข้อที่ 3 มีความสัมพันธ์โดยตรงและแสดงเห็นได้ชัดเจนกับเหตุการณ์หรือประเพณีที่ยังคงอยู่หรือความคิด ความเชื่อ งานศิลปกรรมและวรรณกรรม ที่มีความโดดเด่นเป็นสากล ความเชื่อของผู้คนเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมสารีริกธาตุของพุทธศาสนิกชน ที่จะสั่งสมสร้างบุญกุศลตามประเพณีในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งด้านวรรณกรรม คติกรรม และนาฏกรรม ตลอดจนการประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา อาทิ ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ วันมาฆบูชาและวันวิสาขบูชา


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/27/366077/o6/420.jpg)

นับแต่นี้ ชาวนครศรีธรรมราชจึงต้องเร่งทำความเข้าใจหลักเกณฑ์ 3 ข้อข้างต้นให้กระจ่างยิ่งขึ้น

ถ้าพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 2558 ประเทศไทยจะมีมรดกโลกทางวัฒนธรรมเป็นลำดับที่ 4...ก่อนหน้านี้เรามีเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร...ในปี 2534, นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา...ในปี 2534 และแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง...ในปี 2535

พลิกแฟ้มสำรวจทั่วโลกมีมรดกโลก 830 แห่ง อยู่ใน 138 ประเทศ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม 644 แห่ง,  เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ 162 แห่ง และแบบผสมทั้งสองประเภท 24 แห่ง

มรดกโลกทางวัฒนธรรมส่วนใหญ่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแหล่งนำรายได้เข้าประเทศ เช่น จีนมีรายได้จากกำแพงเมืองจีน อียิปต์มีรายได้จากพีระมิด ญี่ปุ่นมีรายได้จากเกาะมิยาจิม่า หรือภูเขาไฟฟูจิ เป็นต้น


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/27/366077/o7/420.jpg)

แต่วิถีชีวิตชาวนครศรีธรรมราช...อาจจะกล่าวได้ว่า “มีของดีอยู่ในบ้านเมือง ต้องกล้าเปิดกว้างให้คนเข้ามาชื่นชมเพราะสมบัติของพระพุทธศาสนาไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง”

มรดกโลกอยู่ภายใต้กำกับขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ภายใต้อนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดยมีคณะกรรมการมรดกโลก เป็นผู้พิจารณาการเสนอสถานที่ต่างๆจากประเทศต่างๆที่เป็นสมาชิกภาคี และมีกองทุนมรดกโลก...เป็นตัวผลักดันกองทุนมีรายได้จากค่าบำรุงประจำปี ของสมาชิกรัฐภาคี เงินบริจาคจากประเทศต่างๆ องค์กรและบุคคลทั่วไป

เป็นมรดกโลกแล้วได้อะไรบ้าง? คำตอบมีว่า...ได้คำปรึกษา ให้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ การอุดหนุนด้านการเงินในการดำเนินการรักษาในชั้นต้น การจัดการส่งผู้เชี่ยวชาญ ช่างเทคนิค แรงงานฝีมือ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อดำเนินการอนุรักษ์ ช่วยเหลือเร่งด่วน ในการจัดการกับภัยร้ายต่อมรดกโลก เช่น แผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิด อุทกภัย การคุ้มครองรักษา การฟื้นฟู...ประชาสัมพันธ์เพื่อการปกป้องอนุรักษ์สถานที่อันทรงคุณค่า


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/27/366077/o8/420.jpg)
วิโรจน์

วิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช บอกว่า การเตรียมการที่ทำไปแล้ว ได้ประชุมคณะกรรมการจัดหาทุนตั้งกองทุนพระบรมธาตุฯสู่มรดกโลก หลังจากที่จังหวัดฯได้นำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารต่อองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติเพื่อประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ซึ่ง...คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ ในการเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารต่อศูนย์มรดกโลก ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อบรรจุในบัญชี
รายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ในนามประเทศไทยเพียงแห่งเดียว

จังหวัดนครศรีธรรมราชจึงได้กำหนดให้มีการจัดหาทุนโดยการทอดผ้าป่าตั้งกองทุนพระบรมธาตุฯสู่มรดกโลกขึ้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผลักดันให้พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารสามารถขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกให้ได้สมใจชาวนครศรีธรรมราชที่รอคอยมานาน


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/27/366077/o9/420.jpg)

“เพื่อให้ชาวนคร คนไทยทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนผลักดันพระบรมธาตุเจดีย์เป็นมรดกโลก...เป็นการรวมใจ ร่วมแสดงความภาคภูมิใจในการผลักดันพระบรมธาตุฯสู่มรดกโลก”

วิโรจน์ ย้ำว่า ตั้งเป้าให้ทุกคนมีส่วนร่วมทำบุญอย่างน้อยคนละหนึ่งบาท เพื่อนำเงินมาเข้าสู่กองทุนมรดกโลก  เพราะหากว่าองค์การยูเนสโก หรืออีคอมโมส ต้องการให้ปรับปรุงเพิ่มเติมซึ่งจะไม่สามารถใช้เงินงบประมาณของทางราชการได้ จึงจำเป็นต้องใช้เงินจากกองทุนมรดกโลก

กำหนดทอดผ้าป่าพร้อมกันใน “วันแห่หฺมฺรับ” วันที่ 3 ตุลาคม 2556 ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ในงานประเพณีเทศกาลบุญสารทเดือนสิบและกาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกหลานชาวนครฯกลับมาเยี่ยมบ้าน และทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว

นอกจากนี้ จังหวัดยังได้ทำไม้ไผ่ติดก้านผ้าป่าที่เป็นสัญลักษณ์พระบรมธาตุฯสู่มรดกโลก ด้านหลังเขียนชื่อ-สกุล สำหรับผู้ที่ร่วมทำบุญ จำนวน 150,000 ก้าน กระจายไปยังส่วนราชการต่างๆ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทั้ง 23 อำเภอ เพื่อเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ร่วมทำบุญ ส่วนอีก 50,000 ก้าน เตรียมไว้สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญในวันทอดผ้าป่าในวันแห่หฺมฺรับ วันที่ 3 ตุลาคม 2556 นี้


(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/27/366077/o5/420.jpg)

จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงขอเชิญชวนชาวนครศรีธรรมราช และคนไทยทั้งประเทศร่วมผลักดันพระบรมธาตุฯสู่มรดกโลก ด้วยการร่วมทอดผ้าป่าบริจาคเงินสมทบกองทุนพระบรมธาตุฯสู่มรดกโลก โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมสมทบทุนโอนเงินได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช  ชื่อบัญชี...ผ้าป่ากองทุนพระบรมธาตุฯสู่มรดกโลก บัญชีเลขที่ 389-0-13087-9 หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่  สำนักงาน เสมียนตราจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช

ระหว่างกำลังดำเนินการจัดทำเอกสารฉบับสมบูรณ์เพื่อนำเสนอการเป็นมรดกโลกภายใน 2-3 ปีนี้ ขั้นตอนต่อไปถือว่าเป็นขั้นตอนที่ยากมาก...คือการเขียนเอกสารนำเสนอขึ้นสู่มรดกโลกแบบถาวร มีความยาว 8 บท เนื้อหา 300-400 หน้า เป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาฝรั่งเศส ซึ่งกรมศิลปากรและจังหวัดฯกำลังดำเนินการอยู่

ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช บอกว่า บทสำคัญที่สุดคือบทที่ว่าด้วยเรื่องความโดดเด่นอันทรงคุณค่าและเป็นสากล และเรื่องการบริหารจัดการในการทำนุบำรุงรักษาแหล่งมรดกนี้ไว้ให้เป็นมรดกของมนุษยชาติในรุ่นต่อไป แน่นอนว่าจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทั้งหมดเหล่านี้...เป็นความหวังของพี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และชาวไทย ที่รู้จัก “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ร่วมรวมพลังศรัทธาผลักดันไปสู่มรดกโลก.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/366077 (http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/366077)