สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 11, 2013, 09:30:14 am



หัวข้อ: สถาบัน "เอ็มไอที" ครองแชมป์มหาวิทยาลัยดีที่สุดในโลก ไทยไม่ติด 199 อันดับแรก
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 11, 2013, 09:30:14 am
(http://www.newenglandmagazine.com/wp-content/uploads/2011/05/MIT.jpg)

สถาบัน "เอ็มไอที" ครองแชมป์มหาวิทยาลัยดีที่สุดในโลก ไทยไม่ติด 199 อันดับแรก

มหาวิทยาลัยจากสหรัฐอเมริกามากถึง 6 แห่ง ติด 10 อันดับแรกมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในการจัดอันดับล่าสุด ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยประจำปี "QS World University rankings" บริษัทเอกชนวิจัยด้านการศึกษาของอังกฤษยังพบว่ามีมหาวิทยาลัยจากอังกฤษติดใน 10 อันดับแรกกว่า 4 แห่ง

   อันดับ 1 ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที)
   ตามมาด้วยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ของอังกฤษ 
   อันดับสี่เป็นของยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน  และ
   อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ในอันดับที่ 5
   อันดับ 6 เป็นของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด
   ตามมาด้วยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยเยล จากสหรัฐฯ ในอันดับที่ 7 และ 8 ตามลำดับ
   อันดับ 9 เป็นของมหาวิทยาลัยชิคาโก และสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (คาลเทค) ในอันดับที่ 10

 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

ขณะที่มหาวิทยาลัยจากเอเชียซึ่งติดอันดับสูงสุด คือ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ อยู่ในอันดับที่ 24 รองลงมาได้แก่ มหาวิทยาลัยโตเกียว จากญี่ปุ่น ในอันดับที่ 32 มหาวิทยาลัยเกียวโต ในอันดับที่ 35 เท่ากับมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ของเกาหลีใต้

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง จากสิงคโปร์ ในอันดับที่ 41 มหาวิทยาลัยปักกิ่งในอันดับที่ 46  มหาวิทยาลัยชิงเต่าในอันดับที่ 48 มหาวิทยาลัยโอซากา ในอันดับที่ 55  และสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงเกาหลี (KAIST) จากเกาหลีใต้ ในอันดับที่ 60  ส่วนมหาวิทยาลัยของไทยไม่มีชื่อติดอยู่ใน 199 อันดับแรกแต่อย่างใด

 :49: :49: :49:

ผลการจัดอันดับยังระบุว่า บัณฑิตผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ เป็นกลุ่มที่น่าจ้างงานที่สุด จากการสำรวจกลุ่มนายจ้างทั่วโลก 27,000 คน

นายเบน โซว์เตอร์ หัวหน้าฝ่ายการวิจัยของคิวเอส เปิดเผยว่า ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของสถาบันการศึกษาในอังกฤษ ได้รับความน่าเชื่อถือจากนายจ้างทั่วโลก โดยค่านิยมและความเชื่อถือที่มีต่อแบรนด์"อ็อกซ์ฟอร์ด" ยังคงไม่ได้รับผลกระทบ แม้จะเกิดกระแสการประท้วงต่อต้านการขึ้นค่าหน่วยกิตก็ตาม


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1378791403&grpid=01&catid=&subcatid= (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1378791403&grpid=01&catid=&subcatid=)