หัวข้อ: ชาวลาวสูญเสีย.! รองประมุขสงฆ์ พระนักเผยแผ่ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 15, 2013, 10:21:55 am (http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2013/09/14/aiaaf6bd6ebd96869ff9b.jpg) ชาวลาวสูญเสีย!'ดร.พระมหาชาลี กันตสีโล' รองประมุขสงฆ์พระนักเผยแผ่ สำราญ สมพงษ์รายงาน(FB-samran sompong) ช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านชาวพุทธได้ทราบข่าวการสุญเสียครั้งใหญ่ของวงการคณะสงฆ์อาเซียนถึง 2 ครั้งด้วยกัน คือเมื่อ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันที่สมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มรณภาพ ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ชาวพุทธทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศต่างเศร้าโศกเสียใจ และได้มีการบำเพ็ญกุศลฟังสวดพระอภิธรรมเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ขณะเดียวกันวันที่ 10 ก.ย.ที่เพิ่งผ่านไปนี้ พี่น้องชาวลาวก็ได้สูญเสียพระนักปกครอง พระวิปัสสนาจารย์ พระนักแผ่ศีลธรรมและด้านการสั่งสอนประชาชนที่ยิ่งใหญ่ของคณะสงฆ์ประเทศ สปป.ลาว นั้นก็คือ ดร.พระมหาชาลี กันตสีโล รองประธานองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์แห่งประเทศลาว (อพส.) หรือรองประมุขสงฆ์ลาว หัวหน้ากรรมาธิการใหญ่ เผยแผ่ศีลธรรมและวิปัสสนากัมมัฏฐานทั่วประเทศลาว :91: :91: :91: ทั้งนี้ดร.พระมหาชาลีเกิดที่จังหวัดยโสธร ปี 2476 และเดินทางไปจำพรรษาที่สปป.ลาวเพื่อสอนอภิธรรมปี 2498 และได้ พธ.ด.กิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปี 2551 ทั้งนี้เว็บไซต์ Lao Buddhismได้รายงานว่าดร.พระมหาชาลี กันตสีโลได้มรณภาพเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ย.ได้อาการสงบที่วัดป่านาคูนน้อย เมืองนาชายทอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ด้วยโรคมะเร็งตับ รวมอายุได้ 81 ปี 60 พรรษา ดร.พระมหาชาลี กันตสีโลนั้นเป็นรองประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาวและเป็นประธานโครงการพุทธศาสนาเพื่อการพัฒนา ทั้งเป็นประธานโครงการแปลประไตรปิฎกฉบับภาษาลาว เป็นอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากัมมัฏฐานสืบสานมาจากพระอาจารย์ใหญ่มหาอานันโท ที่วัดพุทธวงสาป่าหลวงในเมืองก่อน การจากไปของพระอาจารย์ใหญ่ดร.พระมหาชาลีในครั้งนี้ถือว่าคณะสงฆ์ลาวได้สูญเสียบุคลากรสงฆ์และบูชนียบุคคลสงฆ์สำคัญไป เป็นการสูญเสียเพชรเม็ดงามแห่งแดนดินลาวไปอีกผู้หนึ่ง :25: :25: :25: ยาท่านใหญ่(เป็นคำสรรพนามเรียกพระเถระด้วยความเคารพ) เป็นผู้มีจริยวัตรอันงดงามและเป็นอุทิศชีวิตเพื่อเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนในทางพระพุทธศาสนาตลอดมา เป็นผู้สืบสานปฏิปทาของพระอาจารย์ใหญ่มหาปาน อานันโท เพื่อวางรากฐานแห่งการเผยแผ่พระธรรมในดินแดนลาวให้แผ่หลายดังที่สามารถเห็นได้ในโครงการที่ยาท่านใหญ่ได้ดำเนินการมาดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนแล้วนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ทางคณะสงฆ์จากศูนย์กลางและท้องถิ่น ตลอดจนพ่อแม่ประชาชน บรรดาศิษยานุศิษย์ได้พากันมาที่วัดป่านาคูนน้อย เพื่อประชุมจัดตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบงานจนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอย่างเป็นทางการคือคระกรรมการรับผิดชอบจากด้านบนประสานกับท้องถิ่น มติของที่ประชุมให้บรรจุพระศพของยาท่านใหญ่ไว้ในโกศแก้ว(หีบแก้ว)และกำหนดการบำเพ็ญกุศลไปจนกระทั้ง 50 วันและ 100 วัน หลังจากนั้นจึงจะได้พิจารณาต่อไปว่าจะกำหนดวันถวายพระเพลิงศพหรือจะรักษาไว้ในโกศแก้ว และสร้างโรงไว้เหมือนกับพระอาจารย์มหาปาน อานันโท ดังที่เคยทำมาที่วัดโศกป่าหลวงเมืองก่อน แต่ก็ยังไม่ได้ตกลงกันชัดเจน แต่ตามเจตนารมณ์ของลูกศิษย์ญาติโยมต้องการให้รักษาไว้ในโกศแก้วเพื่อกราบไหว้บูชาต่อไปตามแต่อัตภาพและกาลเวลาจะอำนวย :41: :41: :41: ดังนั้นการกำหนดการถวายพระเพลิงศพของยาท่านใหญ่นั้นยังไม่ได้กำหนดและจะรักษาไว้จึงขอให้ได้ติดตามข่าวต่อไปและขอให้ศิษยานุศิษย์ได้มีโอกาสบำเพ็ญกุศลเพื่อแสดงถึงความไว้อาลัยถึงคุณงานความดีและคำสอนของอาจารย์ใหญ่ตามปรกติจนกว่าจะรู้กำหนดการที่แน่นอน ทั้งๆที่ยาท่านใหญ่ ดร.พระมหาชาลีเป็นคนไทย แต่คงต้องยอมรับกันว่าคนไทยรับทราบคุณูปการของท่านน้อยมาก อย่างไรก็ตามในสารมิตรภาพไทย-ลาวปี2555 ของสมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพที่มีดร.วีรพงษ์ รามางกูรเป็นนายกสมาคม ได้เผยแพร่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาวในด้านต่างๆ ร่วมถึงด้านศาสนาและวัฒนธรรมที่รายงานถึงคณะกรรมการ องค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว (อ.พ.ส.) 2554-ปัจจุบัน สังคม วัฒนธรรม ลาว โดย หอมหวล บัวระภา bhomhu@kku.ac.th ความโดยสรุปว่า st12 st12 st12 องค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว (อ.พ.ส.)เป็นองค์การสงฆ์ที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นด้วยความเห็นพร้องต้องกันของคณะสงฆ์และรัฐบาล แห่ง สปป.ลาว ด้วยเห็นว่า พระพุทธศาสนาเข้ามาประดิษฐานอย่างมั่นคง ผ่านวิวัฒนาการของชาติลาวมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ดังปรากฏในธรรมนูญปกครองสงฆ์ลาว พ.ศ.2541 ว่าพฤติกรรมอันแท้จริงยืนยันให้พวกเราเข้าใจว่า“พุทธศาสนาจะตัดแยกออกจากชาติไม่ได้และพระสงฆ์สามเณรจะตัดแยกออกจากญาติโยมทุกชนเผ่าไม่ได้” ประวัติศาสตร์ของชาติลาวที่ผ่านมาได้บ่งชี้ว่า พระสงฆ์ลาวในทุกยุคสมัยล้วนถือธงชาติเป็นชีวิตจิตใจและถือศีลธรรมเป็นปัจจัย เป็นส่วนประกอบในการกอบกู้เอกราชทั่วผืนแผ่นดินลาวและสนับสนุนพรรค-รัฐ สร้างบ้านแปงเมือง เพื่อความสุขของญาติโยมลาวทุกชนเผ่าและความ ศิวิไลซ์ของประเทศชาติเหนือจิตใจแห่งความเป็นเอกราชของชาติองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว ได้รับการสถาปนาขึ้น เพื่อความเป็นเอกภาพทางหลักศีลธรรมและการปฏิบัติให้สอดคล้องกับสภาพเปลี่ยนแปลงใหม่ของบ้านเมือง จึงได้ปรับปรุงกฎระเบียบที่กองประชุมใหญ่ผู้แทนพระสงฆ์ทั่วประเทศ ครั้งที่ 3 รับรองมาเป็น “ธรรมนูญปกครองสงฆ์” ฉบับปัจจุบัน (ฉบับ พ.ศ.2541) ขอบคุณภาพข่าวจาก www.komchadluek.net/detail/20130914/168214/ชาวลาวสูญเสีย!รองประมุขสงฆ์พระนักเผยแผ่.html#.UjUlpX_KXHt (http://www.komchadluek.net/detail/20130914/168214/ชาวลาวสูญเสีย!รองประมุขสงฆ์พระนักเผยแผ่.html#.UjUlpX_KXHt) |