หัวข้อ: ภูฏานกับอนาคตของดัชนีมวลรวมความสุข เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 29, 2013, 10:27:59 am (http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2013/09/act02250956p1.jpg) ภูฏานกับอนาคตของดัชนีมวลรวมความสุข โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ ราชอาณาจักรภูฏานเป็นประเทศเล็กๆ ไม่มีทางออกทะเล ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยล้อมรอบด้วยประเทศยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 แห่งทวีปเอเชียคือ อินเดียทางใต้และจีนทางเหนือ ซึ่งการรักษาเอกราชของประเทศจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบากยิ่งในขณะที่ประเทศทิเบตที่ตั้งอยู่ทางเหนือพรมแดนติดกับภูฏานก็ถูกจีนยึดครองใน พ.ศ.2493 และประเทศสิกขิมที่อยู่ทางทิศตะวันตกพรมแดนติดกับภูฏานเช่นกันก็ถูกอินเดียยึดครองไปใน พ.ศ.2518 ภูฏานเป็นภาษาสันสกฤตแปลว่า "แผ่นดินบนที่สูง" แต่คนภูฏานเรียกดินแดนของพวกเขาว่า "ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า" ภูฏานมีเนื้อที่ประมาณ 38,394 ตารางกิโลเมตร (ใหญ่ขนาดจังหวัดนครราชสีมากับอุบลราชธานีรวมกันเท่านั้นแหละ) มีประชากรประมาณ 750,000 คน ภูฏานเป็นประเทศที่ถูกจัดโดยสหประชาชาติว่าเป็นประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด (Least developed country-LDC) ที่มีอยู่ 14 ประเทศในทวีปเอเชียโดยวัดจากความยากจน, ทรัพยากรมนุษย์ที่อ่อนแอทางด้านโภชนาการ, สุขภาพ, การศึกษากับจำนวนผู้รู้หนังสือ และความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจที่ขึ้นอยู่กับผลิตผลทางการเกษตรที่มีราคาปรวนแปรสูง เป็นต้น (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/2b/Cloud-hidden%2C_whereabouts_unknown_%28Paro%2C_Bhutan%29.jpg) ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของภูฏานเริ่มขึ้นใน พ.ศ.2450 เมื่อราชวงศ์วังชุกขึ้นเถลิงอำนาจเป็นพระราชาธิบดีปกครองภูฏานแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ การปกครองภูฏานภายใต้พระราชาธิบดีทั้ง 2 รัชกาลสงบราบรื่นดี หลังจากนั้น พระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จิ วังชุก กษัตริย์รัชกาลที่ 3 ของราชวงศ์วังชุก พระองค์ทรงเป็นผู้นำสมัยใหม่ นำความทันสมัยของโลกมาสู่ภูฏาน ทรงปรับปรุงประเทศจนได้รับสมญานามว่า "พระบิดาแห่งภูฏานยุคใหม่" พระองค์ทรงนำภูฏานเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติได้สำเร็จใน พ.ศ.2514 (สำคัญมากนะครับสำหรับประเทศเล็กๆ ที่จะต้องเป็นสมาชิกสหประชาชาติเพื่อป้องกันการถูกรุกรานหรือถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยักษ์ใหญ่ ประเทศไทยของเราเองก็ดิ้นรนเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาติเมื่อ พ.ศ.2489 และโมนาโกก็พยายามเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติจนสำเร็จใน พ.ศ.2536 เช่นเดียวกับภูฏานนั่นเอง) พระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย นัมเกล วังชุก ขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2517 เป็นพระราชาธิบดี องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์วังชุก ทรงนำการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ เมื่อปี พ.ศ.2541 สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย นัมเกล วังชุก ได้ทรงเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารราชการแผ่นดินจากแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยให้มีหัวหน้ารัฐบาลและสภาคณะมนตรีทำหน้าที่บริหารประเทศ ซึ่งเป็นการกระจายอำนาจการปกครองและลดการรวมศูนย์ที่พระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียว (http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2013/09/act02250956p2.jpg) ภูฏานร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกแล้วเสร็จเมื่อต้นปี พ.ศ.2548 โดยศึกษารัฐธรรมนูญของประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ รวมทั้งของไทยด้วย เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาการเมืองให้มีความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นโดยรัฐธรรมนูญภูฏานกำหนดอำนาจหน้าที่ของพระมหากษัตริย์ และอำนาจบริหารประเทศของคณะรัฐมนตรี ระบบรัฐสภาประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 75 คน และวุฒิสภา 25 คน ส่วนพรรคการเมืองนั้นกำหนดให้มีเพียง 2 พรรคเท่านั้น นอกจากนี้ ยังกำหนดวาระการครองราชย์ของพระราชาธิบดีให้อยู่ในตำแหน่งจนถึงอายุ 65 พรรษา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ภูฏานต้องการลดบทบาทของพระราชาธิบดี และต้องการให้พรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น ประเทศภูฏานจัดการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตยเป็นครั้งแรกใน พ.ศ.2550 ซึ่งจะเป็นวาระที่ภูฏานมีการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ครบ 100 ปี :sign0144: :sign0144: :sign0144: พระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย นัมเกล วังชุก ยังเป็นผู้เสนอและนำแนวทางของความสุขมวลรวมประชาชาติ (Gross National Happiness, GNH) เป็นการมองการพัฒนาประเทศที่ไม่ได้เน้นตัวเลขในการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Gross Domestic Product, GDP) แต่เน้นมุมมองเรื่อง "ความสุข" ที่แท้จริงของสังคมเป็นหลัก ปัจจุบันแนวคิด GNH กำลังได้รับความสนใจจากนักวิชาการและนักกิจกรรมทางสังคมในหลายๆ ประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นว่าการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่มี GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นเกณฑ์นั้นมักนำมาซึ่งผลกระทบในทางลบมากขึ้นทุกที (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/a/a2/Takstan-monastery.jpg) เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2548 ซึ่งเป็นวันชาติภูฏาน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย นัมเกล วังชุก ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญและประกาศจะทรงสละราชบัลลังก์ให้กับมกุฎราชกุมาร จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ในปี พ.ศ.2549 ภูฏานจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นครั้งแรกในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2551 มีพรรคการเมืองสองพรรคคือพรรคภูฏานสันติภาพและรุ่งเรือง (DPT) ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษนิยมได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นเหนือพรรคประชาธิปไตยประชาชน (PDP) ซึ่งเป็นพรรคเสรีนิยมด้วยที่นั่งในรัฐสภา 45:2 ซึ่งในช่วง 4 ปีของการบริหารงานของพรรค DPT จึงเน้นเรื่องความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH) มากและได้เผยแพร่ออกไปทั่วโลก ans1 ans1 ans1 แต่ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่สองของภูฏานในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2513 ปรากฏว่าเกิดการพลิกล็อกครั้งใหญ่เนื่องจากว่าพรรค PDP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านได้รณรงค์หาเสียงที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามแนวทุนนิยมนั่นคือ การเน้นการเจริญเติบโตของรายได้ประชาชาติ (GDP) มากกว่าความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH) ปรากฏว่าพรรค PDP ได้รับที่นั่งในรัฐสภา 32 ที่นั่ง ส่วนพรรค DPT ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเดิมได้รับที่นั่งในรัฐสภาเพียง 15 ที่นั่งเท่านั้น (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/28/TrongsaDzong.jpg/800px-TrongsaDzong.jpg) นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของภูฏานคือ นายซีริง โทบเก อายุ 47 ปี ผู้จบปริญญาตรีทางวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งพิตสเบิร์กและปริญญาโททางรัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เคยรับราชการเป็นอธิบดีกรมอาชีวศึกษา ก่อนที่จะมาเล่นการเมืองโดยเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในรัฐสภามาตลอด 4 ปี ก่อนที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปีนี้เอง st12 st12 st12 นายซีริง โทบเก ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว AFP อย่างชัดแจ้งว่า GDP ต้องมาก่อน GNH เพราะว่าการเสียเวลาพูดถึงความสุขมวลรวมประชาชาติมากๆ โดยไม่ทำงานนั้นทำให้ประเทศภูฏานไม่ใส่ใจในปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าคือหนี้สาธารณะของภูฏานได้เพิ่มขึ้นรวดเร็วมากจนเกิดการขาดแคลนเงินตราระหว่างประเทศ อัตราการว่างงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งการว่างงานของคนหนุ่มสาวและการคอร์รัปชั่นที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัญหาหลัก 4 ประการนี้ ทางการภูฏานต้องเร่งจัดการเป็นการเร่งด่วน ยิ่งกว่านั้น นายกรัฐมนตรี ซีริง โทบเก ยังกล่าวอย่างประชดประชันว่า GNH คือ "Government Needs Help" ต่างหาก ที่มา : มติชนรายวัน 25 ก.ย.2556 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380105244&grpid=01&catid=&subcatid= (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380105244&grpid=01&catid=&subcatid=) ภาพจาก http://upload.wikimedia.org/ (http://upload.wikimedia.org/) http://www.matichon.co.th/ (http://www.matichon.co.th/) |