หัวข้อ: ครอบครัว 'คชวัตร' เศร้า สมเด็จพระสังฆราช สิ้นพระชนม์ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 25, 2013, 08:44:43 am (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/10/25/378444/hr1667/630.jpg) ครอบครัว'คชวัตร'เศร้า สมเด็จพระสังฆราช สิ้นพระชนม์ หลังจากที่มีประกาศแถลงการณ์ สมเด็จพระสังฆราช สิ้นพระชนม์ บรรยากาศที่บ้านคชวัตร จ.กาญจนบุรี ที่เป็นบ้านเกิดของสมเด็จพระสังฆราช อยู่ในความเงียบสงบ หลานสาวเศร้าหลังจากที่สมเด็จลุงสิ้นพระชนม์ รับเสียใจเหมือนเมื่อครั้งพ่อเสีย เตรียมเดินทางร่วมพิธีศพที่ร.พ.จุฬาฯ... หลังจากที่มีประกาศแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา 19.29 น. ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ :25: :25: :25: เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 24 ต.ค. 2556 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บ้านคชวัตร เลขที่ 367 ถ.ปากแพรก ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านและสถานที่ประสูติของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระนามเดิม "เจริญ คชวัตร" โดยสภาพของบ้านมีแต่ความเงียบสงบและมีญาติเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการ สิ้นพระชนม์ และมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้พระฉายาลักษณ์ที่ประดับไว้ที่กำแพงหน้าบ้าน ด้วย โดยเมื่อเข้าไปในบ้านผู้สื่อข่าวได้พบกับหลานสาวที่เป็นบุตรีของนายจำเนียร คชวัตร น้องชายของ สมเด็จพระสังฆราช คือ นางสุภา คชวัตร อายุ 62 ปี และนางเต็มศิริ คชวัตร อายุ 53 ปี อยู่ในบ้านพร้อมด้วยบุตรสาวของนางเต็มศิริอีก 2 คน รวม 4 คน ด้านหน้าบ้านมีชาวบ้านจับกล่มอยู่ประมาณเกือบ 10 คนพูดคุยเกี่ยวกับข่าวการสิ้นพระชนม์ (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/10/25/378444/o2/420.jpg) นางสุภา เปิดเผยเกี่ยวกับข่าวการสิ้นพระชนม์ว่า ตนได้รับการแจ้งข่าวจากทาง รพ.จุฬาลงกรณ์ ว่าสมเด็จลุงสิ้นพระชนม์ โดยครอบครัวของเรามีความผูกพันกับพระองค์ท่านมาก โดยพี่สาวคนโตของตน คือ นางสาวรัตนา คัชวัตร อายุ 63 ปีได้เดินทางไปเฝ้าอาการที่ รพ.จุฬาฯตั้งแต่หลายวันแล้ว และมีการแจ้งข่าวมาให้พวกเราทราบเป็นระยะ จนล่าสุดทราบท่านทรงสิ้นพระชนม์ ความรู้สึกก็เหมือนคนทั่วไปที่มีความเศร้าและเสียใจ แต่เนื่องจากมนุษย์ทุกคนหนีไม่พ้นความตาย จึงพยายามทำใจ ครั้งนี้มีความเสียใจเหมือนครั้งที่ครอบครัวเราสูญเสียคุณพ่อจำเนียร คชวัตรที่เสียไปก่อนหน้านี้ พวกเรามีความรู้สึกเหมือนกัน ส่วนเรื่องการจัดการศพ หากพระองค์ท่านเป็นพระธรรมดาเราก็จะเข้าไปจัดการในฐานะญาติได้ แต่นี่คงต้องรอให้สำนักเลขาในสมเด็จพระสังฆราชหรือทางวัดบวรนิเวศวรวิหาร พิจารณาและตัดสินใจ ทางเราก็ต้องรอการดำเนินการ เพราะว่าท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราชของประชาชนชาวไทยทุกคน st12 st12 st12 หลานสาวคนเล็ก กล่าวต่อว่า พระองค์ท่านถือเป็นความภาคภูมิใจของคนในครอบครัวคชวัตร ที่ถือว่าท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีงามและเป็นสังฆราชาที่พุทธศาสนิกชนทุกคนต่าง ให้ความเคราะศรัทธา ท่านไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ท่านเป็นความงดงามที่บริสุทธิ์ของพุทธศาสนา อย่างเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันที่ท่านมีพระชนมายุครบ 100 ปี พวกเราครอบครัวคชวัตรได้รับการแสดงน้ำใจจากชาวกาญจนบุรีที่มาร่วมในพิธี ทำบุญตักบาตรถวายแด่พระองค์ท่าน วันนั้นเป็นวันที่ครอบครัวเรามีความสุขมาก แต่วันนี้เมื่อท่านสิ้นไปเราก็ต้องทำใจและภาวนาอธิฐานขอให้ท่านไปสู่สวรรค์ ตามที่ท่านได้ปฏิบัติตนเป็นอริยสงฆ์ที่งดงามในจริยวัตรปฏิบัติตลอดเวลาที่ อยู่ในการครองสมณเพศจนสิ้นพระชนม์ โดยพรุ่งนี้พวกเราญาติจะร่วมกันเดินทางไปเคารพพระศพที่ รพ.จุฬาฯและจะร่วมใน การประกอบพิธีต่างๆตามที่ผู้มีหน้าที่ได้กำหนดไว้ตามฐานะของลูกหลานเท่าที่จะสามารถทำได้ (http://sangharaja.org/images/stories//gallery/somdet/H138-web.jpg) เนื่องด้วยนามสกุลเดิมของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ คือ "คชวัตร" หมายถึง "ช้างจำศีล" จึงมักมีผู้นำตุ๊กตารูปช้างมาถวายพระองค์อยู่เสมอ ส่วนไก่ตัวนี้เป็นไก่แจ้ตาบอด ทรงมีพระเมตตาเลี้ยงไว้และดูแลเป็นอย่างดี ส่วนบรรยายกาศที่วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) มีแต่ความเงียบสงบ เนื่องจากเจ้าอาวาสได้เดินทางไปร่วมเฝ้าดูอาการของสมเด็จพระสังฆราชฯที่ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ โดยมีญาติโยมเดินทางที่วัด เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการร่วมจัดงาน เพื่อแสดงความเสียใจต่อการจากไปของพระองค์ท่าน แต่ทางพระที่อยู่ที่วัดได้บอกต่อญาติโยมว่า ต้องรอเจ้าอาวาสกลับมาและน่าจะมีการประชุมร่วมกับกรรมการวัด เพื่อพิจารณาว่าจะมีการจัดกิจกรรมใดต่อไป ต้องรอการหารือก่อน ชาวบ้านจึงเดินทางกลับ. ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/region/378444 (http://www.thairath.co.th/content/region/378444) http://sangharaja.org/index.php?option=com_content&view=article&id=377&catid=40&Itemid=2 (http://sangharaja.org/index.php?option=com_content&view=article&id=377&catid=40&Itemid=2) |