สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: nimit ที่ ธันวาคม 11, 2009, 12:03:48 am



หัวข้อ: พระพุทธเจ้า เวลาเทศนา พระองค์แสดงแต่พระธรรมอย่างเดียวหรือไ่ม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nimit ที่ ธันวาคม 11, 2009, 12:03:48 am
เพราะเวลาผมไปฟังธรรม ที่วัดพระก็มุ่งแต่แสดงหลักธรรม คือพูดซะส่วนใหญ่ ผมยังไม่เคยเห็นพระสงฆ์นั่งกรรมฐานกับผมเกิน 1 ชั่วโมงเลย :'
( ถ้าข้อความนี้เป็นการปรามาสพระสงฆ์ ผมขอขมาต่้อการล่วงเกินนี้ด้วย ผมไม่มีเจตนาจะกล่าวคำปรามาส ระวังมากๆๆๆ)


หัวข้อ: Re: พระพุทธเจ้า เวลาเทศนา พระองค์แสดงแต่พระธรรมอย่างเดียวหรือไ่ม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: saithong ที่ ธันวาคม 11, 2009, 09:54:37 pm
 ;D ;) :D
เทสนา ของพระพุทธเจ้า มี 3 อย่างคะ
1.ธรรมเทสนา
2.ปาฏิหาิิริยเทสนา
3.  จำไม่ได้ช่วยด้วย

คุณ natnaposon


หัวข้อ: Re: พระพุทธเจ้า เวลาเทศนา พระองค์แสดงแต่พระธรรมอย่างเดียวหรือไ่ม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 13, 2009, 10:25:09 am
คุณสายทอง พยายามที่จะตอบ ขออนุโมทนากับความพยายามอันนั้น

คนที่คุณสายทองขอให้ช่วยนั้น ไม่น่าจะใช่คนแถวนี้

เห็นแก่ความพยายามของคุณสายทอง ผมจะขออธิบายให้ให้เข้าใจดังนี้

      สามข้อที่คุณสายทองกล่าวถึงนั้นที่ถูกต้อง คือ


อาการที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ๓ (ลักษณะการสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทำให้คำสอนของพระองค์ ควรแก่การประพฤติปฏิบัติตาม และทำให้เหล่าสาวกเกิดความมั่นใจเคารพเลื่อมใสในพระองค์อย่างแท้จริง — the Three Aspects of the Buddha’s Teaching; the Buddha’s manners of teaching)

๑. อภิญญายธัมมเทสนา (ทรงแสดงธรรมด้วยความรู้ยิ่ง, ทรงรู้ยิ่งเห็นจริงเองแล้ว จึงทรงสอนผู้อื่น เพื่อให้รู้ยิ่งเห็นจริงตาม ในธรรมที่ควรรู้ยิ่งเห็นจริง — Having himself fully comprehended, he teaches others for the full comprehending of what should be fully comprehended; teaching with full comprehension)

๒. สนิทานธัมมเทสนา (ทรงแสดงธรรมมีเหตุผล, ทรงสั่งสอนชี้แจงให้เห็นเหตุผล ไม่เลื่อนลอย — He teaches the doctrine that has a causal bias; teaching in terms of or with reference to causality)

๓. สัปปาฏิหาริยธัมมเทสนา (ทรงแสดงธรรมให้เห็นจริงได้ผลเป็นอัศจรรย์, ทรงสั่งสอนให้มองเห็นชัดเจนสมจริงจนต้องยอมรับ และนำไปปฏิบัติได้ผลจริงเป็นอัศจรรย์ — He teaches the doctrine that is wondrous as to its convincing power and practicality; teaching in such a way as to be convincing and practical)

ข้อ ๑ บางท่านแปลว่า ทรงแสดงธรรมเพื่อความรู้ยิ่ง
M.II.9; A.I.276.   ม.ม.๑๓/๓๓๐/๓๒๒; องฺ.ติก.๒๐/๕๖๕/๓๕๖.
________________________________________


 


หัวข้อ: Re: พระพุทธเจ้า เวลาเทศนา พระองค์แสดงแต่พระธรรมอย่างเดียวหรือไ่ม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ทินกร ที่ ธันวาคม 13, 2009, 10:36:44 am
ต้องขออภัย ที่ไม่ได้ตอบ เพราะถ้าเป็นศัพท์ชั้นสูง หรือ ธรรมเกินปัญญาที่ได้รู้
กระผมจะไม่ตอบ เพราะกลัวเป็นกรรมจากการให้ธรรมที่ผิด จะตอบได้เฉพาะ
ที่ตนเองได้เท่านั้นครับ
ต้องขออภัยอีกที


หัวข้อ: Re: พระพุทธเจ้า เวลาเทศนา พระองค์แสดงแต่พระธรรมอย่างเดียวหรือไ่ม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 13, 2009, 11:23:50 am
มาถึงคำถามของคุณนิมิต  คุณคงจะพยายามถามว่า เวลาพระองค์เทสน์นั้น
 
    -ได้ปฏิบัติกรรมฐานไปด้วยหรือเปล่า (ทำพร้อมกัน)
    -หลังเทสน์เสร็จ ได้พาคนฟังนั่งกรรมฐานหรื่อเปล่า

 ถ้าผมเข้าใจผิดต้องขอโทษด้วย

 กรรมฐานมีสองอย่างครับ คือ สมถกรรมฐาน และ วิปัสสนากรรมฐาน(คุณคงทราบดี)
สมถะนั้น เป็นเรื่องการแสงหา เพียงสมาธิ ความสงบชั่วคราว และอิทธิฤทธิ์ต่างๆ
ส่วนวิปัสสนา เป็นการแสวงหา ความหลุดพ้นจากกิเลส อย่างถาวร

ต่อไปนี้จะเป็นความเห็นส่วนตัวผมนะครับ(ไม่ใช่คำสอน)

      ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า พระองค์บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว
(สำเร็จอรหันต์) ไม่มีสิ่งใดที่พระองค์ไม่รู้
      ความเป็นไปได้ก็คือ ไม่มีความจำเป็นใดๆที่พระองค์จะต้องเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
ในขณะเทสน์

      แต่โดยทั่วไป การพูดการเทสน์ของสาวกอย่างเราๆ ต้องใช้สมาธิระดับหนึ่ง
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้อีกเช่นกัน ที่พระองค์จะเจริญสมถะ ในขณะเทสน์

      คำถามต่อมา แล้วพระองค์พาคนฟัง นั่งกรรมฐาน หลังเทสน์เสร็จหรือไม่
ขอตอบว่า ไม่ทราบ ผมยังอ่านพระสูตรยังไม่จบ

     คุณนิมิตครับ สังสัยลังเลได้ครับ แต่อย่าคิดมาก
     วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัย ในพระรัตนตรัย
     อยู่ใน นิวรณ์ ๕ และยังอยู่ใน สังโยชน์ ๑๐ โสดาบันเท่านั้นที่ละได้

[/color]


หัวข้อ: Re: พระพุทธเจ้า เวลาเทศนา พระองค์แสดงแต่พระธรรมอย่างเดียวหรือไ่ม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:43:10 am
 :25: