|
หัวข้อ: 4 ข้อไทยต้องปรับในสายตา "เอริก ชมิดต์" ประธานกูเกิล เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 08, 2013, 08:46:08 am (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000014480602.JPEG) บนเวทีงาน Google Big Tent Thailand 2013 จากซ้าย "เอริก ชมิดต์" ประธานกูเกิล และ "สิทธิชัย หยุ่น" ผู้ดำเนินรายการ 4 ข้อไทยต้องปรับในสายตา "เอริก ชมิดต์" ประธานกูเกิล 5 พฤศจิกายน 2013 ประเทศไทยต้องจารึกว่า "เอริก ชมิดต์" ประธานบริษัทเสิร์ชเอนจินระดับโลกอย่างกูเกิล (Google) ได้ขึ้นเวทีแสดงความเห็นของตัวเองต่อประเทศไทยเป็นครั้งแรกในนามกูเกิล ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีที่เอริกสื่อสารกับผู้ร่วมงาน Google Big Tent Thailand 2013 ทำให้เรารู้ว่าประเทศไทยต้องปรับตัวอย่างน้อย 4 เรื่อง จึงจะสามารถยืนอยู่แถวหน้าในสังเวียนธุรกิจไอทีโลก (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000014480603.JPEG) ประธานกูเกิลระบุว่า ไทยต้องสนุบสนุนให้มีการสร้างบริษัทใหม่หรือสตาร์ทอัปมากขึ้น 1. ไทยต้องสร้างอีโคซิสเต็มส์ เป็นเรื่องจริงที่เจ็บปวดเมื่อเอริก ชมิดต์นำประเทศไทยไปอยู่กลุ่มเดียวกับเวียดนามและเขมร โดยเชื่อว่าไทยและประเทศกลุ่มนี้จะสามารถพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันธุรกิจไอทีได้ดีขึ้นในปีหน้า (2014) พร้อมกับหยอดยาหอมว่าไทยจะมีโอกาสขึ้นแชมป์ประเทศไอทีในอาเซียนได้หากมีระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่ส่งเสริมกัน ประธานกูเกิลระบุว่า ไทยต้องสนุบสนุนให้มีการสร้างบริษัทใหม่ที่มากขึ้น โดยยกตัวอย่างว่า 15 ปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาสามารถสร้างอีโคซิสเต็มส์ที่เหนียวแน่น จนทำให้ตลาดโมบายขยายตัวรวดเร็วเช่นทุกวันนี้ 2. ต้องสร้างบุคลากรไทย เอริกมองว่ารัฐบาลไทยต้องส่งเสริมให้ความรู้คนไทยทั้งด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ รวมถึงเรื่องภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากล จุดนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยถูกชาวต่างชาติประเมินว่ามีจุดยืนในอุตสาหกรรมไอทีอาเซียนที่ด้อยกว่ามาเลเซียและสิงคโปร์ (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000014480604.JPEG) "สิ่งที่รัฐบาลไทยควรให้ความสำคัญคือการเร่งมือออกใบอนุญาตเทคโนโลยี 4G" 3. ไลเซนส์ 4G ต้องเร็ว เอริกพูดถึงการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการเครือข่าย 3G หรือไลเซนส์ 3G ของประเทศไทยแบบตรงไปตรงมาว่าล่าช้า ทำให้คนไทยมีโอกาสใช้ 3G ล่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านเพราะการติดตั้งโครงข่าย 3G ของไทยจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีหน้า สิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญคือการเร่งมือออกใบอนุญาตเทคโนโลยี 4G เพื่อป้องกันไม่ให้คนไทยเสียโอกาส เมื่อเทียบกับประชากรในประเทศเพื่อนบ้านที่สามารถสร้างธุรกิจออนไลน์ได้ในวันเดียวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 4. การเมืองควรนิ่ง เอริก ชมิดต์ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมาพักผ่อนที่เมืองไทยหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่เดินทางในนามกูเกิลอย่างเป็นทางการ โดยครั้งนี้เป็นการเดินทางเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะรัฐประหารในประเทศไทย ประธานกูเกิลยอมรับว่า ยังไม่มีโอกาสได้พบกับนายกรัฐมนตรีเพื่อหารือถึงโอกาสของไทย และเข้าใจดีว่านายกรัฐมนตรีกำลังเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมือง ans1 ans1 ans1 เอริก ชมิดต์ หรือ Eric Emerson Schmidt นั้นมีดีกรีเป็นหนึ่งใน 3 ทหารเสือผู้บริหารบริษัทกูเกิล โดยมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารกูเกิลมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2001 โดยต้นปี 2011 ชมิดต์ประกาศสละตำแหน่งให้แก่แลร์รี เพจ (Larry Page) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทหลังจากทำหน้าที่ซีอีโอมานาน 10 ปี ครั้งนั้นชมิดต์ให้สัมภาษณ์ว่าค่อนข้างมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะส่งผลดีกับบริษัท โดยยืนยันว่าเพจนั้นมีความพร้อมมากพอที่จะรับผิดชอบตำแหน่งนี้แทน ปัจจุบัน ชมิดต์ทำงานร่วมกับกูเกิลในฐานะประธานบริหาร (Executive Chairman) โดยจะดูแลในส่วนของภาพรวมธุรกิจ การดูแลพันธมิตร และลูกค้า นอกจากนี้ยังรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับแลร์รี เพจ และ เซอร์เก บริน ผู้ก่อตั้งบริษัทอีกรายหนึ่งด้วยเช่นกัน สำหรับ Google Big Tent เป็นงานที่กูเกิลจัดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อแสดงจุดยืนว่ากูเกิลส่งเสริมให้ทุกประเทศมีการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนทั้งด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคม สำหรับการจัดงานที่ประเทศไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้าร่วมงาน Google Big Tent ในฐานะตัวแทนภาครัฐ ท่ามกลางนักธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000138313 (http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000138313) |