หัวข้อ: เรียนรู้ "กฎ-กติกา-มารยาท" เตือนภัย "วันลอยกระทง" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 10:39:43 pm (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/11/14/382782/hru1667/420.jpg) เรียนรู้ "กฎ-กติกา-มารยาท" เตือนภัย "วันลอยกระทง" หากพูดถึง วันลอยกระทง ภาพที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ คือ กระทงน้อยใหญ่ตกแต่งอย่างสวยงามลอยละล่องตามแม่น้ำลำคลอง มีธูปเทียนปักไว้เพื่อขอขมาพระแม่คงคา และที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ ไฟเย็น ประทัด ดอกไม้ไฟ ที่วางขายเกลื่อนตามริมฟุตปาธ มาคอยเติมเต็มบรรยากาศยามค่ำคืนให้สว่างสดใส และก็เป็นธรรมดาของวันสำคัญ ที่ผู้คนจะรวมตัวกันเฉลิมฉลอง วางแผนเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเทศกาลลอยกระทง คงไม่พ้นการเดินทางไปยังแม่น้ำลำคลอง จุดใหญ่ ๆ ที่ทางจังหวัดตระเตรียมไว้รองรับ ทว่ายิ่งคนมากเท่าไรอุบัติเหตุยิ่งเยอะขึ้นเป็นเงาตามตัวเท่านั้น เพราะจากสถิติบอกให้รู้ว่า เดือนพฤศจิกายน ซึ่งตรงกับเทศกาลลอยกระทง เป็นหนึ่งในเดือนที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุมากเป็นอันดับต้น ๆ ans1 ans1 ans1 ดังสถิติความสูญเสียที่จะกล่าวต่อไปนี้ ย้อนไปในปี 2550-2554 มีผู้บาดเจ็บในช่วงเทศกาลลอยกระทง จากการถูกเปลว สะเก็ด ดอกไม้ไฟหรือพลุ รวม 2,979 ราย เฉลี่ยปีละ 596 ราย เสียชีวิต 8 ราย โดยพบผู้บาดเจ็บจากพลุ ร้อยละ 22 หรือ ประมาณ 166 ราย ที่น่าสนใจ พบว่าการบาดเจ็บมีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย อายุที่พบต่ำสุด 2 ปี สูงสุด 90 ปี ร้อยละ 16 มีอาการเมาร่วมด้วย ตามมาด้วยสถิติการจมน้ำ ซึ่งช่วงเทศกาลลอยกระทง จะเป็นช่วงเวลาที่เด็กไทยมีความเสี่ยงจะเสียชีวิตจากการจมน้ำสูงที่สุด ในรอบปี มากกว่าวันปกติถึง 3 เท่า สาเหตุหลัก ๆ มี 2 ประการด้วยกัน คือ พลัดตกน้ำเพราะผู้คนเบียดเสียด และการลงน้ำไปเก็บเศษเหรียญในกระทง ซึ่งจากสถิติในช่วงปีดังกล่าว พบว่าวันลอยกระทงวันเดียว มีคนจมน้ำเสียชีวิตถึง 102 ราย เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 40 ราย คิดเป็น 39.6% ของคนทุกกลุ่มทุกวัย ขณะที่ปี 2555 มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำถึง 21 รายด้วยกัน (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/11/14/382782/o2/420.jpg) นอกจากนี้ ยังมีอุบัติเหตุสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นั่นคืออุบัติเหตุทางจราจร เนื่องจากทุกเทศกาลย่อมหนีไม่พ้นการสังสรรค์และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ซึ่งเทศกาลลอยกระทงปีก่อน มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางจราจรถึง 78 ราย ดังนั้น ทุกคนควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ไม่ควรขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และที่สำคัญ ต้องไม่ดื่มสุราขณะขับรถ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด :29: :29: :29: เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะที่อาจจะเกิดขึ้น เหมือนโศกนาฏกรรมวันลอยกระทงครั้งใหญ่ในกัมพูชา เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 53 ที่ผ่านมา กับเหตุการณ์เหยียบกันตายบริเวณสะพานเชื่อมระหว่างเกาะเพชร ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่มีผู้คนจำนวนมากแห่ลงไปยืนบนสะพานเพื่อเตรีมลอยกระทง เบียดเสียดจนเหยียบกันล้มตายไป 347 ศพ บาดเจ็บอีก 755 คน นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่คนทั่วโลกสะเทือนใจ ถึงแม้เหตุการณ์ครั้งนั้น จะไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ก็เป็นอุทาหรณ์เตือนใจไม่ให้ประมาท เพราะหากพลาดพลั้งมาอาจทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ได้ :49: :49: :49: คงไม่มีใครอยากเห็นพระจันทร์สีเหลืองเปลี่ยนเป็นสีเลือดในวันพระใหญ่ กล่าวถึงการเตรียมรับมือความสูญเสียในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ออกมาย้ำเตือนประชาชน ว่า ทุกคนต้องไม่ประมาท เพราะเทศกาลลอยกระทงเป็นช่วงที่มีสถิติการเกิดอุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้ไฟ การจมน้ำ และเพลิงไหม้ จากการปล่อยโคมลอย ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอแนะข้อควรปฏิบัติในการป้องกันอุบัติภัยในวันลอยกระทง ดังนี้ (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/11/14/382782/o3/420.jpg) 1. การระวังอุบัติภัยทางน้ำ ควรลอยกระทงในสถานที่ปลอดภัย ท่าน้ำและโป๊ะเรือ ต้องมั่นคงแข็งแรง ตลิ่งน้ำไม่สูงชัน เพื่อป้องกันการลื่นไถลพลัดตกน้ำ ดูแลเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรให้เด็กนำกระทงไปลอยน้ำด้วยตนเอง มิให้เด็กลงไปในน้ำเพื่อเก็บเงินใน กระทง เพราะเด็กอาจถูกกระแสน้ำพัดจมน้ำ หรือเป็นตะคริวจากการอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ทำให้จมน้ำเสียชีวิตได้ 2. อุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้ไฟ ห้ามดัดแปลงพลุ ดอกไม้ไฟ ให้มีเสียงดังหรือแรงอัดสูง เพราะจะเกิดการระเบิดที่มีความรุนแรง ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ห้ามจุดพลุ ดอกไม้ไฟในกระป๋องโลหะ ท่อพีวีซี ขวดแก้ว หรือนำภาชนะอื่น ๆ มาปิดครอบพลุ ดอกไม้ไฟที่จุดไฟติดแล้ว เพราะจะส่งผลให้สะเก็ดไฟ หรือเศษภาชนะที่แตกกระจาย กระเด็นใส่ได้รับบาดเจ็บ ที่สำคัญ ควรเล่นพลุ ดอกไม้ไฟอย่างถูกวิธี และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก จุดพลุดอกไม้ไฟในที่โล่งแจ้ง ห่างจากชุมชน เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟตกใส่บ้านเรือน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ หลีกเลี่ยงการเล่นพลุ ดอกไม้ไฟในลักษณะเสี่ยงอันตราย ห้ามจุดพลุ ดอกไม้ไฟในพื้นที่เสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะบริเวณใกล้แนวสายไฟฟ้า สถานีบริการน้ำมัน วัตถุไวไฟ เพราะจะทำให้เกิดระเบิดและเพลิงไหม้ ห้ามนำพลุ ดอกไม้ไฟที่จุดไฟไม่ติดมาจุดซ้ำ หรือใช้ปากเป่าให้ไฟติด เพราะจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ถ้าจะให้ดีควรงดอย่างสิ้นเชิง 3. อุบัติภัยจากโคมลอย ควรเลือกใช้โคมลอยที่ ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กระดาษชนิดบาง ไม้ไผ่ ขี้ผึ้ง เชือก เป็นต้นซึ่งมีการเผาไหม้อย่างรวดเร็ว จะช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ไม่ติดหรือประดับวัสดุตกแต่งที่มีคุณสมบัติติดไฟง่าย รวมถึงไม่ใช้น้ำมันหรือแอลกอฮอล์บรรจุในภาชนะโลหะที่เป็นเชื้อเพลิง เพราะจะทำให้โคมลอยลอยในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน ก่อให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานได้ หลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอยใกล้แหล่งชุมชน เพราะหากโคมลอยตกใส่บ้านเรือน จะทำให้เกิดเพลิงไหม้และห้ามปล่อยโคมลอยบริเวณโดยรอบสนามบิน หรือในช่วงที่มีเครื่องบินขึ้น–ลง เพราะจะรบกวนทัศนวิสัยในการบินอีกด้วย หากไม่ประมาทและปฏิบัติตามกฎ กติกา มารยาท อย่างเคร่งครัด งานลอยกระทงก็จะได้ทั้งบุญและความสนุกสนาน!?! ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/region/382782 (http://www.thairath.co.th/content/region/382782) หัวข้อ: Re: เรียนรู้ "กฎ-กติกา-มารยาท" เตือนภัย "วันลอยกระทง" เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ พฤศจิกายน 17, 2013, 06:53:03 am st11 st12 thk56
|