หัวข้อ: การน้อมจิตส่งพลังให้คนใกล้ตาย เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 12, 2014, 08:21:06 pm (http://0.static-atcloud.com/files/entries/8/88572/images/1_display.jpg) การน้อมจิตส่งพลังให้คนใกล้ตาย มีโยมสงสัยถามมาว่า การน้อมจิตส่งพลังให้คนใกล้ตายเขาจะรับได้ไหม อันนี้แล้วแต่ว่า เขายังรับรู้เราได้หรือเปล่า โดยทางใดทางหนึ่ง ถ้าคนยังไม่ตายต้องรับรู้ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย หรือทางใจ ถ้าเคลื่อนไหวไม่ได้ ก็ให้เขารับรู้ทางตา เอาเครื่องไทยธรรมไปให้ดู เอาจีวรพระไปให้ดู นิมนต์พระไปอยู่ใกล้ๆแล้วให้ถวายของแก่พระเพื่อเปลี่ยนจิต ทำจิตให้แจ่มใสชื่นบานได้ จึงเป็นประเพณีนิยม เมื่อมีคนใกล้ตาย จะนิมนต์พระไปรับสังฆทาน ซื้อของให้พ่อแม่ ให้คน ให้ญาติของคนที่ใกล้จะตายนั้นได้ถวายทานแก่พระ เพื่อเปลี่ยนจิตให้ผ่องใส หรือเอาพระพุทธรูปไปตั้ง เอาเทปสวดมนต์ไปเปิด เมื่อได้เห็นพระพุทธรูปหรือได้ยินเสียงสวดมนต์จะทำให้จิตผ่องใส (http://news.tlcthai.com/wp-content/uploads/2013/03/news140313-1-1.jpg) คนที่ใกล้จะตายแล้วอาการหวาดกลัวสามารถแก้ไขได้ บางคนเกิดอาการหวาดกลัวล่วงหน้าเป็นเวลาเดือน ครึ่งเดือน สามารถแก้ไขทำให้ผ่องใส หายหวาดกลัวได้ โดยเราต้องฉลาดในการปรับจิต ต้องดูว่าคนนั้นชอบอะไร ถ้าชอบพระเครื่อง หาพระเครื่องที่เขาชอบไปวางไว้ข้างหน้า ชอบพระพุทธรูปรุ่นไหนก็หารุ่นนั้นไปวางไว้ และชวนคุย สิ่งที่ต้องชวนคุยคือต้องปรารภถึงบุญกุศลที่ได้เคยทำมาแล้ว เคยไปทำอะไรๆมา พูดชวนให้ระลึกถึง พ่อไปทอดกฐินที่โน่นมา นึกได้ไหม ไปทอดกฐินที่นี่มา นึกได้ไหม ไปให้ทานที่นั่นมา นึกได้ไหม ต้องพยายามเตือนใจบ่อยๆ พอเตือนใจบ่อยๆแล้วระลึกถึงได้ จิตก็จะผ่องใสก่อนตาย เมื่อตายแล้วก็ไปสู่สุคติภูมิ อาตมาเคยไปช่วยใกล้ตายเหมือนกัน หมอกว่าอีกไม่เกิน 7 วันก็จะไปแล้ว ญาติก็นำกลับบ้าน คนป่วยนอนไม่หลับ หวาดผวาตลอดทั้งคืน ด้วยเพราะบ้านอยู่ใกล้วัด จึงนิมนต์พระไปช่วยคนป่วย คุยกันไปคุยกันมา หาข้อมูลก่อน ถามอัธยาศัยว่าเขาชอบอะไร ปรากฏว่าชอบพระเครื่อง ก็เลยคุยเรื่องพระเครื่อง พระรุ่นนั้นเป็นอย่างนั้น พระรุ่นนี้เป็นอย่างนี้ พอคุยปั๊บจิตรับ เพราะใจชอบอยู่แล้ว ได้เอาพระมาให้องค์หนึ่ง ตั้งไว้ กำชับให้เขาดูพระตามที่ใจเขาชอบ ปรากฏว่าอากาทุรนทุรายเมื่อ 2 คืนก่อน หายเป็นปกติ นอนสงบได้ แล้วตอนจะไปก็ไปด้วยอาการสงบ สรุปว่า การชักชวน เตือนสติ ช่วยแก้ความหวาดกลัวก่อนตายได้ :03: :03: :03: แต่บางคนสั่งสมมาดี ไม่มีใครเตือนสติ รู้ล่วงหน้าว่าจะตาย เวลาใกล้ตายอยากเห็นพระ อยากให้ทาน อยากทำบุญ อยากฟังธรรม แบบนี้ก็มี ใช้ลูกหลานให้ไปนิมนต์พระมาฟังธรรม อย่างนี้ก็เจอ และเอาตัวเองสอนลูกหลานให้ลูกหลานเข้ามาใฝ่ธรรม ตายไปแล้วลูกหลานหันมาสนใจใฝ่ธรรมอย่างนี้ก็มี ไปเจอมาเหมือนกัน ขอเล่าให้ฟังอีกราย มีอาการหวาดกลัว หวาดผวาว่า มีคนมารับมาชวนให้ไปอยู่ด้วย เป็นคนตายแล้วทั้งนั้น อย่างนี้เราก็ต้องเตือน ชวนคุยถามประวัติคนนั้นว่า เคยบวชมาไหม เคยบวชกี่พรรษา บวชที่ไหน สวดมนต์ไหว้พระบ้างหรือเปล่าตอนบวช จำได้ไหมเวลาสวดมนต์ ชวนคุยได้เพลิดเพลิน ระลึกถึงเหตุการณ์เก่าๆจิตจะได้ผ่องใส เวลาจะตาย ก็ไปด้วยอาการสงบเรียบร้อย อย่างนี้ก็มี แต่บางคนก็แปลกนะ เราไม่ไป แล้วไม่ตาย มีอยู่คนหนึ่ง อาตมาไม่อยู่เดินทางไปจันทบุรี ไม่ยอมตายนะ แต่พอไปถึง ตายทันทีเลย ตอนยังไม่ไป ยังกระปรี้กระเปร่า พอไปถึงถวายสังฆทานเสร็จ คุยอะไรให้ฟังนิดหน่อย รับทราบได้ แล้วก็ค่อยๆวูบไปเลย คงเป็นเพราะเขาคอยเราอยู่ ถ้าเราไม่ไป เขาจะคอยและไม่ยอมตาย เช่นนี้คิดว่าเป็นเพราะบุญของผู้ตายต้องได้เห็นพระก่อนแล้วจึงจะตาย (http://0.static-atcloud.com/files/entries/11/115962/images/1_display.jpg) อย่าร้องไห้ให้คนใกล้ตายเห็น ใครมีพ่อแม่มีญาติที่ใกล้จะตายอย่าไปร้องไห้ ถ้าไปร้องไห้เดี๋ยวจิตตก ใจเศร้าหมองห่วงลูกหลานอีก เป็นกังวล ตายแล้วเลยไปเกิดในทุคติ แต่ถ้าเราฉลาดพยายามชักชวนปรารภถึงสิ่งที่คนตายนั้นชอบ ชอบกระทำอะไรๆ ในทางดีก็ชักชวนและปรารภถึง บอกถึง ทำให้จิตของคนนั้นผ่องใส ท่านจึงบอกว่าเวลาใกล้ตายเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าจิตผ่องใสตายแล้วไปสู่สุคติ ถ้าจิตขุ่นมัว ตายแล้วไปสู่ทุคติ การเจริญสตินั้นดีที่สุด ปรับจิตของตัวเองได้ไม่ต้องให้คนอื่นมาช่วยเหลือ เราไม่มั่นใจว่าตอนใกล้จะตาย โรคภัยไข้เจ็บอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเรา ทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า บางครั้งทำให้ขาดสติ ถ้าเราไม่ชำนาญในการดูจิตเราก็จะเกิดอาการทุรนทุราย ต้องถามใจเราว่าเรากลัวตายหรือเปล่า ถ้ายังกลัวอยู่ อย่างนี้จะลำบากนะ :41: :41: :41: บางคนมีอายุกว่าร้อยปีแล้ว พูดเรื่องตายไม่เอาเลยนะ กลัวขนาดอาตมาให้เทปเตรียมตัวก่อนตายไป เขาตกใจว่าทำไมอาจารย์จึงให้เทปม้วนนี้มา ใจเขายังไม่อยากได้ยินเรื่องตาย และยังไม่อยากตาย พอมีพระไปเยี่ยมถึงกับร้องไห้เลยนะ แต่ไม่ใช่เพราะปีติ ที่ร้องไห้เพราะกลัวท่านเจ้าค่ะ กลัวเหลือเกิน บอกกลัวตาย อาตมาปลอบใจว่า มันยังไม่ตายหรอก ทำใจดีๆไว้ ยังไม่ตาย ถ้าเราไม่คุ้นเคยกับความตาย เราจะกลัวความตาย ถ้าเราไม่คุ้นเคยต่อสถานที่เราจะหวาดกลัวสถานที่ แต่พออยู่ไปนานๆเราก็จะไม่กลัว บุคคลที่ไม่เคยได้ยินเรื่องตายพอได้ยินปั๊บก็หวาดกลัว แต่พอได้ยินบ่อยๆเกิดรู้สึกเฉยๆ คนไม่เคยเห็นศพเห็นแล้วตกใจ แต่เห็นบ่อยๆเห็นแล้วธรรมดา พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เราคุ้นเคยกับความตายด้วยการนึกถึงความตายบ่อยๆ ท่านสอนให้เราระลึกถึงความตาย ระลึกว่าเราจะต้องตาย ระลึกอย่างหายใจเข้าไม่ออกก็ตาย หายใจออกไม่เข้าก็ตาย ความตายต้องเกิดขึ้นกับเราแน่นอน ตอนก่อนนอนเคยนึกอย่างนี้ไหมว่าเราจะต้องตาย ฝึกหัดอย่างนี้กันไว้บ้างนะ จะได้ประโยชน์ ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=233236 (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=233236) โพสต์โดย vanessa ภาพจาก http://0.static-atcloud.com/ (http://0.static-atcloud.com/) , http://news.tlcthai.com/ (http://news.tlcthai.com/) |