หัวข้อ: ทักษิณาวรรต.."องค์พระปฐมเจดีย์" อย่างไร.? ให้ได้บุญ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 21, 2014, 10:50:08 am (http://www.posttoday.com/media/content/2014/01/19/829394D005A74796B60BB1C4B837BDBC.jpg) ทักษิณาวรรตองค์พระธม ย้อนเวลายุคขอมถึงกรุงรัตนโกสินทร์ โดย...โยธิน อยู่จงดี จังหวัดที่มีเอกลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากที่สุดโดยรอบปริมณฑลของกรุงเทพมหานครก็เห็นจะเป็น จ.นครปฐม โดยมีองค์พระปฐมเจดีย์เป็นศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์ ชนิดที่เรียกได้ว่า หากมา จ.นครปฐม แล้วไม่ขึ้นไปกราบไหว้องค์พระปฐมเจดีย์และพระร่วงโรจนฤทธิ์ก็ถือว่ามาไม่ถึง จ.นครปฐม พิพิธเพลินวันนี้เราจะพาไปเดินเวียนทักษิณาวรรตองค์พระธม หรือองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครปฐม หลายคนอาจจะคิดว่า องค์พระปฐมเจดีย์องค์นี้ก็ดูใหม่ดี อายุอานามคงไม่มากไม่มาย แต่เข้าใจผิดถนัดเลยครับ เพราะความเก่าแก่ใช่ว่าจะดูกันที่ภายนอก ก็เหมือนคนสมัยใหม่ที่ไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ออกกำลังกายเป็นประจำ ใบหน้าก็ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง องค์พระปฐมเจดีย์แห่งนี้ก็เช่นกัน (http://www.posttoday.com/media/content/2014/01/19/41FAB75851874F23B2E91123D18434FE.jpg) มหาเจดีย์จากยุคพระเจ้าอโศกมหาราช ตัวองค์พระปฐมเจดีย์ หรือชื่อเดิมคือ พระธม นั้น เป็นองค์เจดีย์ที่ผ่านการบูรณปฏิสังขรณ์โดยการโบกครอบองค์พระปฐมเจดีย์เดิม ที่เคยสร้างในสมัยขอม อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเจดีย์ในยุคแรกๆ ที่สร้างในยุคแผ่นดินสุวรรณภูมิที่พระพุทธศาสนาเผยแผ่ทั่วชมพูทวีป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่าน่าจะเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยพระสมณทูตของพระเจ้าอโศกมหาราช เพราะพระเจดีย์เดิมมีลักษณะทรงโอคว่ำ หรือทรงมะนาวผ่าครึ่งแบบเดียวกับพระสถูปสาญจี ประเทศอินเดีย ที่สร้างในช่วง พ.ศ. 270311 ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (http://www.posttoday.com/media/content/2014/01/19/1EA544C1DEF54757ACC99BA517F07656.jpg) ซึ่งเราจะได้เห็นภาพเจดีย์แรกเริ่มได้จากพิพิธภัณฑ์องค์พระปฐมเจดีย์ที่จะแสดงภาพวาดประวัติความเป็นมาที่แต่เดิมโครงสร้างทำจากไม้ซุง รัดด้วยโซ่ใหญ่ก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ มีพระวิหาร 4 ทิศ รอบด้วยกำแพงแก้วอีก 2 ชั้น แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเจดีย์อื่นๆ ในยุคเดียวกัน ก็คือ มียอดเป็นแบบปรางค์ และได้มีการบูรณะต่อเติมจากกำลังศรัทธาของประชาชนจนทำให้แทบไม่เหลือเค้าเดิมให้เห็น จนช่วงปี พ.ศ. 569 พระยาพานผู้ครองเมืองได้ต่อเติมองค์พระพุทธเจดีย์ให้สูงขึ้นด้วยหวังจะให้สูงเท่านกเขาเหิร ทรงของพระสถูปเจดีย์เดิมจึงเปลี่ยนไปกลายเป็นรูปทรงบาตรคว่ำยอดปรางค์ใหญ่ที่สุดในสุวรรณภูมิ เวลาผ่านไปเกือบ 2,000 ปี สู่ยุครัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งยังทรงผนวชได้เสด็จมานมัสการ มีพระราชดำริให้บูรณปฏิสังขรณ์ โดยคงรูปเดิมด้วยการสร้างพระมหาเจดีย์สถูปใหญ่หุ้มองค์เดิมไว้ภายในอีกชั้นหนึ่งและมีการปรับปรุงบูรณะจนเป็นพระมหาเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งบนแผ่นดินไทยสืบถึงทุกวันนี้ (http://www.posttoday.com/media/content/2014/01/19/9F513CDE87E749B7B71140DD2DFAE226.jpg) พระร่วงโรจนฤทธิ์ ไหว้แล้วไม่มีวันตกต่ำ เคล็ดลับในการเดินชมองค์พระปฐมเจดีย์ ก็คือ ให้เราเดินขึ้นจากฝั่งทางทิศเหนือซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ก่อนเป็นอันดับแรก พระร่วงโรจนฤทธิ์มีความเป็นมาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เวลานั้นพระองค์ยังดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระยุพราช เสด็จประพาสที่เมืองศรีสัชนาลัย หรือ จ.สุโขทัย ในปัจจุบัน ทรงทอดพระเนตรพระพุทธรูปองค์หนึ่ง มีพระลักษณะงามเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย แต่อยู่ในสภาพที่ชำรุดมาก จึงอัญเชิญมาไว้ที่กรุงเทพฯ จนกระทั่งเสด็จขึ้นครองราชย์ก็ทรงโปรดให้มีการหล่อปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ มีเกร็ดเล่าว่าเมื่อหล่อเสร็จครั้งแรก ไม่เป็นที่ต้องพระราชหฤทัยมากนัก นายช่างใหญ่จึงเข้าเฝ้าจนเข้าใจถึงความตั้งใจของพระองค์ จึงทำการหล่อใหม่โดยเน้นที่พระอุทรให้ยื่นออกมาคล้ายคนอวบระยะสุดท้าย แต่เมื่อดูด้านหน้าจะเห็นเป็นสัดส่วนที่บริบูรณ์สวยงาม จัดเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย (http://www.posttoday.com/media/content/2014/01/19/88883453718D4FF2916BFD71232B5D9E.jpg) กระทั่งมีการตัดทางรถไฟจากกรุงเทพฯ ถึง จ.นครปฐม ก็ได้มีการตัดส่วนองค์พระ ขนย้ายมาทางรถไฟและนำมาตั้งใหม่ที่องค์พระปฐมเจดีย์ และพระราชทานนามว่า “พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร” เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปะแบบสุโขทัยประทับยืนอยู่บนฐานโลหะทองเหลืองลายบัวคว่ำบัวหงาย ภายหลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต ตามความในพระราชพินัยกรรมของพระองค์ ระบุว่า ให้บรรจุพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ไว้ใต้ฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่องค์พระปฐมเจดีย์ ดังนั้น เวลาที่เรากราบไหว้พระร่วงโรจนฤทธิ์ก็เท่ากับว่าเราได้กราบพระบรมราชสรีรางคารขององค์รัชกาลที่ 6 ไปด้วยในตัว หากจะว่าไปแล้วที่ จ.นครปฐม ก็มีความเกี่ยวพันกับรัชกาลที่ 6 อยู่อีกสิ่งหนึ่ง ก็คือ พระราชวังสนามจันทร์นั่นเอง (http://www.posttoday.com/media/content/2014/01/19/B805C496CCB2429D924E9A07F3A75C74.jpg) ทักษิณาวรรต ย้อนเวลาตามระเบียงคด หลังจากได้กราบขอพรจากพระร่วงโรจนฤทธิ์แล้ว เราก็เริ่มเดินเวียนขวา คือ หันหน้าเข้าตัวองค์พระปฐมเจดีย์แล้วเดินไปทางซ้ายมือ สิ่งแรกที่เราจะได้เห็น ก็คือ ระเบียงคดเป็นห้องแนวยาวตามโค้งโดยรอบองค์พระปฐม ในแต่ละห้องเราจะเห็นอักษรจารึกกถาธรรมเป็นภาษาบาลีขอม สำหรับคนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าเป็นห้องเรียนธรรมดา แต่ที่จริงแล้วระเบียงคดนี้เป็นห้องเรียนศึกษาภาษาบาลีของเหล่าภิกษุสามเณรครั้งตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ และยังคงเป็นห้องเรียนภาษาบาลีจนถึงปัจจุบัน เมื่อมองไปที่บริเวณซุ้มประตูและหน้าต่างเราจะเห็นตุ๊กตาอับเฉาเฝ้าปากประตูกับพระพุทธรูปปางต่างๆ รวมกันโดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์นับได้ 86 องค์ ตุ๊กตาอับเฉา ก็คือ ตุ๊กตาหินจีนโล้สำเภา หลังจากกลับไปค้าขายที่จีน เรือสำเภาจำเป็นต้องมีสินค้าหนักๆ ไว้ถ่วงกันเรืออับปาง ดังนั้นในสมัยก่อนเราจะได้เห็นสินค้าพวกถ้วยชามจีนและตุ๊กตาจีนนี้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีจุดปลีกย่อยเล็กๆ น้อย จำพวกถ้ำอาศรมพระเวสสันดร ถ้ำฤาษี รูปจำลององค์พระปฐมเจดีย์เดิม พิพิธภัณฑ์องค์พระปฐมเจดีย์ ให้เราได้เดินชมกันเพลินๆ ซึ่งเด็กๆ จะชอบมากกับการวิ่งเข้าออกถ้ำขึ้นลงบันไดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นับเป็นเรื่องดีที่พวกเขาจะได้ซึมซาบวัฒนธรรมและคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่สืบทอดมายาวนานกว่า 2,500 ปี ผ่านองค์พระปฐมเจดีย์แห่งนี้ (http://www.posttoday.com/media/content/2014/01/19/EE41CB1E9AAD499E809BD073C2ACECC0.jpg) ทักษิณาวรรตให้ได้บุญ 1.ให้ดีที่สุดควรเดินเวียนขวาให้รอบองค์พระปฐม ระลึกถึงพระรัตนตรัย แต่ไม่จำเป็นต้องพนมมือไหว้ไปตลอดทาง เพียงแวะสักการะพระพุทธรูปประจำวิหารทั้ง 4 ทิศ และแวะชมอ่านความรู้คำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ติดอยู่โดยรอบก็พอแล้ว 2.เนื่องจากอาณาบริเวณขององค์พระปฐมเจดีย์นั้นกว้างขวางมาก ควรติดน้ำและอาหารว่างใส่กระเป๋า เพราะคุณอาจจะต้องใช้เวลาเดินมากกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อชมจนครบทุกจุด 3.ชาวบ้านยังเชื่อกันอีกว่า สิ่งของที่ถวายให้กับพระร่วงโรจนฤทธิ์นั้นควรเป็นไข่ไก่ต้มสุก ย้อมสีแดงและพวงมาลัยดอกไม้สดสีเหลือง เพราะพระร่วงโรจนฤทธิ์ชอบไข่สีแดง ขอพรแล้วจะสมหวังทุกประการ (http://www.posttoday.com/media/content/2014/01/19/094131662FFC4309B6E68A415E7CE70E.jpg) ขอบคุณภาพและบทความจาก www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/เที่ยวทั่วไทย/272076/ทักษิณาวรรตองค์พระธม-ย้อนเวลายุคขอมถึงกรุงรัตนโกสินทร์ (http://www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/เที่ยวทั่วไทย/272076/ทักษิณาวรรตองค์พระธม-ย้อนเวลายุคขอมถึงกรุงรัตนโกสินทร์) |