พิมพ์หน้านี้ - สมาธิชาวบ้าน : ความศรัทธาส่งผลต่อจิต

(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash2/t1/1003271_538741282840723_2063734626_n.jpg)

สมาธิชาวบ้าน : ความศรัทธาส่งผลต่อจิต

การพัฒนาจิตวิญญาณของเราให้สูงขึ้นนั้นต้องมีศรัทธาในหลายๆ ส่วน ศรัทธาในระบบบาปบุญคุณโทษ ศรัทธาในครูบาอาจารย์ ศรัทธาในศีล ศรัทธาในสัจธรรม และศรัทธาในบุญกุศล การศรัทธาในบุญและการทำบุญนั้นเป็นเรื่องสำคัญ

การศรัทธาและเชื่อว่าบุญที่เราพูดถึงนี้เป็นเรื่องที่ดี ในเมื่อมันดี มันก็ไม่ต้องไปอธิบายว่าทำไมต้องทำ แต่ถ้าเรายังไมเข้าใจยังลังเลสงสัยอยู่ มันก็จะเกิดคำถามประมาณว่า

ทำไมฉันทำบุญแล้วฉันไม่เห็นได้ดี ฉันทำบุญแล้วทำไมฉันไม่รวย มันมีเหตุปัจจัยหลายอย่างที่ซับซ้อนกว่าเหตุผลโลก บุญมันไม่ได้อยู่ในกฎที่ว่า หนึ่งบวกหนึ่งจะต้องได้สอง แต่ถ้ายังเชื่อว่าบุญเป็นสิ่งดี แล้วเราเข้าใจกระบวนการของบุญหมดแล้ว

:96: :96: :96:

อย่างมีคนคนหนึ่งที่ซื้อหวย แต่นั่งสมาธิเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยถูกหวยเลยสักครั้ง แต่คนคนนั้นก็ไม่ได้เลิกนั่งสมาธิเลย เพราะว่าเขาเข้าใจว่าบุญที่ได้จากการนั่งสมาธิหรือปฏิบัติธรรม มันเป็นอีกระบบหนึ่งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นหวย แต่เขาคนนั้นเชื่อว่าบุญมันดี แต่อานิสงส์ของบุญสามารถแก้ปัญหาทางโลกได้บ้าง เขารู้ว่ากรรมไหนมันส่งผลอยู่ กรรมนี้มันส่งผลอย่างนี้

คนชั่วที่สุดในโลกอาจจะเป็นคนเดียวกับคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ถ้ากรรมดีส่งผลก็อาจจะส่งผลต่อเนื่องกันหลายๆ ชาติ แต่ถ้ากรรมดีส่งผลหมดเมื่อไร ทีนี้ก็ถึงตากรรมชั่วที่เขาทำแล้ว

เหตุอันใด กรรมอันใดที่ส่งผลให้เขาเป็นแบบนี้ เพราะเขาอาจจะสร้างกุศลกรรมที่ยิ่งใหญ่ในชาติทีผ่านๆ มาหลายชาติ ในชาตินี้แม้ว่าดูแล้วเขาอาจจะทำอะไรชั่วๆ แต่มันก็ยังได้ดี คนที่ไม่เข้าใจในระบบกรรม ระบบบุญ ก็อาจจะหวั่นไหว แต่คนที่เข้าใจจะรู้เลยว่ามันจะต้องรับในผลกรรมชั่วที่ทำอย่างแน่นอน และคนที่เข้าใจแล้วก็ไม่คิดที่จะเอาตามอย่างเขาด้วย

(http://www.madchima.net/images/683_sawok_1.jpg)

คนที่ไม่มีศีลจะปฏิบัติสมาธิไม่ได้ เพราะศีลคือเครื่องควบคุมกาย การมีศีลควบคุมทำให้ห่างจากสิ่งเย้ายวนใจ เลยทำให้สามารถทำสมาธิได้ง่าย การทำสมาธิก็มีกระบวนการอบรมจิตที่ทำให้จิตมันแยกออกจากความคิด ซึ่งมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป

สมาธิเป็นสภาวะจิตที่ไม่เกี่ยวกับอาการ พอจิตแยกออกจากความคิด การไม่ถูกความคิดครอบงำก็จะเกิดสมาธิอย่างสมบูรณ์ จิตแค่หยุดคิดก็เป็นสมาธิ พรากออกจากความคิดที่ครอบงำเรา เมื่อจิตมันพรากจากความคิดได้ มันก็เป็นความเดิมแท้ของมัน ก่อนที่จิตจะถูกความคิดครอบงำ นั่นแหละเป็นความจริงของมัน แล้วจิตจะพัฒนาไปรู้อย่างอื่น

เมื่อจิตแยกตัวจากความคิดเป็นสมาธิอย่างสมบูรณ์แล้ว จะเกิดความคิดอย่างใหม่เรียกว่าปัญญาความรู้แจ้ง เมื่อตรงนี้มันออกมาจากความคิดกลุ่มเดิมที่ครอบงำอยู่ มันจะเกิดปัญญาอย่างใหม่ อันนี้เรียกว่าปัญญาความรู้แจ้งเห็นจริง ปัญญานี้มีตั้งแต่หยาบๆ จนละเอียดมากๆ ไปจนถึงปัญญาพระนิพพาน.

ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/190114/84774 (http://www.thaipost.net/tabloid/190114/84774)

สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มกราคม 21, 2014, 11:11:03 am