หัวข้อ: ไหว้พระพุทธมหาโลกานันทปฏิมา วัดเฉลิมพระเกียรติ นนทบุรี เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2014, 10:12:00 am (http://www.khaosod.co.th/online/2014/02/13914069551391407016l.jpg) ไหว้พระพุทธมหาโลกานันทปฏิมา วัดเฉลิมพระเกียรติ โดย วิภาวี จุฬามณี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก ตลอดรัชกาลทรงสร้างและบูรณะวัดวาอารามหลายแห่ง ก่อนเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ.2394 ทรงมอบพระราชภารกิจในราชการแผ่นดินไว้กับพระศรีสุริยวงศ์ หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำนุบำรุงวัดวาต่างๆ โดยวัดที่พระองค์ทรง สร้างขึ้นเป็นวัดสุดท้ายในรัชกาล คือ "วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร" ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน และยังคงความสวยงามตราบจนถึงปัจจุบัน ความสวยงามของพระอารามหลวงแห่งนี้ เลื่องลือขนาดที่มีละครจักรๆ วงศ์ๆ และละครพีเรียดหลายเรื่อง มาใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ เช่น ละคร "อีสา" ซึ่งมีนางเอก นุ่น-วรนุช แสดงนำ และละครแนวพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ เรื่อง "ลูกทาส" นำแสดงโดย เคน-ภูภูมิ และเบลล่า-ราณี ก็มาถ่ายทำที่นี่เช่นกัน :96: :96: :96: "วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร" ตั้งอยู่บริเวณป้อมเก่า ซึ่งเป็นนิวาสสถานเดิมแห่งพระอัยกา (ตา) พระอัยกี (ยาย) และเป็นที่ประสูติของสมเด็จพระศรีสุลาไลย พระราชชนนีของรัชกาลที่ 3 พระองค์โปรดเกล้าฯให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) เป็นแม่กองสร้างวัด และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงก่อพระฤกษ์พระอุโบสถด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2390 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ทรงรับภาระในการก่อสร้างต่อจนแล้วเสร็จ โดยโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) เป็นแม่กองบูรณปฏิสังขรณ์ ก่อนโปรดให้จัดการผูกพัทธสีมาวัดเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2394 และทรงมีพระราชศรัทธาบำเพ็ญพระราชกุศลและทำนุบำรุงวัดเฉลิมพระเกียรติอยู่เสมอ :25: :25: :25: สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยทรงนำเจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเคนต์ พระราชอาคันตุกะที่เสด็จฯ มาเยือนไทย เสด็จพระราชดำเนินมาทรงลอยพระประทีป ณ ท่าน้ำวัดเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2504 ในวโรกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสกับเจ้าอาวาสตอนหนึ่งว่า "ได้เคยผ่านมาหน้าวัดนี้ เห็นวัดร่มรื่นดี วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยม นำแขกต่างประเทศมาด้วย วัดนี้เป็นวัดประวัติศาสตร์ สวยงามมาก ควรจะบูรณะให้รักษาแบบของเดิมไว้" เอกลักษณ์ของวัดเฉลิมพระเกียรติ คือ เป็นวัดเดียวในประเทศ ไทยที่มีกำแพงวัดเช่นเดียวกับกำแพงพระบรมมหาราชวัง ลักษณะเป็นกำแพงก่ออิฐถือปูน ด้านบนประดับด้วยใบเสมา ส่วนมุมกำแพงทั้ง 4 มีป้อมปราการ ซึ่งรัชกาลที่ 3 โปรดให้สร้างล้อมรอบวัด ด้วยเหตุนี้จึงถูกใช้เป็นสถานที่พักกองทัพและประกอบพิธีกรรมในการยกทัพไปภาคเหนือหลายครั้ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงป้อมปราการด้านหน้าเท่านั้น (http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2014/02/col01030257p2.jpg&width=360&height=360) จากท่าน้ำมีทางเดินทอดยาวไปสู่ "พระอุโบสถ" สองข้างทางแวดล้อมไปด้วยพรรณไม้สูงใหญ่ ประกอบกับมีสายลมโชยเบาๆ จากริมเจ้าพระยา จึงเห็นหลายคนเลือกใช้เวลาอยู่ตามมุมสงบใต้ร่มไม้ต่างๆ สำหรับพระอุโบสถวัดเฉลิมพระเกียรติ มีความกว้าง 26 เมตร ยาว 40 เมตร สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยปนจีน อันเป็นศิลปะแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 หลังคาพระอุโบสถนั้น มุงด้วยกระเบื้องรางดินเผาชนิดกาบกล้วยไม่เคลือบสี ที่น่าสนใจคือ หน้าบันทั้งทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีสดจากประเทศจีน ตกแต่งเป็นรูปดอกพุดตาน ละเอียดลอองดงามมาก เช่นเดียวกับกระจังฐานพระ ช่อฟ้า ใบระกาและหัวนาค ส่วนจิตรกรรมฝาผนังภายใน เขียนเป็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ก้านแย่ง และดอกไม้ร่วง :25: :25: :25: พระประธานในพระอุโบสถ คือ "พระ พุทธมหาโลกานันทปฏิมา" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองแดงทั้งองค์ ตามประวัติเล่าว่า เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ขุดแร่ทองแดงที่ อ.จันทึก (ปัจจุบันคือ อ.สีคิ้ว) จ.นครราชสีมา นั้น ได้เนื้อทองแดงเป็นจำนวนมาก ทรงมีพระราชประสงค์จะใช้ให้เป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาก่อน จึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธรูปเป็นพระประธาน ประดิษฐานในพระอารามใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ วัดราชนัดดา และวัดเฉลิมพระเกียรติแห่งนี้ ถัดไปด้านขวามือ เป็นที่ตั้งของ "การเปรียญหลวง" ภายในประดิษฐาน "พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์" พระชัยประจำรัชกาลที่ 3 สำหรับทรงใช้ประกอบพิธีกรรมก่อนการศึกสงครามหลายครั้ง และด้านซ้ายมือ คือ "พระวิหารหลวง" หรือ "วิหารพระศิลาขาว" ภายในประดิษฐาน "พระศิลา" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว สูง 33 นิ้ว พร้อม อัครสาวก ซึ่งทั้งการเปรียญและพระวิหาร หลวง จะเปิดให้เข้าชมและสักการะเฉพาะ วันเสาร์-อาทิตย์ และวัดหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น st12 st12 st12 ส่วนพระเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ หลังพระอุโบสถด้านทิศใต้ ตามประวัติบอกว่า เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2397 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราช ดำเนินพยุหยาตราพระราชทานพระกฐิน ณ วัดเฉลิมพระเกียรติ และโปรดเกล้าฯ ให้แห่พระบรมธาตุขึ้นไปบรรจุในพระเจดีย์ด้วย (http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2014/02/col01030257p3.jpg&width=360&height=360) เที่ยวรอบๆ วัด ชมอุทยาน-พลับพลา ฉากละครดัง วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2541 หากมีโอกาสแนะนำให้ไปเยี่ยมชม จะได้ทั้งทำบุญให้จิตใจสบาย เรียนรู้ศิลปะไทย และซึมซับบรรยากาศงดงาม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา การเดินทางไปเยี่ยมชม ทางรถยนต์ มุ่งหน้าตามถนนบางกรวย-ไทรน้อย แล้วเลี้ยวเข้าท่าน้ำนนทบุรี (ฝั่งธนบุรี) จะมีป้ายบอกทางตลอด หากมาจากฝั่งกรุงเทพฯ ข้ามสะพานพระราม 5 แล้วแยกเข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อย หรือข้ามจากสะพานพระนั่งเกล้า ถึงแยกบางพลู เลี้ยวซ้ายผ่านวัดสวนแก้ว ขับไปตามทางจะมีป้ายบอก เช่นกันหรือหากจะเดินทางโดยเรือ ก็ใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา ลงที่ท่าน้ำนนทบุรี แล้วต่อเรือหางยาวประจำเส้นทางไปคลองบางใหญ่ มีเรือออกจากท่าน้ำนนทบุรีทุก 20 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที :s_hi: :s_hi: :s_hi: กราบขอพรจากพระพุทธรูปสำคัญภายในวัดแล้ว ก่อนกลับอย่าลืมแวะสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา พระบรมราชานุสาวรีย์นี้ มีขนาด 2 เท่าครึ่งของพระองค์จริง ในอิริยาบถทรงยืน พระหัตถ์ซ้ายถือพระแสงดาบ หันพระพักตร์ไปทางแม่น้ำ ชาวนนทบุรีพร้อมใจกันสร้างขึ้น เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณา ธิคุณ ทั้งด้านทำนุบำรุงพระศาสนา และบำรุงศิลปวิทยาการเผยแพร่ความรู้ให้แก่ประชาชนทั่วไป ใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของ อุทยานกาญจนาภิเษก มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ กรมธนารักษ์ทุ่มงบประมาณ 900 ล้านบาท จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้น้ำ ไม้ชายน้ำ พืชสวน และสัตว์น้ำชนิดต่างๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30-18.30 น. :sign0144: :sign0144: :sign0144: เมื่อเดินเข้าไปภายในจะสะดุดตากับวิมานสราญนวมินทร์ เป็นพลับพลาโถงเครื่องยอดแหลม ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาทรงมณฑป ประดับฉัตร 3 ชั้น สัญลักษณ์แสดงเครื่องยศของประเภทอาคารชั้นสูง ใครที่เคยชมละคร "รอยไหม" ทางช่อง 3 อาจจะจำกันได้ เพราะใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากของคู่พระนาง แอฟ-ทักษอรและอั้ม-อธิชาติ หลายฉาก ทั้งภพอดีตและปัจจุบัน ไม่ไกลกันเป็นส่วนของพลับพลาโถงจัตุรมุขรับเสด็จ เป็นศาลาโล่งหลังคาลด ชั้น 4 ทิศ มีศาลาบริวาร 3 หลัง เป็นงานไม้เครื่องลำยอง รูปแบบอย่างโบราณ ใช้ไม้สักแกะลงรักปิดทองคำเปลว 100 เปอร์เซ็นต์ ประดับกระจกสีให้เหมาะกับลักษณะใช้สอยที่เป็นอาคารประกอบพิธี สุดมุมริมน้ำ เป็นอาคารบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีแต่เดิม เป็นจุดเริ่มเข้าไปยังบรรยากาศของสวนผลไม้ที่อนุรักษ์ไว้ ทั้งสวนกระท้อน ทุเรียน มังคุด ขนุน มะพร้าวน้ำหอม เป็นต้น ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UUXdOamsxTlE9PQ==§ionid= (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UUXdOamsxTlE9PQ==§ionid=) |