หัวข้อ: อึ้ง.! เคลื่อนย้ายองค์พระเจอเศียรสมัยรัตนโกสินทร์ใต้ฐาน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2014, 08:14:34 pm (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/555516.jpeg) อึ้ง.! เคลื่อนย้ายองค์พระเจอเศียรสมัยรัตนโกสินทร์ใต้ฐาน ทีมงานก่อสร้างอึ้ง ปรับปรุงซ่อมแซมโบสถ์วัดจันทร์อยุธยาที่ถูกน้ำท่วมจนทรุด แต่พอเคลื่อนย้ายองค์พระกลับพบวัตถุมงคล เศียรพระพุทธรูป สมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่วัดจันทร์ ต.บางพระครู อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้มีการย้ายองค์พระประธาน หรือหลวงพ่อขาว เพื่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ กลับพบวัตถุมงคลเศียรพระพุทธรูปจำนวนมาก จึงไปตรวจสอบ พบพระครูโสภณปริยัตยานุยุต เจ้าอาวาส กำลังควบคุมดูแลการเจาะฐานของพระประธาน หรือหลวงพ่อขาว เพื่อติดตั้งโครงเหล็กเอาไว้รองรับน้ำหนักองค์พระ กระทั่งพบว่าใต้ฐานองค์พระมีไหสีดำขนาดใหญ่ มีหูจับ 4 หู จึงนำมาเปิดดูพบว่า ภายในมีพระเครื่องเนื้อดินเผา อาทิ หลวงพ่อโตวัดบางกระทิง พระซุ้มกอเหรียญหลวงพ่อขาววัตถุมงคลรุ่นแรกของวัด (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/555517.jpeg) (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/555518.jpeg) สอบถาม พระครูโสภณปริยัตยานุยุต เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า หลังจากวัดถูกน้ำท่วมเมื่อปี 54 โบสถ์เสียหายมาก จึงได้บูรณะเพื่อสร้างใหม่โดยการปรับปรุงพื้นที่และรื้อโบสถ์หลังเก่าออกเหลือไว้เพียงพระประธาน จึงจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายพระประธานออกก่อน ทำให้พบพระพุทธรูปเศียรพระ และไหที่บรรจุพระเครื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นพระเครื่องที่ทางวัดสร้างขึ้นและส่วนหนึ่งเป็นพระเครื่องเนื้อดินเผาเก่าแก่ที่บูรณะในสมัยรัตนโกสินทร์ "จากการค้นคว้าประวัติวัดจันทร์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักฝั่งตะวันตกของแม่น้ำป่าสัก เป็นวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ชานเมืองกรุงเก่า สันนิษฐานเป็นวัดสมัยรัตนโกสินทร์ยุคต้นในสมัยก่อน เมื่อประมาณ 70-80 ปีมีธรรมชาติเงียบสงบ ต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมทั่วไปหมด ท้องทุ่งกว้างติดเขตวัดวัดจันทร์อยู่ในสภาพทรุดโทรมอุโบสถไม่มีหลังคาต้องใช้สังกะสีทำเป็นเพิงคลุมองค์พระประธาน พอกันแดดกันฝนครั้งอดีตมีหลวงตาแก่ๆ อยู่จำพรรษารูปเดียว ชาวบ้านแถววัดเรียกพระรูปนี้ว่าหลวงตาเขียว" พระครูโสภณปริยัตยานุยุต กล่าว (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/555519.jpeg) (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/555520.jpeg) เจ้าอาวาสวัดจันทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนพระประธานภายในพระอุโบสถชาวบ้านเรียกหลวงพ่อขาว เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐฉาบปูนสีขาวทั้งองค์ศิลปะรัตนโกสินทร์ยุคต้นในสมัยก่อนมักจะมีพวกนักขุดโบราณสถานและโบราณวัตถุแอบลักขโมยขุดหาทรัพย์สมบัติวัดจันทร์ ก็เป็นวัดหนึ่งที่ถูกขโมยลักขุด โดยขุดที่ฐานชุกชีพระประธาน ได้ทรัพย์สมบัติและพระพุทธรูปบูชาไปจำนวนหนึ่งพอรุ่งสว่างพวกขโมยรีบขนจนทำให้พระกระจัดกระจายไปทั่ว เพราะพวกขโมยขนไปไม่ทันส่วนพระพิมพ์ขนาดเล็กทั้งสีดำ สีแดง และเนื้อตะกั่วสนิมแดง หลวงพ่อโต ฯลฯปล่อยทิ้งไว้กระจายไปทั่วพื้นพระอุโบสถหลวง-ตาเขียวแกพบเห็นเข้าก็ให้ลูกชาวบ้านที่เลี้ยงควายอยู่แถวหลังวัดช่วยกันขนใส่กระบุงแล้วให้ แล้วให้ขนไปไว้ที่โคนต้นคูนใกล้ๆ หลังพระอุโบสถ "สันนิษฐานจากพุทธลักษณะพระกรุวัดจันทร์เป็นพระพิมพ์ที่มีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์กำแพงไขว้ พิมพ์ปิดตาพิมพ์ปางรำพึง พิมพ์นางกลีบบัว พิมพ์ซุ้มกอเล็กพิมพ์พลายเดี่ยวหลังจารตัวเฑาะว์ พุทธลักษณะสันนิษฐานเบื้องต้นน่าจะเป็นพระสร้างสมัยรัตนโกสินทร์ประมาณ 150-170 ปีจากลักษณะพิมพ์ทรงและอักขระคาถาที่ประทับด้านหลังองค์พระ เช่น อุเฑาะว์ นะ" เจ้าอาวาสวัดจันทร์ เผยเพิ่มเติม (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/555521.jpeg) (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/555522.jpeg) นายบุญส่ง กิตินาม อายุ 80 ปี ชาวบ้านที่อยู่กับวัดมาตลอดชีวิต เปิดเผยว่า พระประธานที่วัดนี้เคยถูกคนร้ายตัดเศียร แต่เอาไปไม่ได้จึงได้ทิ้งเอาไว้ ซึ่งครั้งนั้นวัดยังไม่มีตัวโบสถ์มีเพียงรั้วสังกะสีเก่าล้อมเอาไว้ ต่อมามีการบูรณะวัดซ่อมแซมโบสถ์นำเศียรมาต่อใหม่ ส่วนพระเครื่องที่พบได้มีการรวบรวมและบรรจุเอาไว้ในไห. ขอบคุณภาพข่าวจาก www.dailynews.co.th/Content/regional/215108/อึ้ง!+เคลื่อนย้ายองค์พระเจอเศียรสมัยรัตนโกสินทร์ใต้ฐาน (http://www.dailynews.co.th/Content/regional/215108/อึ้ง!+เคลื่อนย้ายองค์พระเจอเศียรสมัยรัตนโกสินทร์ใต้ฐาน) |