|
หัวข้อ: บอกบุญสร้างห้องสุขา... เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 20, 2014, 09:17:56 pm (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2014/02/19/404755/hr1667/630.jpg) บอกบุญสร้างห้องสุขา...
"พระจะสึก ลูกจะเกิด ขี้จะแตก"...สามสิ่งนี้ห้ามไม่ได้ นี่เป็นคำโบราณท่านว่าไว้ คนที่บวชเป็นพระแล้วเกิดอาการ "ผ้าเหลืองร้อน" หรือที่โบราณท่านเรียกว่า "เกิดอาการกระสัน" นั้น จะยื้อยุดฉุดรั้งไว้อย่างไร ก็ไม่อาจทัดทานได้ ต้องยอมปล่อยให้สึกไป สตรีที่เจ็บครรภ์จะใกล้คลอด ก็ไม่สามารถบังคับหรือกลั้นได้ ต้องปล่อยให้ลมเบ่งนั้นทำงานไปตามหน้าที่ของมัน ลูกจะตกฟากกำเนิดออกมาเวลาไหนอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามธรรมชาติที่เค้ากำหนดมาแล้ว ส่วนเรื่องขี้จะแตกก็เป็นเรื่องปกติที่ไม่อาจห้ามได้เลย จะขมิบจะตะบิดจะตะบอยอย่างไร มันก็ไม่อาจกลั้นได้ เรื่องความสำคัญของขี้จะแตกนี้ คงเป็นที่เข้าใจได้กับทุกๆ ท่าน เพราะเชื่อว่าเคยมีประสบการณ์มาแล้วโดยทั่วหน้ากัน (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2014/02/19/404755/o4/420.jpg) อาการขี้จะแตกนั้นเป็นความทุกข์อย่างสาหัส แต่หากได้นั่งหย่อนกายลงถ่ายทุกข์นั้นให้พ้นตัวพ้นกายไป ก็จะเกิดความสุขสบายแก่ทั้งร่างกายและจิตใจ ในอดีตก็ใช้วิธี "ไปทุ่ง" ตื่นเช้าขึ้นมา ก็เดินออกหลังบ้านเข้าป่าหญ้าป่าพงไป "ทำธุระ" ต่อมาในยุคหลังๆ ลงมา มีการสร้างห้องหับสำหรับใช้ขับถ่ายให้มิดชิด ผู้ที่เข้าไปในห้องนี้ทุกคน เมื่อกลับออกมาจะรู้สึกสบายและมีความสุข จึงเรียกห้องนี้ว่า "ห้องสุขา" คนไทยเราถือกันว่า อานิสงส์ผลบุญจากการสร้างห้องสุขานั้นมีมากมาย เป็นกุศลที่เกิดจากการช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น "ทุกข์หนัก" หรือ "ทุกข์เบา" ก็ตาม ดังนั้น หากมีโอกาสที่จะได้ทำกุศลสร้างห้องสุขาเมื่อใด ก็จะรีบเร่งร่วมมือร่วมใจกันทำกุศลนั้นทันที :25: :25: :25: ผมโชคดีที่ได้มีโอกาสรู้จัก ฯพณฯ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง คือ ฯพณฯ พิษณุ สุวรรณะชฎ และภรรยาคือ คุณทิพยสุดา สุวรรณะชฎ ท่านทั้งสองเป็นผู้แทนของคนไทยในประเทศพม่าได้อย่างงดงามยิ่ง ในชั่วระยะเวลา 2 ปีเศษที่ท่านมาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยที่ประเทศนี้ ท่านได้ทำประโยชน์และสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีของทั้ง 2 ประเทศ คือ พม่าและไทย ได้อย่างเหนียวแน่นและดียิ่ง ปีที่ผ่านมาท่านจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาธารณกุศล และงานวิชาการและบันเทิงต่างๆ มากมายหลายงาน เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการของไทยกับพม่า ครบ 65 ปี เมื่อเร็วๆ นี้ทางบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ก็ได้นำพาผู้สื่อข่าวเกือบ 200 ชีวิต มาร่วมทัศนศึกษาที่เมืองย่างกุ้งและเมืองหงสาวดี และ ณ โอกาสนี้ ก็ได้รับความกรุณาจาก ฯพณฯ เอกอัครราชทูต กรุณาสละเวลาบรรยายเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตทั่วไปของประเทศพม่าในปัจจุบัน และได้เล่าถึงเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับวัดนาคาไลกู ในนครย่างกุ้งด้วย (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2014/02/19/404755/o5/420.jpg) ที่วัดนาคาไลกูนี้ เป็นวัดในพระพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงมากของพม่า เป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวพม่าว่าเจ้าอาวาสท่านเคร่งจัดมากจริงๆ ท่านจัดตั้งวัดนี้ให้เป็นโรงเรียนสอนพระพุทธศาสนาที่มีขนาดใหญ่ลำดับต้นๆ สุดๆ ของเมืองย่างกุ้ง มีพระภิกษุ สามเณร แม่ชี สามเณรี และผู้ปฏิบัติพระรวมแล้วกว่า 1,300 รูป เป็นวัดที่ท่านเจ้าอาวาสหาเลี้ยงชีวิตทั้ง 1,300 ชีวิตเพียงรูปเดียว ด้วยการรับกิจนิมนต์ไปเทศนาธรรมตามที่ต่างๆ ทั้งๆ ที่ท่านก็มีอายุสูงมากแล้วด้วย คนไทยในย่างกุ้งและในพม่ารู้จักวัดนี้ดี และเดินทางมากราบนมัสการท่านเจ้าอาวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 8 รูปของพม่า ที่สามารถท่องพระไตรปิฎกได้ทั้งฉบับเป็นประจำ และเมื่อ ฯพณฯ เอกอัครราชทูต ท่านพิษณุ สุวรรณะชฎ เดินทางไปรับตำแหน่งที่ย่างกุ้ง ก็ได้เดินทางไปกราบนมัสการพระเดชพระคุณรูปนี้ด้วย และได้รับการร้องขอจากท่านเจ้าอาวาสว่า ทางวัดต้องการขอรับบริจาคเซรุ่มจากไทย เพื่อฉีดให้ผู้ที่ถูกงูกัด ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำแทบไม่เว้นวัน ซึ่งท่านทูตก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะสภาพวัดที่เห็นอยู่นั้น ก็เป็นวัดใหญ่ที่ตั้งอยู่ชานเมือง ด้านหน้าของวัดที่ทุกคนผ่านไปมาก็ไม่ได้ถึงกับรกร้างเป็นป่าเป็นดงแต่อย่างใด st12 st12 st12 เมื่อท่านทูตถามถึงเรื่องงูที่กัดพระเณรเถรชีตายเป็นประจำนั้น ก็ได้รับคำตอบว่า วัดนี้มีห้องน้ำจำกัดมาก เรื่องน้ำประปาไม่ต้องพูดถึง ทางวัดต้องขุดบ่อน้ำไว้ใช้เอง เป็นบ่อลักษณะกลมๆ ลึกตรงลงไป 20-30 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางบ่อก็ราว 1-2 เมตร เวลาจะตักน้ำต้องใช้ถังผูกเชือกโยนหรือหย่อนลงไปตักน้ำ แล้วจึงสาวขึ้นมา บ่อน้ำนี้ใช้อาบน้ำรวมกันกลางแจ้ง ส่วนเรื่องห้องน้ำ หรือห้องสุขาสำหรับถ่ายหนักถ่ายเบานั้น ทางวัดมีห้องน้ำสำหรับพระภิกษุอยู่ราวๆ 8 ห้อง ห้องสุขาของสามเณรก็มีราวๆเดียวกัน และห้องของแม่ชีก็ยิ่งน้อยมากลงไปอีก บรรดาห้องสุขาทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่สกปรกและชำรุดแทบสิ้นสภาพ กับทั้งระบบระบายน้ำก็ไม่มีและไม่ดีเลย ทำให้น้ำจากของเสียทั้งหลาย เกิดการท่วมขัง เน่า แช่ แฉะ กลายเป็นแหล่งรวมของสิ่งสกปรกโสโครก รวมทั้งเชื้อโรคต่างๆ ส่งกลิ่นขจรขจายตลบอบอวลไปทั่วพื้นที่ แค่ผ่านไปห่างๆ ก็แทบจะสำลักตายสิ้นดิ้นด่าวแล้ว (http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2014/02/19/404755/o6/420.jpg) จากการที่มีจำนวนห้องน้ำจำกัดอย่างมาก จึงทำให้พระเณรเถรชีดังกล่าวไม่สามารถรั้งรอ หรือห้ามกันได้ เมื่อเกิดอาการ "ปวด" ขึ้นมาเมื่อใด กอปรกับห้องน้ำที่มีคิวยาวมากๆ ก็จำเป็นที่จะต้องเดิน "ไปทุ่ง" แทน ในส่วนด้านหลังของวัด เป็นพื้นที่ป่าละเมาะขนาดใหญ่มาก หลายสิบไร่ ที่มองไม่เห็นจากด้านหน้า และอุดมไปด้วยงูพิษนานาชนิด เรียกว่าเป็นดงงูเลยทีเดียว เป็นสถานที่ที่ใช้ในการ "ไปทุ่ง" เป็นประจำ เมื่อพระเณรประสงค์จะทำธุระหนักเบาเมื่อใด ก็ต้องเดินบุกเข้าไปทำกิจธุระนั้นในป่าละเมาะนี้ ยิ่งนานวันขึ้นก็ยิ่งต้องบุกลึกเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ทับที่ของเสียของคนก่อนๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกงูกัดตายกันเป็นประจำ ท่านเจ้าอาวาสจึงอยากได้เซรุ่มไปฉีดเมื่อถูกงูกัดเป็นที่สุด st11 st11 st11 แต่ท่านทูตท่านไวกว่านั้นมาก ท่านไม่ได้คิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องเซรุ่มแก้พิษงูกัดเท่านั้น แต่ท่านคิดแก้ไขปัญหาไปถึงต้นเหตุเลย ด้วยการทำโครงการ "การปรับปรุงสุขอนามัยวัดนาคาไลกู" โดยทางสถานเอกอัครราชทูตไทยจะเป็นเจ้าภาพหลักในการการปรับปรุงและสร้างห้องสุขาเพิ่มเติม จำนวน 40 ห้อง รวมทั้งจัดระบบระบายน้ำให้ได้มาตรฐาน เพื่อตัดปัญหาการ "ไปทุ่ง" อันเป็นต้นเหตุปัจจัยให้เกิดกรณีงูกัด โดยห้องน้ำที่จะจัดสร้างขึ้นนั้น ได้ให้ผู้รับเหมาพม่าคำนวณแล้ว จะตกราคาห้องละ 25,000 บาท ท่านที่ประสงค์จะบริจาค ก็ไม่จำเป็นต้องทำทั้งห้องก็ได้ครับ ทั้งนี้ แล้วแต่จิตศรัทธาและความพร้อม จะทำบุญ 5 บาท 10 บาท ก็สุดแล้วแต่เลยครับ ท่านสามารถติดต่อสอบถาม และแจ้งความจำนงที่จะบริจาคร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ที่อีเมล์ thaiembassyygn@gmail.com นอกจากนี้ ทางสถานเอกอัครราชทูตกับทางวัดก็สามารถออกใบอนุโมทนาบัตร หรือใบเสร็จรับเงิน เพื่อใช้หักภาษีของท่านได้อีกด้วย :49: :49: :49: กุศลแห่งการบริจาคทรัพย์ร่วมสร้างห้องสุขาในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นกุศลปัจจัยในส่วนของตัวท่านเองแล้ว ยังส่งผลเป็น soft power ต่อการเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีของทั้งไทยและพม่า ผ่านทางพระพุทธศาสนาอีกด้วย ขอเชิญนะครับ...ขอเชิญทุกท่านร่วมบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่นี้ด้วยกันครับ เพื่อต่อไปเราจะได้คลาดแคล้วต่อเรื่องที่ห้ามไม่ได้ต่างๆ เช่น เรื่องขี้จะแตก..... อนุโมทนาสาธุล่วงหน้าครับ เผ่าทอง ทองเจือ ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/edu/404755 (http://www.thairath.co.th/content/edu/404755) หัวข้อ: Re: บอกบุญสร้างห้องสุขา... เริ่มหัวข้อโดย: KIDSADA ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2014, 04:12:00 am st11 st12 st12
หัวข้อ: Re: บอกบุญสร้างห้องสุขา... เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2014, 10:55:57 am st11 st12 กับเมืองไทยประกันชีวิิต ที่สนับสนุนก่อน
หัวข้อ: Re: บอกบุญสร้างห้องสุขา... เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2014, 07:17:29 pm st11 :85: thk56 :67:
อยากมีส่วนร่วมบุญด้วย แต่มาซวยที่ใช้เมลล์ไม่เป็นนี่ซิ กลุ้ม! |