สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2014, 08:13:36 pm



หัวข้อ: ประวัติศาสน์ เพชรบูรณ์ (ชมภาพ)
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2014, 08:13:36 pm

(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/B0B9A067F3F94018B18999E1D10745A6.jpg)

ประวัติศาสน์ เพชรบูรณ์
โดย...กาญจน์ อายุ

ก่อนเสียงกลองทำวัตรเย็นจะดัง ฝูงนกบังเอิญบินวนเหนือเศียรพระศรีอริยเมตไตรย เหนือหัวพุทธศาสนิกชนนับพันที่มาร่วมพิธีบวงสรวงติดพระเนตร เหนือเทียนร้อยเล่มเศษที่เวียนรอบใต้เพ็ญเต็มดวงวันมาฆบูชา

1.งานบุญใหญ่ที่ผ่านมา ตรงกับวันงานใหญ่ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์ พุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศมาพบกันโดยนัดหมายเพื่อร่วมพิธีบวงสรวงติดพระเนตรและอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานไว้ในพระเศียรองค์พระพุทธเจ้าองค์ที่ห้า หรือพระศรีอริยเมตไตรย ณ พระมหาวิหารพระพุทธเจ้าห้าพระองค์


(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/D2422FCA8FCA4718B351E7A591993517.jpg)

ทั้งหนุ่มสาวและผู้สูงวัยต่างนั่งพับเพียบ เงียบสงบ พนมมือ มองดูพิธีอย่างใจแน่วแน่ พระผู้ใหญ่ทำพิธีที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง ร่ายบทสวดทำนองสรภัญญะลงบนศิลาพระเนตรซ้ายขวาก่อนชักลอกขึ้นสู่องค์พระเศียร เมื่อพิธีบวงสรวงสิ้นเสร็จ พุทธศาสนิกชนต่างพร้อมกันเปล่งบทสวดพาหุงมหาการุณิโก หรือพาหุงมหากา ระหว่างการติดพระเนตร จำนวนรอบนับไม่ได้ รู้เพียงว่าเนิ่นนาน นานกระทั่งช่างฝีมือติดพระเนตรลุล่วงสวยงาม จนฝูงนกที่เคยบินวนบินกลับเข้ารังหมดแล้ว ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าขณะอีกฝั่งพระจันทร์ขึ้น ปะรำพิธีที่พระมหาวิหารพระพุทธเจ้าห้าพระองค์เริ่มบางตา คนเคลื่อนที่มาหนาแน่นที่เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้วสิริราชย์ธรรมนฤมิต

(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/ECB86F5A044F411DB7EAA48432B3B778.jpg)

2.เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้วสิริราชย์ธรรมนฤมิต เป็นเจดีย์ทรงดอกบัวซ้อนกัน 7 ชั้น ตกแต่งด้วยกระเบื้องสี ถ้วยชามเบญจรงค์ ลูกปัด ลูกแก้ว เซรามิกหลากสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของวัด สะท้อนแสงระยับเมื่อสปอตไลต์สาดใส่ เป็นความสวยงามยามค่ำคืนที่น้อยวันนักจะได้เห็น ต้องเป็นวันพิเศษ เช่น มาฆบูชา ที่อนุญาตให้คนขึ้นมาเวียนเทียน

บนยอดพระเจดีย์เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณฐานเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเลิศรัตนโชติมณีหรือพระหยกเขียว และพระพุทธรัตนสัมฤทธิผล หรือพระหยกขาว ให้ศาสนิกชนสักการะได้


(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/0F243FC031BA405BB47D29AD86BB3252.jpg)

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่บนยอดเขาใน อ.เขาค้อ ล้อมด้วยแนวเขารอบทิศทาง ด้วยความสวยงามของที่ตั้ง ความงดงามของสถาปัตยกรรม และความสำคัญทางศาสนา ทำให้ได้เป็นหนึ่งในสิบ Dream Destinations ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดเป็นสถานที่ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสักครั้ง เป็นแหล่งธรรมและแหล่งเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างภูทับเบิกและเขาค้อ

3.ภูทับเบิกเป็นพื้นที่ทำการเกษตรบนที่สูงของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ตามแนวไหล่เขาเป็นแปลงผัก ผลไม้ดอกไม้ ดูแล้วก็สวยดี แต่หลายคนไม่มองเช่นนั้น เพราะอีกมุมคือภาพเขาหัวโล้นที่คนเข้ามาแผ่วถางป่าและยึดพื้นที่เพื่อทำการเกษตร จนดูเป็นการทำลายมากกว่าพึ่งพิงธรรมชาติ

(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/FE3CBA6BB8F74601B2D037B381A4D5D8.jpg)

ส่วนเขาค้อที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย สุดยอดสถานที่พักตากอากาศหนาวตลอดปี ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งขายที่ดิน เจ้าของที่ต่างตั้งป้ายแบ่งขายที่ดินพร้อมโฉนด ที่ดินถูกแบ่งเป็นบล็อกๆ ถูกทำให้โล่งเตียนพร้อมปลูกอสังหาริมทรัพย์ แต่จะมีใครบ้างกระเป๋าหนักมากว้านซื้อแล้วปลูกป่าแทน

นอกจากนี้ เขาค้อยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ทางการทหารและการเมือง “อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ” คือสิ่งเตือนใจถึงความโหดร้ายของการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) ทั้งสองฝ่ายเป็นคนไทยเหมือนกัน สู้รบตั้งแต่ปี 2511-2525


(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/18722CE159704B59A01F50688DB9F278.jpg)

อนุสรณ์สร้างเป็นแท่งสามเหลี่ยมแทนพลเรือน ตำรวจ และทหาร ที่พลีชีพปกป้องพื้นที่ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย มีรายชื่อผู้เสียสละสลักบนผนัง จำนวน 1,171 รายชื่อ

ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายเวลานี้เหลือเพียงร่องรอยบนผนัง อาวุธปลดประจำการ ป้อมปราการร้างและจุดยุทธศาสตร์ที่ปัจจุบันกลายเป็นจุดชมวิว

“ประวัติศาสตร์กลายเป็นอดีตที่ปัจจุบันเห็นแต่ไม่รู้สึก” ไปเสียแล้ว


(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/EDC734FE038C46989F7790DB8ED772D4.jpg)

4.เส้นทาง “ประวัติศาสน์” แห่ง จ.เพชรบูรณ์ นี้ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดเป็นเส้นทางแรกของโครงการ Super Bonus แห่งวัย โดยใช้ชื่อว่า “สืบสานศาสน์วิถี รักนี้มอบแด่วีรชน” โดยมอบหมายให้สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) เปิดขายทัวร์ให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป

กฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการกองตลาดกลางภาคตะวันออก ผู้ริเริ่มแนวคิดการท่องเที่ยวในกลุ่มผู้สูงวัย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุรวมประมาณ 7.79 ล้านคน หรือร้อยละ12.38 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งคนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปมีอัตราเติบโตสูงที่สุด


(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/F32F34EE46BE42E8AD84196569511F57.jpg)

“คนวัยนี้เป็นคนที่มีฐานะทางสังคม มีเงิน ไม่มีภาระ ไม่ซีเรียสเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ต้องการความสมบูรณ์แบบในการเดินทาง” ผู้อำนวยการกฤษฎา กล่าว

ดังนั้น โครงการนี้จึงตั้งขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของคนสูงวัย และช่วยให้เกิดการใช้จ่ายในวงการท่องเที่ยวทั้งด้านบริษัททัวร์ มัคคุเทศก์ และชุมชน

โครงการ Super Bonus แห่งวัย ประกอบด้วย 8 เส้นทาง ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์ (จัดไปแล้ว)หัวหิน (มี.ค.) ชุมพรระนอง (มี.ค.) จันทบุรี (เม.ย.) ชลบุรีระยอง (พ.ค.) นครพนม สปป.ลาว (มิ.ย.) พิษณุโลกแพร่น่าน (ก.ค.) และ อุดรธานีเลย (ส.ค.) โดยทาง สทอ.ได้ให้บริษัทนำเที่ยว 4 บริษัทเปิดขาย ทั้งนี้ โครงการไม่ได้จำกัดเฉพาะคนที่มีอายุ 55 ปีเท่านั้น แต่เส้นทางและกิจกรรมจะเป็นตัวกรองผู้เข้าร่วมเอง


(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/FD3A0A3CAB0E42B08259D03B257876DA.jpg)

(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/CC85E0720C3E4DA8B24C435519C261E0.jpg)

(http://www.posttoday.com/media/content/2014/02/22/8DDE43A700C149B49629980B5F96404D.jpg)

ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/เที่ยวทั่วไทย/279534/ประวัติศาสน์-เพชรบูรณ์ (http://www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/เที่ยวทั่วไทย/279534/ประวัติศาสน์-เพชรบูรณ์)