สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ปัญหาการซ่อมบูรณะสะพานไม้ (สะพานมอญ) หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ ข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เชื่อมต่อระหว่างบ้านวังกะ หรือหมู่บ้านชาวมอญ หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และหมู่ 3 เขตเทศบาลตำบลวังกะ ยังคาราคาซัง หลังจากสะพานมอญแห่งนี้พังเสียหายจากน้ำป่าที่ไหลหลากลงจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร สู่แม่น้ำซองกาเลีย และพัดพาเอาเศษไม้เศษสวะ รวมทั้งท่อนไม้นานาชนิดมาติดที่สะพานไม้จำนวนมาก และในที่สุดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 สะพานมอญที่ก่อสร้างด้วยไม้แดงก็ไม่สามารถต้านแรงดันของน้ำป่าได้ จึงถล่มลงมา

ถึงขณะนี้แม้เวลาจะล่วงเลย 7 เดือน แต่การซ่อมบูรณะสะพานก็ยังไม่เสร็จสิ้น เหตุจากทางจังหวัดกาญจนบุรีต้องการให้มีการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบราชการที่ต้องใช้เวลานาน ซึ่งต่างจากชาวบ้านที่ต้องการซ่อมแซมโดยการบอกบุญ ใครมีวัสดุอะไรก็เอามาช่วยกัน เหมือนการซ่อมบูรณะ 2 ครั้งที่ผ่านมา
 
นายปกรณ์ น้อยเกตุ นายกเทศมนตรีตำบลวังกะ บอกว่า จังหวัดจะใช้วิธีการซ่อมบูรณะสะพานด้วยการจ้างเหมา ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ทำให้การดำเนินการล่าช้าไปอีก เทศบาลเห็นว่า ทางวัดวังก์วิเวการามมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่พร้อมอยู่แล้ว และยังสามารถระดมกำลังของชาวบ้านในพื้นที่ให้มาช่วยกันซ่อมแซมบูรณะเองได้ ซึ่งเชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะชาวบ้านในพื้นที่ต่างมีประสบการณ์และผ่านการซ่อมบำรุงสะพานมอญมาแล้วทั้งนั้น อีกทั้งเชื่อว่า ถ้าทางจังหวัดจะใช้วิธีแบบรับเหมาก็จะใช้เงินนับสิบล้านบาท เงินที่ใช้จะแตกต่างจากการปล่อยให้ทางวัดดำเนินการเอง เชื่อว่าพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะจะมีจิตอาสาเข้าช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

 :49: :49: :49:

ถ้าเป็นการจัดซื้อจัดจ้างโดยระบบราชการ พลังศรัทธาก็จะเสื่อมถอยลง เพราะสะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของชาว อ.สังขละบุรี ไปแล้ว ที่ผ่านมาเคยถูกต่อว่าเมื่อไหร่ซ่อมสะพานเสร็จเสียที แต่ไม่สามารถตอบคำถามได้ จึงรู้สึกลำบากใจ แต่พยายามอธิบายให้ทุกคนเข้าใจถึงขั้นตอนต่างๆ ปัจจุบันจากการสำรวจปริมาณน้ำในแม่น้ำซองกาเลีย บริเวณสะพานไม้พบว่า

ปริมาณน้ำลดระดับลง ทำให้สะพานลูกบวบลดระดับต่ำลงไปตามผิวน้ำ อีกทั้งไม้ไผ่เริ่มเสื่อมสภาพ อุปสรรคที่พบคือ เมื่อตลิ่งสูงชันขึ้นทำให้ประชาชนและเด็กนักเรียนเดินทางไปมาลำบาก บางรายให้บุตรหลานนั่งรถโดยสารไปโรงเรียน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย เทศบาลเชื่อว่าทางวัดดำเนินการซ่อมเองได้ แต่ติดอยู่ที่ทางจังหวัดรับดำเนินการเอง จากการสอบถามชาวบ้านก็พบว่า ทุกคนอึดอัดใจ แต่ไม่มีใครกล้าพูดทั้งๆ ที่เงินที่จะซ่อมบูรณะก็มีแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้
 
 :96: :96: :96:

ขณะที่ นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังสะพานมอญขาดทางจังหวัดเข้าร่วมแก้ปัญหาตลอด แต่สะพานตั้งในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณและเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม การดำเนินการต่างๆ ต้องมีส่วนราชการเข้าเกี่ยวข้องหลายหน่วย จังหวัดสั่งการให้ ปภ.กาญจนบุรี โยธาธิการ อบจ.กาญจนบุรี และแขวงการทางกาญจนบุรี เข้าดูความเสียหายและพิจารณาสภาพโครงสร้าง

โดยดำเนินการในรูปคณะกรรมการ ที่ผ่านมามีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินช่วยบูรณะ โดยหลักๆ มีกองสลากบริจาค 5 ล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ 2 ล้านบาท รวม 7 ล้านบาท คณะกรรมการหาแนวทางซ่อมแซมไว้คือ งมหาไม้ที่จมในอ่างเก็บน้ำมาใช้เป็นวัสดุซ่อมแซมเพื่อประหยัดงบประมาณบางส่วน แต่น้ำลึก 20 เมตร จึงอาจเกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน จึงยุติการค้นหาและให้รอหน้าแล้งคือเดือนเมษายน เพื่อจะดำเนินการได้
 
 ans1 ans1 ans1

หลังจากนั้นจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการซ่อมบูรณะขึ้นมา โดยมีรองผู้ว่าฯ กาญจนบุรีเป็นประธาน กรรมการได้ประชุมเพื่อหาวัตถุดิบซ่อมแซม พบว่ามี 3 แนวทางที่ดำเนินการได้
    1.ขออนุญาตกรมอุทยานฯ เพื่องมไม้ที่จมน้ำต่อแต่ตรงนี้ไม้ก็ไม่น่าจะมีมากพอซ่อมบูรณะ   
    2.ติดต่อขอความร่วมมือและสนับสนุนจากประเทศเพื่อนบ้านคือพม่า แต่ก็มีปัญหาเกี่ยวกับมติ ครม.ที่ไม่อนุญาตให้นำเข้าไม้ท่อนไม้ซุงได้ จึงติดต่อประสานงานพูดคุยระหว่างประเทศเพื่อขอการสนับสนุนไม้เพื่อใช้ซ่อมแซมครั้งนี้ และ
    3.ซื้อไม้จากท้องตลาด พบว่าไม้ที่ต้องการไม่มีในท้องตลาด ทราบว่าต้องสั่งซื้อจากกัมพูชา ตรงนี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับการจัดหาไม้ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ แม้ทางเจ้าอาวาสจะมาปรึกษาทางจังหวัดว่าทางวัดจะตัดไม้มาซ่อมเอง แต่แนวคิดนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะการตัดไม้เขตอุทยานเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ไม่มีใครอนุญาตได้ต้องยกเลิกไป
 
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวอีกว่า แบบการซ่อมแซมก็เสร็จแล้ว และคงความป็นอัตลักษณ์ของสะพานมอญเหมือนเดิม คาดว่าทางคณะกรรมการซ่อมบูรณะจะมีข้อสรุปภายในเดือนกุมภาพันธุ์นี้ เพื่อจัดทำประกาศหาผู้รับจ้างตามระเบียบทางราชการต่อไป แต่ยืนยันว่า การดำเนินการซ่อมบูรณะโปร่งใสไม่ล่าช้า เพราะการดำเนินการต้องอยู่ภายใต้ระเบียบราชการ เงินบริจาคยังอยู่ครบ ไม่สูญหายไปไหน ทางจังหวัดจึงอยากให้ข้อมูลจริงต่อประชาชนเพื่อมิให้เกิดการเข้าคลาดเคลื่อน

 :25: :25: :25:

ส่วนพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม กล่าวว่า คณะกรรมการซ่อมบูรณะสะพานไม้มีข้อสรุปเรื่องการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ที่ถูกน้ำป่าพัดพังเสียหายโดยวิธีการจ้างเหมาและประมาณราคาไว้ที่ 11 ล้านบาท หากจังหวัดตัดสินใจใช้วิธีการจ้างเหมาจริง ทางวัดก็เคารพการตัดสินใจของทางจังหวัด แต่ขอให้สะพานเป็นสะพานไม้ที่แข็งแรงเหมือนเดิม โดยใช้ไม้แดงหรือไม้ตะเคียนมาซ่อมบูรณะ เดิมการซ่อมบูรณะสะพานดังกล่าวทางวัดใช้วิธีบอกบุญ เมื่อศิษยานุศิษย์และชาวบ้านทราบก็เข้ามีส่วนร่วม มีทั้งบริจาคเป็นเงินและบริจาควัสดุจำเป็นต่างๆ เช่น ไม้ นอต ตะปู ฯลฯ จะมีการว่าจ้างแรงงานในพื้นที่ในการดำเนินการ โดยเป็นแรงงานที่เป็นช่างฝีมือ เนื่องจากการซ่อมสะพานเสี่ยงอันตรายแต่มีค่าแรงไม่แพง
 
สะพานไม้ (สะพานมอญ) แห่งนี้ ซ่อมบูรณะใหญ่มาแล้ว 3 ครั้ง โดยปี 2535 ขณะนั้นหลวงพ่ออุตตมะยังมีชีวิตอยู่ ก็เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน จนทำให้สะพานพังเสียหาย แต่ไม่รุนแรงขนาดนี้ หลวงพ่ออุตตมะก็ใช้วิธีบอกบุญและดำเนินการซ่อมบูรณะสะพานให้กลับมาเหมือนเดิม และเมื่อปี 2552 ก็มีการซ่อมบูรณะสะพานไม้ทั้งหมด โดยวัสดุใช้ไม้แดง ทั้งหมดในวงเงินประมาณ 5 ล้านบาท โดยการซ่อมบูรณะครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของสะพานแห่งนี้

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140225/179650.html#.UxKLLs49S4l (http://www.komchadluek.net/detail/20140225/179650.html#.UxKLLs49S4l)