หัวข้อ: "วัดพระแก้ว" เลื่องชื่อ ติดอันดับ 1 ใน 10 เขตศักดิ์สิทธิ์น่าไปเยือนแห่งเอเชีย เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 03, 2014, 08:55:52 pm "วัดพระแก้ว" เลื่องชื่อ ติดอันดับ 1 ใน 10 เขตศักดิ์สิทธิ์น่าไปเยือนแห่งเอเชีย เว็บไซต์ Touropia.com เว็บไซต์ท่องเที่ยวได้จัดอันดับ 10 วัดเลื่องชื่อที่สุดในเอเชีย ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่น่าไปเยือน โดยอินเดียเป็นประเทศที่มีจำนวนวัดที่น่าไปเยือนติดอันดับมากที่สุด ส่วน “วัดพระแก้ว” วัดคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทยไทยก็ได้ติดอันดับในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน และแต่ละวัดนั้นก็มีความสวยงามและโดดเด่นไม่แพ้กันเลย 10 วัดเลื่องชื่อที่สุดในเอเชีย มีดังนี้ (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542901.JPEG) “นครวัด” สิ่งมหัศจรรย์แห่งกัมพูชา 1.นครวัด ประเทศกัมพูชา (Angkor Wat - Cambodia) “นครวัด” เป็นศาสนสถานตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา นครวัดจัดเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน โดยเริ่มสร้างตั้งแต่สมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 ซึ่งในสมัยก่อนนั้นศาสนสถานแห่งนี้ เป็นเทวสถานของศานาฮินดู ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธในภายหลัง และด้วยความที่นครวัดมีสถาปัตยกรรมอันงดงามตระการตา ตามแบบสถาปัตยกรรมของเขมรในยุคคลาสสิก จึงทำให้ถูกจัดอันดับว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดอันดับต้นๆ และได้กลายมาเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542902.JPEG) พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์แห่ง “บุโรพุทโธ” 2.เจดีย์บุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย (Borobudur - Indonesia) “เจดีย์บุโรพุทโธ” ตั้งอยู่บนเกาะชวา ประเทศอิโดนีเซีย เป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 1293-1393 ห่างจากยอร์กยาการ์ตาไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ความอลังการของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินประมาณ 2 ล้านก้อน เรียงต่อกันเป็นฐานที่ยิ่งใหญ่และมั่นคง จนทำให้องค์การยูเนสโกออกประกาศให้บุโรพุธโธเป็นมรดกของโลก เมื่อปี พ.ศ. 2534 (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542903.JPEG) ประติมากรรมแบบโรมันที่ “บาลเบ็ค” (ภาพ : เว็บไซต์ Touropia) 3. บาลเบ็ค ประเทศเลบานอน (Baalbek - Lebanon) “บาลเบ็ค” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเลบานอน เป็นประติมากรรมแบบโรมันที่มีความโอ่อ่าด้วยเสาสูงใหญ่ และหินแกรนิตเรียงต่อกันสูงราว 21 เมตร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยชาวโรมัน ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยจุดประสงค์ในการสร้างก็เพื่อสักการะเทพเจ้าโรมัน 3 พระองค์ ซึ่งก็คือ เทพจูปิเตอร์ เทพบาคคัส และเทพีวีนัส ความใหญ่โตงดงามของสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นจุดเด่นและสร้างความน่าสนใจให้ประเทศได้ไม่น้อย (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542904.JPEG) “วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ” หรือ “วิหารทองคำ” (ภาพ : เว็บไซต์ Touropia) 4. วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ ประเทศอินเดีย (Harmandir Sahib - India) “วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ” หรือที่รู้จักกันในนาม “วิหารทองคำ” เป็นวิหารสำคัญที่สุดในศาสนาซิกข์ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แต่แล้วเสร็จเมื่อศตวรรษที่ 19 ด้านบนของวิหารถูกปกคลุมไปด้วยทองคำเหลืองเด่นสะดุดตา สะท้อนภาพความสวยงามจากเงาน้ำเสริมให้วิหารแห่งนี้ดูศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นอีกหลายเท่า และตลอดทั้งปีจะมีนักแสวงบุญจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเยี่ยมชม และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเนืองแน่น จนกลายเป็นภาพความสวยงามที่ชมได้ที่นี่เพียงแห่งเดียว (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542905.JPEG) “วัดคิงคะคุจิ” ที่โดดเด่นไปด้วยศาลาทองสะท้อนเงาน้ำ 5. ปราสาทคินคาคุจิ ประเทศญี่ปุ่น (Golden Pavilion - Japan) “ปราสาทคินคาคุจิ” หรือ “ปราสาททองคำ” ตั้งอยุ่ที่เมืองเกียวโต โดยเป็นอดีตบ้านพักตากอากาศของโชกุนโยชิมิสึ แห่งตระกูลอาชิคางะ ซึ่งหลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ. 2493 และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยในสมัยก่อนปราสาทคินคาคุจิถูกสร้างไว้เป็นบ้านพักของโชกุนในช่วงเกษียณ แต่ในภายหลังได้ถูกปรับให้เป็นวัดนิกายเซน ภายในปราสาทมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น โดยพื้นที่ของ 2 ชั้นด้านบนนั้นถูกทาด้วยทองคำเปลว และเมื่อใดที่ปราสาทได้สะท้อนขึ้นมาจากน้ำ ก็เป็นจะกลายเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม ตัดกับธรรมชาติของสวนญี่ปุ่นโดยรอบ (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542906.JPEG) หอบูชาฟ้าเทียนถาน (ภาพ : เว็บไซต์ Touropia) 6. หอบูชาฟ้าเทียนถาน ประเทศจีน (Temple of Heaven - Chaina) “หอบูชาฟ้าเทียนถาน” ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง สถานที่แห่งนี้เป็นศาสนสถานของลัทธิเต๋า สร้างแล้วเสร็จในสมัยจักรพรรดิหยงเล่อ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1963 โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อกราบไหว้ฟ้าดินตามความเชื่อของชาวจีน บริเวณโดยรอบเป็นสวนสาธารณะแห่งใหญ่ ซึ่งมักจะมีประชาชนมาทำกิจกรรม และเดินเล่นเป็นจำนวนมาก และได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2541 (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542907.JPEG) วัดพระแก้ว วัดคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย (ภาพ : เว็บไซต์ Touropia) 7. วัดพระแก้ว ประเทศไทย (Temple of the Emerald Buddha - Thailand) “วัดพระแก้ว” หรือชื่อเต็มในนาม “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" วัดสำคัญที่สุดในกรุงเทพมหานคร ถือได้ว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของประเทศ โดยตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ในเขตพระราชวัง ทัศนียภาพบริเวณนั้นจึงงดงามราวกับเมืองสวรรค์ รายล้อมไปด้วยผืนหญ้าสีเขียวดูสะอาดตา โดยมีจุดไฮไลท์คือ “องค์พระแก้วมรกต” พระพุทธรูปที่หล่อมาจากมณีสีเขียวบริสุทธิ์เนื้อเดียวกันทั้งองค์ ประดิษฐานภายในพระอุโบสถ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาชมความงดงามได้อย่างล้นหลาม (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542908.JPEG) “วัดทักซัง” ตั้งอยู่ริมผา (ภาพ : เว็บไซต์ Touropia) 8. วัดทักซัง ประเทศภูฏาน (Taktsang Dzong - Bhutan) “วัดทักซัง” หรือ “วัดถ้ำเสือ” เป็นวัดที่อยู่ริมโตรกผาสูงถึง 900 เมตรในเมฆหมอกของเทือกเขาหิมาลัย จนเป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วสารทิศ และสร้างความตื่นตาตื่นใจกับให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศภูฏาน (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542909.JPEG) วัดเชนรานัคปุระ (ภาพ : เว็บไซต์ Touropia) 9. วัดเชนรานัคปุระ ประเทศอินเดีย (Ranakpur Temple - India) “วัดเชนรานัคปุระ” ตั้งอยู่ที่รัฐราชสถาน ทางตะวันตกของประเทศ เป็นวัดที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตามแนวเทือกเขาของประเทศอินเดีย วัดแห่งนี้สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง โดยมีโครงสร้างมั่นคงด้วยเสาหินถึง 1,444 ต้น ซึ่งสวยงามตระการตาด้วยลวดลายแกะสลักที่ไม่เหมือนกันสักต้น แถมทั้งภายในและภายนอกอาคารยังเต็มไปด้วยลวดลายแกะสลักที่วิจิตรตรึงใจ (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000002542910.JPEG) วัดบาไฮ” หรือ “วัดดอกบัว” (ภาพ : เว็บไซต์ Touropia) 10. วัดบาไฮ ประเทศอินเดีย (Lotus Temple - India) “วัดบาไฮ” หรือ “วัดดอกบัว” ตั้งอยู่ที่รัฐอุตตรประเทศ เป็นอีกหนึ่งวัดเลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย โครงสร้างของวิหารเป็นหินอ่อนที่ถูกออกแบบให้เป็นรูปดอกบัวตูม บริเวณรอบๆ ถูกล้อมรอบไปด้วยสระน้ำใสสะอาด 9 สระ ทำให้มีลักษณะเหมือนดอกบัวที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำ ซึ่งเป็นประติมากรรมสมัยใหม่ที่สื่อความหมายในทางศาสนาได้อย่างชัดเจน โดยสร้างเสร็จและเปิดให้ประชาชนได้สักการบูชาในปี พ.ศ. 2529 ซึ่งได้มีนักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเยี่ยมชมอย่างล้นหลาม ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000024579 (http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000024579) หัวข้อ: Re: "วัดพระแก้ว" เลื่องชื่อ ติดอันดับ 1 ใน 10 เขตศักดิ์สิทธิ์น่าไปเยือนแห่งเอเชีย เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ มีนาคม 03, 2014, 10:16:44 pm ขออนุโมทนาสาธุ
หัวข้อ: "วัดพระแก้ว" เลื่องชื่อ ติดอันดับ 1 ใน 10 เขตศักดิ์สิทธิ์น่าไปเยือนแห่งเอเชีย เริ่มหัวข้อโดย: nongyao ที่ มีนาคม 04, 2014, 06:55:00 am ชนรุ่นเก่ามีแรงศรัทธาสูง ชนรุ่นหลังจึงมีโอกาสได้เห็น ขออนุโมทนากับแรงศรัทธา
หัวข้อ: Re: "วัดพระแก้ว" เลื่องชื่อ ติดอันดับ 1 ใน 10 เขตศักดิ์สิทธิ์น่าไปเยือนแห่งเอเชีย เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ มีนาคม 04, 2014, 09:58:45 am ศาสนวัตร อารามวัฒน์
เห็นธรรมเห็นศรัทธา หลากคุณค่าสถูปสถาน อิฐขอนเด่นตระหง่าน ศาสน์กล่ำแกร่งอเนกอดุลย์ธรรม เห็นธรรมเห็นสาธน์สร้าง กลบเกลื่อนหมางผสานศาสน์นำ ฆ้องระฆังระงมระกำ ศาสน์ศรัทธาก่ออร่ามอารามเรือง.. ธรรมธวัช.! (http://www.st.ac.th/bhatips/images/yani11.gif) :s_hi: |