สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

"ลำปาง" หรือ "เขลางค์นคร" เมืองเก่าแก่ที่รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรม ผู้คนยังคงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่ประสงค์หลีกหนีความวุ่นวาย สัมผัสธรรมชาติและความงามที่เนิบช้า

เพื่อความเป็นสิริมงคล มาถึงลำปางต้องไปไหว้พระเกจิชื่อดังเมืองลำปาง "หลวงพ่อเกษม เขมโก" พระสายวิปัสสนา ที่สำนักปฏิบัติธรรมสุสานไตร ลักษณ์ ถนนลำปาง-แจ้ห่ม ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม และวัดเจดีย์ซาวหลัง

วัดเจดีย์ซาวหลัง "ซาว" แปลว่า "ยี่สิบ" ส่วน "หลัง" คือ "องค์" ตั้งอยู่บ้านวังหม้อ ต.ต้นธงชัย อ.เมือง ซึ่งห่างจากสุสานไตรลักษณ์ราว 3 กิโลเมตร เพื่อนมัสการพระเจ้าแสนแซ่ทองคำ พระพุทธรูปทันใจ

 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

ส่วน วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดเก่าอายุนับพันปีนี้ เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พ.ศ.1979-2011 เป็นเวลาถึง 32 ปี

ออกจากวัดเลี้ยวขวา ตรงไป ก่อนถึงสุสานไตรลักษณ์ จะเห็นโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ก่ออิฐถือปูนตั้งตระหง่านอยู่ เรียกกันว่าประตูม้าและกำแพงเมืองเขลางค์นคร

ประตูม้าได้ รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 6 มีนาคม 2475 ให้เป็นหลักฐานของเมือง ซึ่งพระนางจามเทวีโปรดให้สร้างขึ้นสำหรับเจ้าอนันตยศ พระราชบุตร ราวพุทธศตวรรษที่ 13 ออกประตูนี้ไป ข้างขวามือเป็นที่ตั้งของสุสานไตรลักษณ์ ที่พำนักปฏิบัติธรรม หลวงพ่อเกษม เขมโก อริยสงฆ์แห่งดินแดนล้านนาผู้มีศีลอันบริสุทธิ์


นาม เดิมว่า เจ้าเกษม ณ ลำปาง บุตรเจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง ต่อมาเปลี่ยนนามสกุลเป็น มณีอรุณ และเจ้าบัวจ้อน ณ ลำปาง เป็นราชนัดดาในมหาอำมาตย์โท พลตรีเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย

พ.ศ.2470 บรรพชา เรียนนักธรรมและสอบได้นักธรรมชั้นโท อายุ 21 ปี อุปสมบท ที่วัดบุญยืน ได้รับฉายาว่า เขมโก แปลว่า "ผู้มีธรรมอันเกษม"

ท่านศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นเอก บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น

 st12 st12 st12

หลวง พ่อเกษมละสังขารอย่างสงบ อายุ 84 ปี ช่วงค่ำวันจันทร์ที่ 15 ม.ค.2539 เวลา 19.40 น. ท่ามกลางความอาลัยของชาวลำปาง และพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศเป็นยิ่งนัก

สำนักปฏิบัติธรรม สุสานไตรลักษณ์ สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เงียบเหงา สานุศิษย์จากทั่วสารทิศยังเดินทางมาไหว้ สรีรสังขารหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่บรรจุในโลงแก้ว ณ มณฑปอาคารทรงไทยประยุกต์ ด้วยศรัทธา อย่างเปี่ยมล้น ในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะวันคล้ายวันเกิด วันที่ 28 พ.ย.ของทุกปี จะมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายแด่หลวงพ่อเกษม ผู้คนจะเดินทางมาร่วมงานอย่างเนืองแน่น


หลังไหว้หลวงพ่อ เกษม เดินอ้อมไปด้านข้างจะเห็นรูปปั้นหลวงพ่อเกษมอยู่ใต้ต้นไผ่ที่ปฏิบัติธรรม ใกล้กันด้านซ้ายมือเป็นกุฏิหลวงพ่อเกษมอยู่ใกล้กับต้นโพธิ์ใหญ่ ผนัง กำแพงรั้วมีตัวอักษรเขียนไว้มากมาย ทั้งยังมีป้ายชี้ชวนเปิดผ้าม่านดูจะเห็นหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อ อยู่ด้านในกุฏิที่ดูเรียบง่าย

ด้านข้างเป็นประกาศเขียนติด ฝาผนังว่า "ประกาศที่นี่ไม่มีเลข" "อยากได้เลขไปเอาที่วัดเกาะ" "มาไหว้ทำไมไม่แปลกอะไร พระไทยเหมือนกัน ไม่ใช่ฝรั่งเยอรมัน เมดอินไทยแลนด์"

เห็นแล้วอมยิ้ม แต่มีหลายข้อความที่ชวนให้ได้คิด!!!

ด้าน ข้างเป็นห้องชีวประวัติโดยย่อ ตกแต่งอย่างเรียบง่ายเช่นกัน ภายในมีภาพถ่ายขาวดำของหลวงพ่อเกษม และพระอาจารย์หลายรูปที่เคยสอนหลวงพ่อ ภาพถ่ายของโยมพ่อโยมแม่ รวมถึงประวัติ

 :25: :25: :25:

นอกจากนี้ยังระบุถึง อาการอาพาธของ หลวงพ่อ ที่เข้ารับการผ่าตัดรักษาตัวจากโรคกระดูกไขสันหลังอักเสบ ที่โรงพยาบาลลำปาง ราวปลายเดือนพฤษภาคม 2535 ครั้งที่สองคือต้อกระจก ต้องผ่าตัดดวงตาทั้งสองข้าง เมื่ออาการดีขึ้นก็กลับไปบำเพ็ญภาวนาอยู่ในสุสานไตรลักษณ์ ก่อนกลับเข้ารักษาตัวอีกครั้ง เนื่องจากหายใจติดขัด แพทย์รักษาอาการอย่างใกล้ชิดและอยู่ในห้องไอซียูตลอดมา พร้อมทำหนังสือนำความกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงทราบ และพระองค์ทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์

หลวงพ่อ เกษมสั่งไว้ก่อนมรณภาพว่า "ห้ามทำปราสาท ห้ามมีฆ้องกลอง ห้ามมีบอกไฟทุกชนิด เขาจะเอามาช่วยก็ไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะสมแก่สมณะกัมมัฏฐาน" ให้ทำตามที่เขียนนี้ดีมาก

เป็นคำสั่งเสียสุดท้าย

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU5ERXhOelUzTkE9PQ==&sectionid= (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU5ERXhOelUzTkE9PQ==&sectionid=)

ขออนุโมทนาสาธุ