หัวข้อ: หลวงพ่อเชิญ ปุญญสิริ สืบสายวิชาหลวงพ่อปาน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 09, 2014, 08:56:08 am (http://www.khaosod.co.th/online/2014/03/13942064551394206475l.jpg) หลวงพ่อเชิญ ปุญญสิริ สืบสายวิชาหลวงพ่อปาน โดย อริยะโลกที่ 6 วัดโคกทอง เดิมวัดตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำน้อย สถานที่ตั้งวัดเป็นที่เนินสูงเรียกว่า "โคก" เป็นที่เลี้ยงวัวควายของชาวบ้าน เมื่อสร้างวัดขึ้นมาแล้ว ได้ขนานนามวัดนี้ว่า "วัดโคกทอง" ในสมัยของ พระครูบวรสังฆกิจ หรือ หลวงพ่อเพิ่ม อดีตเจ้าคณะแขวงเสนา ย้ายมาตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำน้อย ซึ่งเป็นที่ตั้งในปัจจุบัน เพื่อความสะดวกและเหมาะสมยิ่งขึ้น วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2480 ผูกพัทธสีมาเมื่อปี พ.ศ.2492 วัดแห่งนี้มีพระเกจิอาจารย์ ชื่อดัง คือ "พระมงคลวราจารย์" หรือ "หลวงพ่อเชิญ ปุญญสิริ" อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นทายาทที่ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจาก "หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค" หลวงพ่อเชิญ เกิดในตระกูล กุฎีสุข ที่หมู่บ้านดงตาล ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ตรงกับวันที่ 12 เม.ย. 2450 เมื่อ อายุ 5 ขวบ มารดาถึงแก่กรรม จึงต้องอยู่ในความดูแลของบิดาแต่ผู้เดียว อายุ 8 ขวบ บิดาพาไปฝากเรียนหนังสือกับหลวงพ่อขาบ วัดฤาไชย ต.กุฎี อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าเรียนหนังสืออยู่กับหลวงพ่อขาบ 2 ปี จนสามารถอ่านออกเขียนได้ หลวงพ่อขาบ ขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลกุฎี เห็นว่าเป็นเด็กดี ขยันหมั่นเพียร เฉลียวฉลาด จึงนำไปฝากพระครูบวรสังฆกิจ หรือหลวงพ่อเพิ่ม วัดโคกทอง เจ้าคณะอำเภอเสนา ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่มีความรู้ด้านพระปริยัติธรรม เชี่ยวชาญสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน เพียบพร้อมด้วยศีลาจารวัตร นอกจากนี้ ยังเชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนโบราณและเรืองวิทยาคมขลัง เนื่องจากเป็นศิษย์หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า :96: :96: :96: เมื่อมาอยู่วัดโคกทอง คอยรับใช้หลวงพ่อเพิ่มอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติหน้าที่การงานอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความวิริยอุตสาหะและเชื่อฟังคำสั่งสอนเป็นอย่างดี กระทั่งอายุ 16 ปี จึงบรรพชา เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2466 มีหลวงพ่อเพิ่ม เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออายุครบบวช จึงอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโคกทอง เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2470 มี พระอาจารย์องค์แรก คือ หลวงพ่อขาบ วัดฤาไชย เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อเพิ่ม วัดโคกทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดแจ่ม วัดโคกทอง เป็นพระอนุสาว นาจารย์ ได้รับฉายา "ปุญญสิริ" หลังบวชแล้วได้อยู่ช่วยหลวง พ่อเพิ่มบูรณะวัดโคกทอง พร้อมกับศึกษาพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก พ.ศ.2474 ได้รับการแต่งตั้งเป็นฐานานุกรมที่ "พระสมุห์เชิญ" และได้รับการแต่งตั้งเป็น "พระปลัด" ในปี พ.ศ.2480 ท่านจึงต้องทำหน้าที่ทุกอย่างแทนหลวงพ่อเพิ่ม ปฏิบัติภารกิจในตำแหน่งเลขานุการเจ้าคณะอำเภอเสนา ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับแขก ดูแลพระภิกษุสามเณรภายในวัด นับเป็นภารกิจที่หนักมาก แต่ท่านสามารถปฏิบัติด้วยความเรียบร้อยจวบจนหลวงพ่อเพิ่มมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2491 :25: :25: :25: ด้านการศึกษวิทยาคม หลวงพ่อเชิญเป็นพระอาจารย์ที่มีครูบาอาจารย์มาก โดยหลวงพ่อเพิ่มเป็นพระอาจารย์องค์แรกที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ ในคราวที่บวชเณร ได้ติดตามหลวงพ่อเพิ่มไปซื้อซุงที่ชัยนาท ได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อเพิ่ม ท่านจึงโชคดีได้วิชาจากหลวงปู่ศุข เมื่ออุปสมบทในพรรษาแรกก็ไปขึ้นพระกรรมฐานกับหลวง พ่อจง วัดหน้าต่างนอก และเดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อจงอยู่เป็นเวลาหลายปี นอกจากนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค สหธรรมิกหลวงพ่อเพิ่มมาพำนักที่วัดโคกทอง หลวงพ่อเชิญจึงฝากตัวเป็นศิษย์คอยปรนนิบัติรับใช้ แล้วติดตามพายเรือไปส่งและพักเรียนวิชาที่วัดบางนมโคเป็นประจำ st12 st12 st12 พ.ศ.2473 หลวงพ่อเพิ่มพาท่านไปฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์อีกรูปหนึ่งของท่าน คือ "หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ" ซึ่งขณะนั้นท่านชราภาพมากแล้ว ต่อมา พ.ศ.2482 หลวงพ่อเชิญเกิดอาพาธด้วยโรคตาอักเสบจึงเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อพักรักษาตัวอยู่กับหลวงปู่กล้าย วัดหงส์รัตนาราม บางกอกใหญ่ ได้รับการแนะนำวิชาจากหลวงปู่กล้ายอีกรูปหนึ่ง มรณภาพเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2543 สิริอายุ 93 ปี พรรษา 73 ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU5ESXdOalExTlE9PQ==§ionid=TURNd053PT0 (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU5ESXdOalExTlE9PQ==§ionid=TURNd053PT0) |