สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เชียงใหม่เลือก'วัดผ้าขาว' ต้นแบบท่องเที่ยวเชิงพุทธ : ปฏิญญา ศรีสุภมาตุรายงาน

“วัดผ้าขาว” วัดต้นแบบ แห่งการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนากับชาวต่างชาติ และการอนุรักษ์ของเก่าร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ ทั้งยังส่งเสริมการให้ความรู้ด้านศาสนาและประวัติศาสตร์ให้กับชาวต่างชาติ ในหลายภาษา และขยายเวลาเปิดวัด จนถึง 3 ทุ่ม เพื่อให้ผู้ที่สนใจมีเวลามาศึกษาเพิ่มขึ้นจนถึงดึก

นายสวรรค์ แคว้นไธสง นายกสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากนิตยสารท่องเที่ยวระดับโลกโลนลี่แพลนเน็ต ฉบับภาษาไทย ได้จัดอันดับให้ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ประเภทสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประจำปี 2556 เมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้ว ทางสมาพันธ์ฯ จึงมองเห็นว่าควรจะดึงเอาจุดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ก็คือวัฒนธรรม ประเพณี และขนบธรรมเนียมประจำท้องถิ่นที่สวยงาม มีเอกลักษณ์ เชิดชูให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น  โดยจุดศูนย์กลางของวัฒนธรรม ประเพณี ทั้งหลายก็คือ “วัด” นั่นเอง

 :25: :25: :25:

จากประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ กว่า 700 ปี ที่ควบคู่กับพระพุทธศาสนา วัดวาอารามสำคัญ สถานปฏิบัติธรรมในจังหวัดเชียงใหม่จึงมีจำนวนมาก เฉพาะภายในอำเภอเมืองก็มีวัดกว่า 120 วัด แต่ละวัดก็มีจุดเด่น เอกลักษณ์ และประวัติศาสตร์ รวมทั้งมีเอกลักษณ์ศิลปะแตกต่างกัน ซึ่ง“วัดผ้าขาว”เป็นวัดเล็กๆ ที่อยู่ในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก และไม่อยู่ในแผนที่แนะนำท่องเที่ยว

แต่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ของพระมหาสกุล มหาวีโร เจ้าอาวาสวัดผ้าขาว ในการบูรณะรักษาอนุรักษ์ของเก่า แต่ก็มีการพัฒนาผสมผสานด้วยสิ่งใหม่ๆ โดยมีการใช้เทคโนโลยีหลอดไฟ LED ในการสร้างสีสันบรรยากาศ ให้กับจุดสำคัญของวัด สร้างแรงดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ และเน้นรักษาความสะอาด สร้างความร่มรื่นด้วยแมกไม้ และน้ำตกจำลองในวัด ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินเข้ามาเยี่ยมชมจำนวนมาก นับร้อยๆคนต่อวัน


หลังจากมีการพัฒนาปรับภูมิทัศน์ของวัดผ้าขาว เหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติก็ให้ความสนใจจำนวนมาก ทำให้เจ้าอาวาสวัดผ้าขาว ขยายเวลาเปิด-ปิดวัด โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสยามค่ำคืน จนถึง 21.00น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมเพิ่มขึ้น และเนื่องจากวัดอยู่ในพื้นที่ถนนคนเดินวันอาทิตย์ เมื่อปิดดึกขึ้น นักท่องเที่ยวก็มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมความสวยงาม รวมทั้งได้ศึกษาความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาและการเจริญภาวนามากขึ้น แทนที่นักท่องเที่ยวจะเข้าบาร์ ผับ จำนวนมาก ที่อยู่รายล้อมวัด เนื่องจากเป็นย่านท่องเที่ยว นับเป็นตัวอย่างของการส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรม "สืบฮีตสานฮอยผ่อกอยวัฒนธรรมล้านนา" 

 :96: :96: :96:

วัดผ้าขาว ยังถือต้นแบบนำร่องวัดที่เน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยใช้หลัก 3 ส. คือ สว่าง สะอาด สงบ  โดยได้เกิดโครงการ "พัฒนาวัดวาอารามเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน" ด้วยความร่วมมือของ ททท.สำนักงานเชียงใหม่, สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่, สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่, สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดกิจกรรมด้วยการทำวัตรเย็นร่วมกัน ถวายผ้าป่า สานเสวนาในหัวข้อวัฒนธรรมเชียงใหม่ จะก้าวไกล และยั่งยืนได้อย่างไร พร้อมกับมอบประกาศเกียรติบัตรแด่ พระมหาสกุล มหาวีโร เจ้าอาวาสวัดผ้าขาว ผู้มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนา อีกด้วย

อย่างไรก็ตามหน่วยงานภาคี จะได้มีการสำรวจวัดรอบคูเมืองตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อค้นหาวัดที่มีการพัฒนาโดดเด่น มีความพร้อมที่จะร่วมโครงการเป็นวัดต่อไป รวมทั้งประสานคณะสงฆ์ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในหัวข้อการบูรณาการร่วมกัน พัฒนาวัดวาอาราม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  โดยมองว่าหากสามารถสร้างให้เกิดวัดที่มีความโดดเด่น ดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่นวัดผ้าขาว ได้ทั่วตัวเมืองก็จะเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดเชียงใหม่ได้อีก หลายเท่าตัว


พระมหาสกุล มหาวีโร เจ้าอาวาสวัดผ้าขาว เปิดเผยว่า“วัดผ้าขาว”เป็นวัดตัวอย่างที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ ศึกษา ประวัติศาสตร์และอนุรักษ์วัตถุโบราณ โดยมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมของเก่าของวัด และวัตถุโบราณ รวมทั้งหนังสือเอกสารโบราณรวบรวมเอาไว้ และยังใช้การบูรณะวิหารอาคารโบราณ อนุรักษ์ให้เหมือนอดีตมากที่สุด ไม่เปลี่ยนแปลง อนุรักษ์สิ่งเดิมไว้ แต่ก็อยู่ในกระแสโลกาภิวัฒน์ ตามโลกให้ทัน โดยใช้การเพิ่มเทคโนโลยีแสง จากหลอดไฟ LED 14 สีรุ่นใหม่ล่าสุด ในการสร้างบรรยากาศ ทำให้เกิดความสงบในจิตใจ เกิดความเลื่อมใส และเสริมจุดเด่นดึงดูด ให้กับในตัววิหาร พระประธาน และองค์เจดีย์ แทน

โดยในเวลาอันใกล้จะได้มีการนำพระนักเทศน์ มาบรรยายให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ของจังหวัดเชียงใหม่ ประวัติกษัตริย์เชียงใหม่ และหลักธรรมมะ ทั้งภาษาไทย จีน อังกฤษ และฝรั่งเศส ต่อไป สร้างองค์ความรู้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทางวัดได้มีอีกโครงการคือ มังค์แชต หรือพระนักสื่อสาร ที่จะให้พระเณรในวัดได้มีโอกาสสื่อสารให้ความรู้ด้านต่างๆ กับชาวต่างชาติ เป็นการแลกเปลี่ยน พระ เณรก็ได้ฝึกภาษา ชาวต่างชาติ ก็ได้ความรู้ ความเลื่อมใสกลับไป

 st12 st12 st12

วัดผ้าขาว เน้นความสะอาด และสว่าง โดยความสะอาดมีอยู่ 2 ทาง หนึ่งคือสะอาดทางโลก ได้แก่ความสะอาดตา สวยงาม ประทับใจ ยามพบเห็น สองคือสะอาดทางธรรม สะอาดด้วยศีล ส่งเสริม ให้เกิดศีล สงบ สมาธิตั้งมั่น สะอาดใจ โดยทางวัดจะไม่มีเสียงอึกทึก มีแต่เสียงสวดมนต์ เสียงน้ำตก และเสียงธรรมชาติ ส่วนด้านความสว่าง หนึ่งคือสว่างด้วยแสงไฟ ที่ใช้ประกอบ สร้างความสงบในจิตใจ และจะสร้างให้เกิดความสว่างที่สอง คือสว่างในใจ คือสว่างในธรรมมะตามมา

    “ส่วนมากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินเข้ามาเอง ด้วยความสวยงามสะดุดตาจากที่มองนอกประตูวัด เพราะวัดตั้งอยู่ในย่านที่มีผับ บาร์ และความเจริญวุ่นวาย แต่ภายในประตูวัด เหมือนอยู่อีกโลก ภูมิทัศน์ที่มีแต่สีเขียว ต้นไม้ และความน่าเลื่อมใส เคยสังเกตว่าชาวต่างชาติ ทั้งจีน ฝรั่ง เมื่อเดินผ่านมาแถวนี้ก็ต้องเดินเข้ามาเหมือนโดนดึงดูด นับได้ ร้อยกว่าคนต่อวัน และส่วนใหญ่ต่างชาติจะมาเดินแถวนี้กันมากในช่วงเย็นๆค่ำๆ ถึงได้ขยายเวลา ให้เปิดถึง 21.00น.และอาจจะ ขยายได้ถึง เที่ยงคืน ในอนาคต ”พระมหาสกุล มหาวีโร กล่าว

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140327/181720.html#.UzOopKI9S4k (http://www.komchadluek.net/detail/20140327/181720.html#.UzOopKI9S4k)

 st12 st12 st12