หัวข้อ: จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ หรือ จิตที่ไม่เคยฝึก มักจะเป็นทุกข์มาก เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ เมษายน 14, 2014, 09:51:19 am (https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1.0-9/10177966_619827681432023_8602901254424239900_n.jpg)
หลาย ๆ ท่าน มักถาม อาตมาว่า ทำไมเวลาทุกข์ เข้ามา รู้สึกทุกข์ มาก โกรธมาก คลั่งแค้นมาก หรือ หลงรัก หลงชัง เป็นอย่างมาก คำตอบก็คือ ท่านทั้งหลาย มัวแต่ พกพระธรรม แบบท่องจำ ไม่ได้ ภาวนา เข้าไปในใจ นะสิ ถึงได้ทุกข์มาก ร้อนรนมาก เพราะไม่เคยฝึกภาวนา เพื่อจะรับมือกับข้าศึก คือ อกุศล ที่ทุกข์เจียนตาย ร้องไห้คร่ำครวญ ก็เพราะว่า ไม่มีการฝึกจิตให้มีเกราะป้องกัน พระอริยะบุคคลท่านก็ต้องเพียรสร้างเกราะป้องกันตั้งแต่ พระโสดาบัน จนถึง พระอนาคามี ท่านก็ต้องผ่านการฝึกจิต ตามพระธรรม จิตตัง ทันตัง สุขาวะหัง จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ หากท่านทั้งหลาย มีการหมั่นภาวนา มากขึ้น หรือ กระทำเป็นประจำ ทุกข์ ทั้งหลาย ก็จะเบียดเบียนท่านทั้งหลาย ไม่ได้เลย เจริญธรรม / เจริญพร ธัมมะวังโส 14 เม.ย. 57 หัวข้อ: Re: จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ หรือ จิตที่ไม่เคยฝึก มักจะเป็นทุกข์มาก เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ เมษายน 14, 2014, 05:08:46 pm บัณฑิต ไฉน!
รักชังทุกข์ถาม ลิขิตผิดพล่าม ขะมุกขะมอม นั่งนับธรรมวิจัย จารหทัยเนื่องน้อม ทัณฑ์ทุกข์รั้วล้อม สุขเสื่อมเอือมไฉน รักชังทุกข์คร้าน อ้างบ่าวกล่าวพล่าน ถลากถลำเถลไถล พุทโธหงายคว่ำ เพียรพร่ำธรรมวิกรัย ธรรมะทำไม หนอนไชตำรา ธรรมธวัช.! :banghead: ask1 :98: ans1 :13: หัวข้อ: Re: จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ หรือ จิตที่ไม่เคยฝึก มักจะเป็นทุกข์มาก เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ เมษายน 14, 2014, 08:44:57 pm st12ขออนุโมทนาสาธุ
หัวข้อ: Re: จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ หรือ จิตที่ไม่เคยฝึก มักจะเป็นทุกข์มาก เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ เมษายน 15, 2014, 08:54:16 am st11 st12 thk56
หัวข้อ: Re: จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ หรือ จิตที่ไม่เคยฝึก มักจะเป็นทุกข์มาก เริ่มหัวข้อโดย: modtanoy ที่ เมษายน 20, 2014, 04:44:41 pm แล้วฝึกอย่างไร โดยไม่ท่องจำ พุทโธ ก็ท่องจำไม่ใช่ หรือ ?
:49: หัวข้อ: Re: จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ หรือ จิตที่ไม่เคยฝึก มักจะเป็นทุกข์มาก เริ่มหัวข้อโดย: สถาพร ที่ เมษายน 21, 2014, 04:46:20 am พุทโธ ถ้าไม่ผนวก ลงฐานจิต ก็เป็นท่อง
แต่ถ้า ผนวกลงฐานจิต ก็เป็นการภาวนา จำมาจาก คำบรรยายภาวนา ของพระอาจารย์สนธยา ธัมมะวังโส ปล. คนรู้ดี เป็นผู้เจริญ คนรู้ชั่ว เป็นผู้เสิื่อม ผมว่าถ้ากำลังวิจารณ์ และใช้คำแรง ต่อครูอาจารย์ แล้ว ผมว่า ไปอ่าน ปรายนะสูตร ให้ดี ก่อนนะครับ เพราะว่ามีความเสี่ยง ที่คุณจะเพลี่ยงพล้ำต่อการภาวนา ถ้าหากว่าคุณ คิดว่า คุณภาวนาได้ดีกว่าพระอาจารย์ที่นี่แล้ว ผมว่าคุณคิดใหม่เถอะ เพราะว่าผมได้เจอตัวจริงแล้ว และพิสูจน์มาแล้ว แค่เรื่องฌาน ผมนั่งกรรมฐานกับท่านอยู่ครั้งหนึ่ง ผมนั่งได้แค่ สามชั่วโมง เหงื่อแตกเลย แต่พระอาจารย์ยังนั่งต่อได้ เป็นวัน นี่คื่อเรื่องแรก ที่ผมประจักษ์มาด้วยตนเอง เลยไม่กล้าดูแคลนพระอ้วน ๆ อย่างเมื่อก่อน ย้ำ นะครับ คนรู้ดี เป็นผู้เจริญ คนรู้ชั่ว เป็นผู้เสิื่อม :s_hi: หัวข้อ: Re: จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ หรือ จิตที่ไม่เคยฝึก มักจะเป็นทุกข์มาก เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ เมษายน 21, 2014, 10:34:40 am ตั้งฐานจิต ภาวนาพุทโธ บริกรรมใส่ในฐานจิต
ทำแค่นี้แหละ ก็จะพ้นจากคำว่า ท่องจำ แล้ว แต่จะทำได้หรือไม่ ก็อยู่ที่ความเพียร ของคุณ เจริญธรรม / เจริญพร ;) หัวข้อ: Re: จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ หรือ จิตที่ไม่เคยฝึก มักจะเป็นทุกข์มาก เริ่มหัวข้อโดย: lomtong ที่ เมษายน 21, 2014, 04:26:27 pm แล้วฝึกอย่างไร โดยไม่ท่องจำ พุทโธ ก็ท่องจำไม่ใช่ หรือ ? ตั้งฐานจิต ภาวนาพุทโธ บริกรรมใส่ในฐานจิต น่าจะได้คำตอบบางส่วนแล้วนะครับ ถึงแม้ผมอ่านแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ เรื่อง ฐานจิต อยู่ดี คุณ modtanoy ช่วยหยอดต่อหน่อยครับ เพราะรู้สึกว่า คุณจะมีความกล้ามาก ๆ ที่กล้า ถาม กล้า ตำหนิ ครูอาจารย์ ถ้าอย่างไร ช่วยถามหยอดต่อหน่อยนะครับ แต่ ผลกรรมนั้น ไม่ต้องยกมาให้ผมนะครับ จะขอบคุณมาก thk56 :49: |