หัวข้อ: แนะนิสิต 'มจร' วิจัยร่วม "แก้ท้องก่อนวัยอันควร" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 21, 2014, 09:50:05 am (http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2014/04/20/7beikf6ea9fb75jifg9e9.jpg) แนะนิสิต'มจร'วิจัยร่วมแก้ท้องก่อนวัยอันควร แนะนิสิต'มจร'วิจัยท้องก่อนวัยอันควร มีส่วนร่วมแก้ปัญหาสังคม : สำราญ สมพงษ์รายงาน พระก็คือคนในสังคมที่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีความต้องการที่จะฝึกตนตามหลักศาสนาให้สูงขึ้น จึงตัดอาลัยในเพศฆราวาสออกบวชศึกษาปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย เมื่อเป็นผู้พ่ายกลับสู่เพศฆราวาสอีกก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติและไม่มีอะไรที่จะปิดกั้นให้เขาฝึกตนตามหลักไตรสิกขาได้ พระนอกจากจะศึกษาปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยแล้ว ยังมีหน้าที่อีกประการหนึ่งก็คือการหาดาวน์ไลน์สร้างเครื่อข่ายหรือเน็ตเวิร์กของผู้ศึกษาปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคม ไม่ใช่จะแสวงหาความสงบสันติสุขส่วนตนเท่านั้น ซึ่งตามศัพท์วิชาการเรียกว่า "การบริการสังคม" การจะมีความสามารถในการหา "ดาวน์ไลน์สร้างเครื่อข่ายหรือเน็ตเวิร์ก" ให้ได้มากนั้น ก็จะต้องมีเทคนิควิธี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร)เป็นมหาวิทยาลัยของคณะสงฆ์ไทยมีหน้าที่ในการให้เทคนิคและวิธีการดังกล่าว ซึ่งเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงเอกหลายสาขา พร้อมกับมีวิสัยทัศน์ในการให้บริการสังคมด้วยไม่ใช่เพียงผลิตบัณฑิตอย่างเดียว :49: :49: :49: คณะสังคมศาสตร์ถือได้ว่ามีความใกล้ชิดกับคำว่า "สังคม" มากที่สุด เพื่อให้งานด้านการบริการสังคมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจึงได้เปิดหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการพัฒนาสังคม โดยมีผศ.ดร.โกนิฏฐ์ ศรีทอง เป็นผู้อำนวยการ ขณะนี้เปิดการเรียนการสอน 2 รุ่นแล้ว มีนิสิตทั้งสิ้นจำนวน 121 รูป/คน และอยู่ในช่วงของการทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งพระนิสิตส่วนใหญ่จะเป็นพระสังฆาธิการะดับเจ้าคณะต่างๆ เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยของนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา ครั้งที่ 1 ขึ้นที่ มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พระศรีคัมภีรญาณ รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ เป็นประธานเปิดพร้อมให้คำแนะนำว่า งานวิจัยนั้นจะต้องมีผลคือมีความเป็นวิชาการ ส่งเสริมการประกอบอาชีพได้ ช่วยในการดำเนินชีวิตประจำวัน และต้องมีหลักคิดในการพัฒนาสังคมอย่างไร เพราะสถานการณ์ปัจจุบันนี้ต้องการคำตอบจริงๆที่แก้ปัญหาสังคมได้อย่างเช่น คนไทยติดอันดับเท่าใดของอาเซียนในการทำแท้งท้องก่อนวัยอันควร ปัจจุบันคนไทยเป็นโรคจิตเภทเท่าใด แล้วงานวิจัยนี้จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร หรืออย่างเช่นช่วงสงกรานต์พระสังฆาธิการที่ทำวิจัยลองลงพื้นที่จริงศึกษาดูว่าปัญหาจริงเกิดจากอะไรทำไมคนถึงตายมาก "งานวิจัยนั้นจะต้องทำให้มีความรู้สึกว่าเป็นทฤษฎีกินได้คือการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนต้องมาก่อน นโยบายเรื่องท้องอิ่มนั้นยังถือว่าใช้ได้ และพระสังฆาธิการลองเข้าไปดูว่าโครงการของรัฐในพื้นที่ที่ไร้ประโยชน์มีอะไรบ้างเป็นต้น" รองอธิการบดี มจร กล่าว :96: :96: :96: อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้มีบทความผลงานวิจัยของนิสิตที่น่าสนใจอย่างเช่น อิทธิพลของสื่อมวลชนต่อการพัฒนาสังคมในกรุงเทพมหานคร การบริหารจัดการในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักพรหมวิหาร 4 ของบริษัทจอยแอนคอยน์ คอร์ปอเรชั่น การพัฒนสังคมตามหลักสาราณียธรรมของ อบต.แข้ จ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ การประยุกต์ใช้พรหมวิหารธรรมในการสร้างสันติสุขในเขตตำบลบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ การศึกษาชุมชนต้นแบบต่างศาสนาที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติในแขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กทม. ทั้งนี้ผศ.ดร.โกนิฏฐ์ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการได้รายงานความว่า มจร ได้อนุมัติหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาสังคม คณะสังคมศาสตร์ และโครงการเปิดสอนหลักสูตร ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2554 แต่เนื่องจากเกิดภาวะอุทกภัยในกรุงเทพมหานครและหลายจังหวัดในภาคกลาง จึงไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ จนเมื่อปีการศึกษา 2555 ได้เปิดรับนิสิตเข้าศึกษาหลักสูตรนี้ เป็นรุ่นที่ 1 จำนวน 74 รูป/คน และปีการศึกษา 2556 เป็นรุ่นที่ 2 จำนวน 47 รูป/คน รวมมีนิสิต ทั้งสิ้นจำนวน 121 รูป/คน หลักสูตรนี้ได้รับการรับทราบจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาแห่งชาติ/สกอ. การรับรองคุณวุฒิจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน/ก.พ. และสำนักงานข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา/ก.คศ. เรียบร้อยแล้ว และในปีการศึกษานี้ ได้มีนิสิตผ่านการสอบป้องกันวิทยานิพนธ์และจะได้นำเสนอผลงานวิจัยจากวิทยานิพนธ์ จำนวน 45 รูป/คน :03: :03: :03: สำหรับการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยของนิสิตครั้งนี้ หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาสังคม คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ร่วมกับภาคีเครือข่าย คือ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และโครงการ “สังฆพัฒนาเสวนา : แนวคิด อุดมการณ์ และการสร้างเครือข่ายทางสังคม” สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้นิสิตระดับบัณฑิตศึกษามีเวทีในการนำเสนอผล งานวิจัยและสร้างบรรยากาศทางวิชาการ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการเรียนการสอน และการวิจัยในระดับบัณฑิตศึกษา และเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาอื่นๆ มีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารและคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิต จากคณะสังคมศาสตร์และสถาบันการศึกษาอื่นๆ เข้าประชุม จำนวนทั้งสิ้น 80 รูป/คน :s_hi: :s_hi: :s_hi: อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการดำเนินงานคาดว่า ผลของการจัดประชุมวิชาการครั้งนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการพัฒนาสังคมเพื่อสร้างคุณค่าและการใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น อันเป็นการประกันคุณภาพการศึกษาของการจัดการเรียนการสอนด้านนี้ อนึ่ง การจัดสัมมนาครั้งนี้ หลักสูตรได้รับความเอื้อเฟื้อทางวิชาการในการพิจารณากลั่นกรองบทความจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัย มหามกุฏราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี และคณะกรรมการวิพากย์บทความทุกท่าน หวังเป็นอย่างยิ่งว่างานวิจัยดังกล่าวจะมีส่วนช่วยคนในชุมชนต่างๆ ให้อยู่ร่ามกันอย่างสันติสุขได้ในภาวะการเมืองที่เกิดความขัดแย้งรุ่นแรงอยู่ขณะนี้ และพระคงจะต้องมีส่วนตรงนั้น แทนที่จะไปร่วมเดินขบวนถือหางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ขอบคุณภาพและบทความ http://www.komchadluek.net/detail/20140420/183182.html (http://www.komchadluek.net/detail/20140420/183182.html) หัวข้อ: Re: แนะนิสิต 'มจร' วิจัยร่วม "แก้ท้องก่อนวัยอันควร" เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ เมษายน 21, 2014, 12:10:14 pm :25: st11 :96: st12 :72: :s_good:
|