สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 15, 2014, 08:50:06 am



หัวข้อ: "การให้" มีความสุขกว่าความมั่งมี
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 15, 2014, 08:50:06 am

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/903/5903/images/MaeChee/MaeChee_010.jpg)

"การให้" มีความสุขกว่าความมั่งมี
บทความ โดย ทวี มีเงิน
เสาร์ สบายๆ มาฟังเรื่องเบาๆ หลังจากต้องฟังเรื่องหนักอย่างการเมืองและเศรษฐกิจมาทั้งสัปดาห์ หยิบเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเพราะช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลงานบุญต่างๆ เริ่มชุก หลายคนก็บ่นว่าต้องเสียภาษีสังคมพอๆ กับเสียภาษีให้รัฐบาล

บังเอิญ เคยมีการสำรวจเรื่อง "การให้" โดยมูลนิธิการกุศล "ชาริตี้ เอด ฟาวเดชั่น" ในอังกฤษ ได้ศึกษาสำรวจเกี่ยวกับ "การให้" หรือบริจาคและทำงานเพื่อการกุศลของประชาชน 153 ประเทศทั่วโลก

 ans1 ans1 ans1

ผลสำรวจพบว่า การมี "ความสุข" กับ "การให้" มีความเกี่ยวเนื่องมากกว่า "ความมั่งมี" กับ "การให้" ประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีความสุข ความพึงพอใจ จะให้มากกว่าประชาชนในประเทศที่ไม่มีความสุข

อันนี้ก็คงจริง เพราะคนที่ไม่มีความสุขคงไม่มีจิตใจอยากจะให้อะไรใคร

คงสงสัยว่าแล้วประเทศไหนที่ประชาชนให้หรือบริจาคการกุศลมากที่สุด ปรากฏว่า ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อันดับหนึ่ง สหรัฐมาที่ 5 ประเทศที่นับถือศาสนาพุทธอย่าง ศรีลังกาอันดับ 8 ลาวอันดับ 11 พม่าอันดับ 22 ส่วนไทยอันดับ 25

 :25: :25: :25:

สำหรับการสำรวจพฤติกรรมการให้พบว่ามี 3 แบบคือ การบริจาคเงิน การให้เวลาในการทำงานและการช่วยเหลือคนแปลกหน้า

ผลการสำรวจ 153 ประเทศพบว่า ยิ่งคนเรามีความสุขมากเท่าใดยิ่งให้มากเท่านั้น และคนที่มีความสุขไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน จะมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และให้มากกว่าคนที่ไม่มีความสุข

ในการจัด อันดับประเทศในรายงาน The Word Giving Index น่าแปลกใจในบรรดาประเทศที่ประชาชนให้เพื่อการกุศลมาก 20 อันดับแรก ราวครึ่งหนึ่งอยู่ในประเทศเศรษฐกิจใหญ่ของโลก เช่น สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐ อังกฤษ ราวอีกครึ่งอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ศรีลังกา ลาว มอลตา กินี เป็นต้น

 st12 st12 st12

"ดร.จอห์น โลว์" ผู้บริหารมูลนิธิกล่าวว่า การให้เวลาและเงินทองช่วยเหลือผู้อื่นโดยสมัครใจอาสานั้น นักสังคมศาสตร์เห็นว่าเป็นเครื่องหมายของการโยงใยเกาะเกี่ยวผสมผสานอันแน่น แฟ้นในสังคม ซึ่งเกือบทุกชาติ ทุกศาสนาและวัฒนธรรมล้วนมีธรรมเนียมในการให้ตามแบบของตน ด้วยเหตุปัจจัยและสภาวะสังคมต่างกันไป และเห็นว่าระดับการให้นั้นแสดงถึงความเข้มแข็งของสังคม

ถ้าเรารู้จักให้ ไม่ว่าให้สิ่งของ ให้อภัย หรือให้โอกาส สังคมคงน่าอยู่ขึ้นเยอะว่าไหม


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU9UQTBORFF3TlE9PQ==&sectionid= (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU9UQTBORFF3TlE9PQ==&sectionid=)