หัวข้อ: ท่านผู้ใด รู้คำศัพท์ พวกนี้ช่วยแปลให้หน่อย คะ ได้ยินบ่อยมากในรายการ เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ พฤษภาคม 21, 2014, 06:23:25 am ask1
ท่านผู้ใด รู้คำศัพท์ พวกนี้ช่วยแปลให้หน่อย คะ ได้ยินบ่อยมากในรายการ 1.พระโยคาวจร 2.โครตรภู 3.สัมมสนญาณ 4.อุปาทายรูป 5.อุปาทินนกธาตุ 6.กายทิพย์ 7.กายละเอียด 8.กายหยาบ 9.จิตทิพย์ 10.ฐานจิต คือบางครั้งก็ไม่เข้าใจกับคำศัพท์ เหล่านี้ ว่าหมายถึงสิ่งใดกันแน่ ขอบคุณล่วงหน้า ขอทุกท่านตั้งมั่นในบุญ ยามเช้า วันอัฏฐมีบูชา นะคะ :58: :49: thk56 หัวข้อ: Re: ท่านผู้ใด รู้คำศัพท์ พวกนี้ช่วยแปลให้หน่อย คะ ได้ยินบ่อยมากในรายการ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 27, 2014, 10:19:37 am ask1 ans1 ans1 ans1 โยคาวจร ผู้หยั่งลงสู่ความเพียร, ผู้ประกอบความเพียร, ผู้เจริญภาวนา คือ กำลังปฏิบัติสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน เขียน โยคาพจร ก็มี โคตรภู ผู้ตั้งอยู่ในญาณซึ่งเป็นลำดับที่จะถึงอริยมรรค, ผู้อยู่ในหัวต่อระหว่างความเป็นปุถุชนกับความเป็นอริยบุคคล สัมมสนญาณ ญาณหยั่งรู้ด้วยพิจารณานามรูปโดยไตรลักษณ์, ญาณที่พิจารณาหรือตรวจตรานามรูปหรือสังขาร มองเห็นตามแนวไตรลักษณ์ คือ รู้ว่า ไม่เที่ยง ทนอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน (ข้อ ๓ ในญาณ ๑๖) อุปาทายรูป รูปอาศัย, รูปที่เกิดสืบเนื่องจากมหาภูตรูป, อาการของมหาภูตรูป ตามหลักฝ่ายอภิธรรมว่า มี ๒๔ คือ ก. ประสาท หรือ ปสาทรูป ๕ ได้แก่ จักขุ ตา, โสต หู, ฆานะ จมูก, ชิวหา ลิ้น, กาย, มโน ใจ ข. โคจรรูป หรือ วิสัยรูป (รูปที่เป็นอารมณ์) ๕ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (โผฏฐัพพะ ไม่นับเข้าจำนวน เพราะตรงกับปฐวี เตโช วาโย ซึ่งเป็นมหาภูตรูป) ค. ภาวรูป ๒ ได้แก่ อิตถีภาวะ ความเป็นหญิง และ ปุริสภาวะ ความเป็นชาย ง. หทัยรูป ๑ คือ หทัยวัตถุ หัวใจ จ. ชีวิตรูป ๑ คือ ชีวิตินทรีย์ ภาวะที่รักษารูปให้เป็นอยู่ ฉ. อาหารรูป ๑ คือ กวฬิงการาหาร อาหารที่กินเกิดเป็นโอชา ช. ปริจเฉทรูป ๑ คือ อากาศธาตุ ช่องว่าง ญ. วิญญัติรูป ๒ คือ กายวิญญัติ ไหวกายให้รู้ความ วจีวิญญัติ ไหววาจาให้รู้ความ คือพูดได้ ฎ. วิการรูป ๕ อาการดัดแปลงต่างๆ ได้แก่ ลหุตา ความเบา, มุทุตา ความอ่อน, กัมมัญญตา ความควรแก่งาน, (อีก ๒ คือ วิญญัติรูป ๒ นั่นเอง ไม่นับอีก) ฏ. ลักขณรูป ๔ ได้แก่ อุปจยะ ความเติบขึ้นได้, สันตติ สืบต่อได้, ชรตา ทรุดโทรมได้, อนิจจตา ความสลายไม่ยั่งยืน (นับโคจรรูปเพียง ๔ วิการรูป เพียง ๓ จึงได้ ๒๔) อุปาทินนกสังขาร สังขารที่กรรมครอบครอง พูดเข้าใจกันอย่างง่ายๆ ว่า สังขารที่มีใจครอง เช่น คน สัตว์ เทวดา (ข้อ ๑ ในสังขาร ๒) - อีกคำหนึ่งซึ่งน่าจะมีความหมายเดียวกัน คือ อุปาทินนกรูป - ส่วนคำว่า อุปาทินนกธาตุ น่าจะมีความหมายใกล้เคียงกัน เพราะรูปจะประกอบด้วยธาตุ ๖ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุอากาศ และธาตุวิญญาณ คำว่า "กายทิพย์" หมายถึง เทวดา ผมได้อธิบายไว้แล้วใน กระทู้นี้ กายทิพย์ คือ อะไร ต่างกับ มโนมยิทธิ อย่างไร คะ และ บุคคลประเภทไหน ถึงจะมีกายทิพย์ได้ คะ http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=13928.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=13928.0) คำว่า "กายละเอียด" และ "กายหยาบ" นั้น ไม่ปรากฏในบาลีและอรรถกถา น่าจะถุกบัญญัติไว้โดยอรรถกถาจารย์รุ่นหลังในชั้นฎีกาลงไป แต่ละสำนักจะอธิบายต่างกันออกไป คำอธิบายที่พอสรุปได้กว้างๆ น่าจะเป็นแบบนี้ (แต่ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด) กายหยาบ คือ กายของมนุษย์ที่ประกอบด้วยธาตุ ๖ กายละเอียด คือ เป็นกายทิพย์ของมนุษย์ แต่หยาบกว่ากายทิพย์ของเทวดาและพรหม คำว่า "จิตทิพย์" ไม่ขออธิบาย ดูจะเฟ้อไป คิดเอาเองครับ คำว่า "ฐานจิต" พูดแบบกำปั้นทุบดิน ก็คือ ที่ตั้งของจิตนั่นเอง เรื่องนี้ต้องปฏิบัติเท่านั้น จึงจะเข้าใจแจ่มแจ้ง ขอคุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ :49: หัวข้อ: Re: ท่านผู้ใด รู้คำศัพท์ พวกนี้ช่วยแปลให้หน่อย คะ ได้ยินบ่อยมากในรายการ เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ พฤษภาคม 28, 2014, 06:23:41 am thk56 st12 st12 :58:
นึกว่าจะไม่มีใครตอบแล้ว ซะอีก |