|
หัวข้อ: ปลุกเยาวชนตื่นรู้ ท่องพุทธวจน มีธรรมะยึดเหนี่ยวใจ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 28, 2014, 09:52:49 am (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/696687.jpeg) ปลุกเยาวชนตื่นรู้ ท่องพุทธวจน มีธรรมะยึดเหนี่ยวใจ ผ่านไปแล้วหนึ่งปีกับ “โครงการชวนน้องท่องพุทธวจน” ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นโครงการที่เปรียบเสมือนการฉีดวัคซีนธรรมะ เพื่อให้เด็กอยู่ในศีลในธรรม ผลปรากฏว่า เด็ก ๆ ที่เข้าร่วมโครงการมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เห็นได้จากความชื่นชมยินดีของบรรดาผู้ปกครอง เช่น ในการจัดประกวดรอบแรกของปีที่ผ่านมา มีผู้ปกครองของเด็กออทิสติก โทรศัพท์ไปขอบคุณที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โคราช ว่า พอลูกได้มาท่องพุทธวจนแล้วทำให้ลูกมีสมาธิดีขึ้น หรือที่จังหวัดสมุทรสงครามก็มีผู้ปกครองคนหนึ่งบอกว่า รู้สึกงงกับพฤติกรรมของลูกที่เปลี่ยนไป เพราะอยู่ ๆ ก็มากราบเท้าแม่ ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งพอไปถามคุณครูถึงได้รู้ว่า ลูกเข้าร่วมโครงการท่องพุทธวจน และได้ท่องพระสูตรที่ว่าด้วย “การตอบแทนคุณบิดามารดาอย่างสูงสุด” แสดงว่าการที่เราให้เด็กได้ท่องบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จนเข้าใจความหมายเขาก็จะนำไปปฏิบัติเอง :96: :96: :96: จากที่เรามักจะคิดว่า เด็กคงจะท่องพุทธวจน หรือคำสอนของพระพุทธเจ้ากันแบบนกแก้วนกขุนทอง ท่องไปเรื่อย ๆ ไม่รู้อะไร แต่พอได้ยินผู้ปกครองสะท้อนมาอย่างนั้น ทำให้เข้าใจเลยว่า เรานี่แหละคิดผิด เข้าใจเด็กผิดอย่างแรง เพราะถึงแม้เขาจะท่องไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ต้องจำได้ เขาได้ซึมซับและมีความซาบซึ้ง จนสามารถนำกลับไปปฏิบัติได้จริง และที่สำคัญการที่เด็กท่องนั้นยังมีคุณครูที่โรงเรียนช่วยอธิบายความหมายด้วย เพราะฉะนั้นจะไม่ได้อะไรเลยคงไม่ใช่ ต้องถือว่าโครงการครั้งแรกประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะอย่างน้อยก็สามารถปลุกให้เยาวชนตื่นรู้หันมาท่องพุทธวจนได้นับหมื่น ๆ คนจากการจัดทีมเข้าร่วม “โครงการชวนน้องท่องพุทธวจน” ครั้งที่ 1 (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/696688.jpeg) นางปราณี สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการมูลนิธิชวนน้องท่องพุทธวจน (Nongtong buddhawajana Foundation) กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของมูลนิธิคือ ปลูกฝังเยาวชนให้ใช้คำสอนของพระพุทธเจ้า เสมือนเป็นเสาเขื่อน เสาหลักของจิตใจ ที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ และส่งเสริมให้เยาวชนยึดมั่นในการทำความดี มีจิตใจมั่นคง มีธรรมะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและเป็นเกราะป้องกันให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติดและอบายมุขทั้งปวง อีกทั้งเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีงามในครอบครัวและชุมชน ระหว่างนักเรียน มารดาบิดา ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ และชุมชน รวมถึงเป็นการร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ เพื่อความเจริญ และตั้งมั่นของพระสัทธรรม ทรงไว้ซึ่งคำสอนขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้รุ่งเรือง ยั่งยืน ยาวนาน สืบไป จากวัตถุประสงค์ของมูลนิธิและกิจกรรมที่ได้ทำจนประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้คณะทำงานเกิดกำลังใจที่จะสานต่อและเกิดเป็นโครงการสำหรับปีนี้เป็น “โครงการชวนน้องท่องพุทธวจน” ครั้งที่ 2 ขึ้นมา โดยเป็นการต่อยอดโครงการครั้งที่ 1 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานองค์กรทั้งรัฐและเอกชนมากมายโดยมีความมุ่งหวังเดียวกัน คือ เพื่อขยายผลโครงการปลุกเด็กและเยาวชนให้ยึดมั่นการทำความดี มีธรรมะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/696689.jpeg) สำหรับกิจกรรมใน “โครงการชวนน้องท่องพุทธวจน” ครั้งที่ 2 จะมีด้วยกัน 4 ประเภท คือ 1. ประกวดท่องพุทธวจนประเภททีม 10 คน ชิงโล่รางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และท่องแดนพุทธภูมิตามรอยพระพุทธเจ้า ณ ประเทศอินเดียและเนปาล (ระดับประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) หรือเทศบาล รับสมัครออนไลน์ถึงวันที่ 15 มิ.ย. 2557) 2. ประกวดโรงเรียนรัตนะ 5 ต้นแบบ เป็นเลิศและสร้างสรรค์ “เผยแผ่พุทธวจน” ชิงโล่รางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และท่องแดนพุทธภูมิตามรอยพระพุทธเจ้า ณ ประเทศอินเดียและเนปาล (ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาทุกสังกัด รับสมัครออนไลน์ถึงวันที่ 31 ส.ค. 2557) 3. ประกวดคลิปวิดีโอท่องพระสูตรหน้าเสาธง ชิงเงินรางวัล 20,000-60,000 บาท และเพื่อคัดเลือกโรงเรียนและรวมตัวนักเรียนจำนวน 10,000 คน มาร่วมแสดงพลังอริยะประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าพร้อมกัน ในวันที่ 9 ก.ค. 2557 ที่อินดอสเตเดี้ยม หัวหมาก(ตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาทุกสังกัด รับสมัครออนไลน์ถึงวันที่ 15 มิ.ย. 2557) 4. ประกวดวาดภาพพุทธวจน เพื่อนำไปจัดทำสมุดระบายสีพุทธวจน 100 พระสูตร ชิงทุนการศึกษา 5,000 บาท (ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาทุกสังกัด รับสมัครออนไลน์ถึงวันที่ 10 ส.ค. 2557) (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/696690.jpeg) นอกจากกิจกรรมการประกวดดังกล่าวแล้ว มีสิ่งที่น่ายินดีคือ ปีนี้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมด้วยการให้นักเรียนที่มาเข้าคอร์สวิทยาศาสตร์ 400 คน ปิดภาคฤดูร้อนได้ท่องพุทธวจน โดยเริ่มจากพระสูตรพื้นฐานก่อน คือ พระสูตรที่ว่าด้วยการตอบแทนคุณบิดามารดาอย่างสูงสุด เพราะเรามองว่าเด็กของ สสวท.จะเป็นเด็กที่เก่งวิชาการ การปลูกฝังให้เด็กมีความกตัญญูแต่เบื้องต้นคือคุณสมบัติที่ดีของเยาวชน เพราะฉะนั้นถ้าเด็กเหล่านี้เป็นคนเก่งด้วย มีธรรมะและมีคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักยึดเหนี่ยวด้วยจะดียิ่งขึ้น จะทำให้เราได้ทั้งเด็กเก่ง ดี และมีคุณธรรม เป็นอนาคตที่ดีของประเทศ เชื่อว่าหลังจากโครงการปีนี้ผ่านพ้นไป เราน่าจะยิ่งเห็นภาพของเด็กไทยที่มีคุณภาพ เป็นคนดีมีคุณธรรมที่ชัดขึ้น เพราะจะเห็นรูปธรรมที่ออกดอกออกผลมากขึ้น เพราะปีนี้โครงการมีการขยายผลอย่างกว้างขวางขึ้นอย่างน้อย ๆ ต้องมีเด็กอีกไม่ต่ำกว่า 30,000 คนที่ท่องพุทธวจนได้เพราะคาดหวังว่าจะมีทีมน้อง ๆ จากทั่วประเทศเข้าร่วมประกวดไม่น้อยกว่า 2,000 ทีม ติดตามรายละเอียดการร่วมโครงการได้ทางเว็บไซต์ www.nongtongbuddhawajana.com (http://www.nongtongbuddhawajana.com) หรือโทร. 08-9119-7600, 09-1771-9488. อรนุช วานิชทวีวัฒน์ ขอบคุณภาพข่าวจาก www.dailynews.co.th/Content/education/240627/ปลุกเยาวชนตื่นรู้+ท่องพุทธวจน+มีธรรมะยึดเหนี่ยวใจ (http://www.dailynews.co.th/Content/education/240627/ปลุกเยาวชนตื่นรู้+ท่องพุทธวจน+มีธรรมะยึดเหนี่ยวใจ) หัวข้อ: Re: ปลุกเยาวชนตื่นรู้ ท่องพุทธวจน มีธรรมะยึดเหนี่ยวใจ เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ พฤษภาคม 28, 2014, 10:00:19 pm ขออนุโมทนาสาธุ
|