หัวข้อ: วัดสระเกศปั้น พระรุ่นใหม่ใฝ่ไอที เป็นวิทยากรสอนธรรม เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 03, 2014, 09:30:37 pm (http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2014/07/03/djd7aj5ibfbfi66e7jffj.jpg) วัดสระเกศปั้น พระรุ่นใหม่ใฝ่ไอที เป็นวิทยากรสอนธรรม อบรมภาคแรกของวิทยากรกระบวนการ พัฒนางานกระบวนธรรม ค่ายอารยาภิวัทธ์ จ. สุพรรณบุรี : พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธีรายงานเมื่อวันที่ ๒๖-๒๙ มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมกับกลุ่มเพื่อชีวิตดีงามได้อบรมผู้เข้าอบรมภาคแรก "วิทยากรกระบวนการ พัฒนางานกระบวนธรรม" ที่ค่ายอารยาภิวัทธน์ สหปฏิบัติ จ.สุพรรณบุรี :25: :25: :25: พระวิจิตรธรรมาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศได้กล่าวเปิดและให้โอวาทแก่ผู้เข้าร่วมอบรมประมาณ ๕๐ รูปโดยเน้นถึงความเป็นพระรุ่นใหม่นั้นต้องสามารถเผยแผ่ได้ทุกที่ ทุกโอกาสโดยอาศัยสื่อทุกอย่าง เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ เป็นต้น เพื่อให้ทุกรูปได้ตระหนักเห็นความสำคัญของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตลอดเวลา ก่อนจะถือโอกาสหลังจากการเปิดโครงการฯ ท่านเจ้าคุณฯ ให้พระภิกษุที่เข้าร่วมอบรมรักษาพระธรรมวินัยด้วยการฟังพระปาฎิโมกข์ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เป็นไปตามหลักไตรสิกขาคือศีล สมาธิ และปัญญา การอบรมครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากเจ้าของสถานที่คือคณะของคุณป้าปุบผา คณิตกุลและมูลนิธิบรรจงสนิทที่ได้กล่าวถึงค่ายอารยาภิวัทธน์นี้เกิดขึ้นจากการอบรมเยาวชนโดยกลุ่มพระวิทยากรจากวัดสระเกศตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับพระวิทยากรและผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ :96: :96: :96: กิจกรรมเริ่มต้นจากการทำวัตรสวดมนต์ นั่งสมาธิ ก่อนจะแนะนำพระวิทยากรให้ผู้เข้าอบรมได้รู้จัก และได้ลงกลุ่มทำกิจกรรมที่เน้นการสนทนาให้คำปรึกษาตามหลักจิตวิทยาพระพุทธศาสนา โดยวิธีการสนทนานี้พระมหานภันต์ สนฺติภทฺโทได้กล่าวสรุปว่า "เราต้องเน้นการฟังเสียงจากหัวใจไม่ใช่แค่เสียงที่ออกจากปาก มองด้วยหัวใจไม่ใช่แค่ด้วยตา ถึงจะสามารถพัฒนาคนได้อย่างแท้จริง หรือกล่าวง่ายๆ ว่าเป็นการตีอก ชกหัว คือมอบหัวใจ แล้วให้หัวคิด" และขณะเดียวกันก็ต้องเน้นการสื่อสารแบบสองทางตามที่พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธีได้กล่าวเสริมว่า "การสื่อสารทางเดียวไม่ได้ทำให้เราเข้าใจผู้อื่นได้ดีพอ ต้องสื่อสารสองทางคือฟังสิ่งที่คนอื่นพูดด้วย ถามบ้างเพื่อให้เขาได้แสดงออก จึงจะทำให้เราเข้าใจกันและฟังกันมากขึ้น" ans1 ans1 ans1 การอบรมวิทยากรกระบวนการจึงเน้นให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกการฟังและการสร้างความสนใจต่อผู้อื่น อย่างเช่น กิจกรรมสายน้ำแห่งชีวิตที่ให้ผู้เข้าอบรมวาดภาพสายน้ำแทนตัวเราแล้วให้แต่ละคนเล่าความเป็นมาของตัวเอง เมื่อใครเล่าทุกคนที่เหลือต้องตั้งใจฟังและความคิดเห็นหรือให้กำลังใจกัน พระมหานวพล กัลยาณเมธีผู้เข้าอบรมได้เล่าชีวิตตัวเองผ่านสายน้ำว่า "แม่น้ำคือชีวิตของผมนั้นคือทะเล เพราะทะเลไม่เคยปฏิเสธสายน้ำจากที่ไหน ไม่ว่าจะสะอาดหรือสกปรกก็รับได้ทั้งหมด คนเราก็ควรทำใจดังทะเลที่กว้างและลึก พร้อมจะรับทุกเรื่อง และปล่อยวางไม่ยึดติด ผมก็พยายามที่เป็นเช่นทะเลนั้น" พอได้แง่คิด เราทุกคนในกลุ่มได้สนทนากันต่อจึงเกิดความรู้เพิ่มเติมว่า "ถ้าใครทำชีวิตเหมือนแม่น้ำลำคลองที่ตื่นและแคบ ไม่ว่าจะโยนอะไรลงไปก็พร้อมจะเน่าเสียได้ตลอดเวลา" ans1 ans1 ans1 กิจกรรมสุดท้ายก่อนจากกัน คือการได้เล่าประสบการณ์จากเป็นวิทยากรกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม โดยมีคำถามหนึ่งจากผู้เข้าอบรมว่า "พระอาจารย์ครับ ผมเห็นคนอื่นเขาไปทำงานกันแค่สี่คนห้าคน ทำไมกลุ่มพระอาจารย์ถึงใช้คนเยอะ ไปกันทีละสิบคน สิบห้าคน" พระวิทยากรก็ช่วยกันตอบ "การไปเป็นกลุ่มแล้วมันอบอุ่นครับ มีอะไรก็ช่วยตักเตือนกัน ให้เกียรติกัน ส่งเสริมความเป็นพี่น้องระหว่างกันและกัน ความผูกพันระหว่างครูบาอาจารย์ พี่น้องผองเพื่อน ทำให้เราเดินมาได้ไกล ที่สำคัญพออยู่ในกลุ่มแล้วเราก็จะตัวเล็กลง ทำให้ไม่หลงตัวเอง" เพราะการทำงานเป็นกลุ่มได้นั้น ต้องไม่มีใครสำคัญมากน้อยกว่ากัน ทุกคนสำคัญเท่ากันหมด จึงจะสามารถทำงานทุกอย่างได้ประสบความสำเร็จ และพัฒนาตนไปพร้อมๆ กับช่วยคนอื่นพัฒนาไปด้วยกันอย่างแท้จริง ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.komchadluek.net/detail/20140703/187528.html (http://www.komchadluek.net/detail/20140703/187528.html) |