สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 14, 2014, 10:54:09 am



หัวข้อ: ทำไม เราจึงชอบกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 14, 2014, 10:54:09 am

(http://p4.isanook.com/ca/0/ud/274/1371565/14024844421402484460m.jpg)

ทำไม เราจึงชอบกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ

รู้ทั้งรู้ว่าของทอดของมันของหวานไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมเราจึงอดใจไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่น วันก่อนผมไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง หลังจากวิ่งเสร็จผมเดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อทานข้าวมื้อเย็น ด้วยความตั้งใจที่จะควบคุมน้ำหนัก เมนูที่คิดไว้ในหัวจึงเป็นอาหารเบาๆ จำพวกผักผลไม้ งดแป้งและเนื้อสัตว์ เช่น สลัดผัก ต้มจืด หรือผักผักรวมมิตร เสร็จแล้วก็กะว่าจะตบท้ายด้วยโยเกิร์ต แอปเปิ้ล หรือไม่ก็นมเปรี้ยวไขมันต่ำ

 ans1 ans1 ans1

ในขณะที่กำลังเดินเลือกว่าจะกินอะไรอยู่นั่นเอง กลิ่นหอมๆ และภาพชวนเย้ายวนของคอหมูย่างมันเยิ้มๆ หมูปิ้งไขมันแทรกติดไหม้นิดๆ ปีกไก่ชุบแป้งทอดจนเหลืองกรอบ ขาหมูพะโล้หนังสีน้ำตาลแวววาว และบะหมี่เส้นเหลืองๆ กับหมูกรอบราดด้วยน้ำแดงหวานข้น ก็ทำเอาผมไขว้เขว

แต่ผมก็พยายามหักห้ามใจเอาไว้ ด้วยการเตือนสติตัวเองว่า ขืนกินเอาอร่อยตามใจปากแบบเดิมๆ การวิ่งมาทั้งหมดในเย็นนี้ก็จะสูญเปล่า

 :49: :49: :49:

เวลาผ่านไป 20 นาที รู้ตัวอีกทีข้าวขาหมู หมูปิ้ง หมูสะเต๊ะ และโค้กเย็นๆ ซาบซ่า ก็ลงไปอยู่ในท้องผมเรียบร้อย
และไหนๆ ก็เลยเถิดไปแล้ว ผมจึงตบะแตกล้างปากด้วยเฉาก๊วยนมสด และไอศกรีมกะทิไข่แข็งซะเลย

ผม คิดว่า คุณผู้อ่านหลายคนคงเคยเป็นเหมือนผม อุตส่าห์วางแผนการกินซะดิบดี แต่ทุกอย่างก็ล่มสลายเมื่อเจอกับกลิ่นหอมๆ และสีสันของอาหารจำพวกเฟรนช์ฟราย สเต๊กเนื้อชุ่มฉ่ำ แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่าหน้าชีส สปาเกตตีครีมซอส ชิบูย่าโทสต์ คัพเค้ก มาการอง ป๊อปคอร์น ข้าวเหนียวทุเรียน ไอศกรีม

ซึ่งทั้งหมดนี้ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าไม่ดีต่อสุขภาพ แคลอรี่สูง เพิ่มความเสี่ยงโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคความดัน


(http://p4.isanook.com/ca/0/ud/274/1371565/79772400.jpg)

คำถาม คือ ทำไมอาหารอร่อยๆ จึงมักไม่ดีต่อสุขภาพ?
ทำไมเราจึงอดใจไม่ได้?
ทำไมธรรมชาติจึงสร้างให้เราชอบของมันของทอดของหวาน?
ทำไมธรรมชาติไม่สร้างให้เราชอบกินแต่ผักกับผลไม้ เหมือนกับยีราฟ กวาง หรือนกไปเลย?
ทำไมธรรมชาติจึงช่างใจร้ายกับเรา?

คุณ หมอชัชพล เกียรติขจรธาดา เจ้าของหนังสือ pop-sci ขายดีอย่าง 500 ล้านปีของความรัก เขียนอธิบายคำตอบของคำถามดังกล่าวไว้ในบทความชื่อ Why We Like Bad Food? ในนิตยสารผู้ชายเล่มหนึ่ง

 :96: :96: :96:

คุณหมอชัชพลบอกว่าการที่จะเข้าใจคำตอบของคำถามเหล่านี้ได้ เราต้องย้อนเวลากลับไปในจุดเริ่มต้นของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพื่อทำความเข้าใจก่อนว่าร่างกายของเราวิวัฒนาการมาให้เหมาะกับสิ่งแวดล้อม แบบไหน และอาหารธรรมชาติของมนุษย์คืออะไร

มนุษย์ต้องการสารอาหารต่างจากสัตว์อื่นๆ เราต้องการ "ไขมัน" มากกว่าลิงสายพันธุ์อื่นๆ เพราะสมองของเราใหญ่ นอกจากนี้ ไขมันยังเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการสร้างฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับร่างกายอีก หลายชนิด เช่น ฮอร์โมนเพศ

 :41: :41: :41:

เราต้องการ "โปรตีน" จากเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นพลังงานในการเติบโต และนับตั้งแต่มนุษย์วิวัฒนาการเกิดขึ้นมาบนโลกนี้เมื่อประมาณสองแสนปีที่ แล้ว เราใช้ชีวิตแบบล่าสัตว์และหาของป่ามาตลอด สัตว์ที่เรากินก็จะมีทั้งสัตว์เล็กๆ อย่างแมลงต่างๆ ไปจนถึงสัตว์ใหญ่ที่พอล่าได้

อย่างไรก็ตาม การล่าสัตว์ในวันที่เรามีแค่เท้าเปล่าและหอกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การได้กินเนื้อสัตว์จึงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยนัก

เช่นเดียวกับอาหารที่มีรสหวาน ริชาร์ด จอห์นสัน อายุรแพทย์โรคไต มหาวิทยาลัยโคโลราโดเดนเวอร์ บอกไว้ในนิตยสาร National Geographic ว่าความปรารถนาน้ำตาลฟรักโทสเป็นแรงกระตุ้นให้บรรพบุรษของเราดำรงชีพอยู่ได้ น้ำตาลฟรักโทสมีความจำเป็นต่อร่างกายมนุษย์อย่างมากในยามที่ขาดแคลนอาหาร

 :91: :91: :91:

แต่ทว่าในธรรมชาติน้ำตาลกลับเป็นของหายาก ผลไม้ป่าทั่วไปมักจะมีขนาดเล็ก ฝาด และไม่หวานมาก ยิ่งไปกว่านั้นบรรพบุรุษของเรายังต้องแย่งผลไม้กับลิง กระรอก ค้างคาว นก และสัตว์อื่นๆ

ส่วนเกลือซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นสำหรับร่างกายก็ไม่ใช่ของหาง่ายเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่จากอาหารทะเลแล้ว มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายก็ต้องไปหาเกลือจากดินที่มีเกลือผสมอยู่ที่เรียกว่า ดินโป่ง

 :s_hi: :s_hi: :s_hi:

เมื่อเนื้อ ไขมันสัตว์ อาหารหวาน และเค็มเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกายเราแต่หากินยาก สมองของบรรพบุรุษเราจึงถูกออกแบบมาให้เราชอบกินไขมัน เนื้อสัตว์ อาหารหวานและเค็มมากเป็นพิเศษ หากมีโอกาสได้กินของประเภทดังกล่าวก็จะเลือกกินก่อน เพราะถ้าไม่กินตอนนี้ก็ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่จะได้กินอีกครั้ง

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงชอบกินของทอดของมันของหวานที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
จะเรียกว่า "ยิ่งหายาก ยิ่งอยากกิน" ก็ไม่ผิดนัก


(http://p4.isanook.com/ca/0/ud/274/1371565/187635379.jpg)

คําถามต่อมาคือแล้วทำไมเราจึงหยุดกินไม่ได้?
คำตอบนั้นง่ายมากครับ เพราะว่าเรากำลัง "เสพติด" อยู่นั่นเอง

ในสมองของเราจะมีวงจรประสาทอยู่วงจรหนึ่งซึ่งเรียกว่า "วงจรโดปามีน" วงจรนี้เป็นวงจรที่จะทำให้เราและสัตว์ต่างๆ รู้สึก "อยาก" ในสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะความอยากในเรื่องที่เป็นสัญชาตญาณของการอยู่รอดและสืบทอดเผ่าพันธุ์

ถ้าเราทำอะไรก็ตามแล้ววงจรนี้ถูกกระตุ้นสมองเราก็จะจำสิ่งนั้นไว้ ทำให้เราอยากทำสิ่งนั้นซ้ำอีกเรื่อยๆ ยิ่งอะไรที่กระตุ้นวงจรนี้ได้แรง เราก็จะยิ่งอยากทำสิ่งนั้นมากขึ้นและบ่อยขึ้น

 :49: :49: :49:

ตัวอย่างของสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้วงจรนี้ทำงานได้ดีก็ เช่น เพศสัมพันธ์ อาหารหวาน อาหารเค็ม อาหารมัน หรือแม้กระทั่งยาเสพติดอย่างเฮโรอีนและโคเคนก็กระตุ้นผ่านตำแหน่งเดียวกัน

นี่เป็นเหตุผลทำให้เรากินไม่ยั้ง และรู้สึกอร่อย

มากไปกว่านั้น ข้ามมาที่โลกปัจจุบันที่อุตสาหกรรมอาหารมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท นักธุรกิจหัวใสก็ได้ใช้สัญชาตญาณของมนุษย์นี้เป็นตัวหาเงินเข้ากระเป๋า พวกเขาทุ่มงบประมาณมากมายเพื่อทำการวิจัยว่า ทำอย่างไรจึงจะทำให้ผู้บริโภคชอบกินอาหารของบริษัทตัวเองมากๆ และทำอย่างไรให้กินครั้งแรกแล้วอยากแวะเวียนกลับมากินอีกเรื่อยๆ

คุณหมอชัชพลตั้งคำถามง่ายๆ ว่า "แค่น้ำตาล เกลือหรือไขมันเดี่ยวๆ ตัวเดียวก็สามารถกระตุ้นวงจรนี้ให้เราอยากกินซ้ำได้แล้ว ถ้ารวมสองหรือสามอย่างนี้เข้าด้วยกันจะกระตุ้นวงจรนี้มากขนาดไหน"

 :29: :29: :29:

ในโลกยุคหิน โอกาสที่ไขมัน เกลือ และน้ำตาลจะมารวมกันอยู่ในอาหารชนิดเดียวเป็นไปได้ยาก แต่ในโลกปัจจุบัน อาหารสามารถมีรสชาติทุกอย่างรวมกันได้ง่ายๆ ยกตัวอย่าง เช่น ป๊อปคอร์นรสคาราเมล หรือมันฝรั่งทอดกรอบรสสาหร่ายโนริ ที่ทั้งหวาน เค็ม มัน กรอบ

ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้สมองของเราไม่สามารถปรับตัวกับรสชาติของอาหารได้ทัน แนวโน้มการกินของเราจึงกินในปริมาณเกินความต้องการเข้าไปอีกโดยไม่รู้ตัว

โดยเฉพาะความหวานจากน้ำตาล หนังสารคดีเรื่องล่าสุด "Fed Up" พูดถึงประเด็นการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในซูเปอร์มาร์เก็ตของสหรัฐอเมริกา อาหารมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนทั้งหมดกว่า 600,000 รายการ มีส่วนประกอบเป็นน้ำตาลในปริมาณมากเกินกำหนด

 ans1 ans1 ans1

นั่นหมายความว่าเราจะถูกกระตุ้นให้อยากกินซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากน้ำตาลที่ซุกซ่อนอยู่ในอาหารแทบทุกรายการ

พอรู้แบบนี้ หลายคนคงนึกเข้าข้างตัวเองในใจว่า "ตลอดเวลาที่ผ่านที่เราอดใจไม่ไหว ไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย แต่เป็นเพราะสัญชาตญาณมนุษย์ต่างหาก!"

พูดแบบนั้นก็มีส่วนถูกครับ (เพราะผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน-ฮา) ทว่า สิ่งที่เราอาจลืมคิดไปอีกอย่างก็คือ บรรพบุรุษของเราไมได้นั่งเล่นเฟซบุ๊กหรือทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา นะครับ พวกเขาอาจจะกินของหวาน ของมัน ของเค็มเยอะก็จริง แต่พวกเขาก็ออกกำลังกายด้วยการล่าสัตว์เยอะเช่นเดียวกัน

ฉะนั้น หากคุณอยากจะกินข้าวขาหมู หมูปิ้ง หมูสะเต๊ะ แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟราย และน้ำอัดลมแล้วละก็ อย่าลืมที่จะไปออกไปวิ่งล่าสัตว์ตามสวนสาธารณะบ่อยๆ ด้วยเช่นกัน

อันนี้ผมเตือนตัวเองนะครับ ไม่ได้ว่าคนอื่นแต่อย่างใด


คอลัมน์ Pop Teen
นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ kenshiro843@gmail.com
ที่มา นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์
campus.sanook.com/1371565/ทำไม-เราจึงชอบกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ/ (http://campus.sanook.com/1371565/ทำไม-เราจึงชอบกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ/)